For the English transcript of this video, please go to the following link:

https://legal.co.th/resources/thailand-real-estate-property-law/jurisprudence/alert-trumps-rejection-oecd-harbinger-thailand/

ผมขึ้นหัวข้อว่าเป็นการเตรียมพร้อมและก็เป็นการทำงานนอกเวลาปกติด้วย คือวิดีโอม้วนนี้ไม่ได้ออกสื่อตามรอบปกติ ซึ่งจะเป็นทุก 8 ชั่วโมง เพราะผมต้องการให้เรื่องนี้ออกสื่อให้เร็วที่สุด ฉะนั้นถึงต้องขึ้นหัวเรื่องว่า “เตรียมพร้อม” แต่ไม่ได้เป็นข่าวในทางลบนะครับ ผมทราบดีว่ามีผู้คนหลายคนที่กังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ทางภาษีทั่วโลกทั้งหมดนี้พูดถึง OECD, และความไร้สาระของโลกาภิวัตน์ ตอนนี้รู้สึกจะมีข่าวดีมากๆในประเด็นนี้มาจากสหรัฐอเมริกาในเวลานี้เลยโดยเฉพาะจากฝ่ายบริหารชุดใหม่เพราะนาย Trump ได้มีการกล่าวบางสิ่งบางอย่างเกี่ยวกับ OECD อย่างน้อยที่สุดก็ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับสหรัฐอเมริกาเอง

ผมคิดจะทำวีดีโอเรื่องนี้หลังจากที่ผมได้อ่านบทความเมื่อไม่นานมานี้ จริงๆแล้วก็เป็นข่าวประชาสัมพันธ์และ บันทึกความจำ ที่ผู้ชมวีดีโอช่องนี้ส่งมาให้ผม - ขอบคุณมากเลยครับ ผู้ส่งคงรู้อยู่แล้วว่าเป็นใคร - ขอบคุณที่ส่งมาเพราะเป็นเรื่องที่มีประโยชน์มากจริงๆ ผมเข้าเรื่องเลยก็แล้วกัน แล้วค่อยมาวิเคราะห์กันต่อ เอกสารชุดนี้มาจาก whitehouse.gov, และหัวข้อเรื่องของข่าวประชาสัมพันธ์นี้คือ: ข้อตกลงเรื่องภาษีนิติบุคคลขั้นต่ำทั่วโลก ขององค์กรเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) ผมได้พูดเรื่องสิ่งนี่มาตลอด สิ่งนี้เป็นความฝันจากพิษไข้ของJanet Yellen จำได้มั้ยครับ เธอไปกินเห็ดกับประธานาธิบดีสี เจิ้นผิง แล้วเกิดสะดุดความคิดเกี่ยวกับเรื่องภาษีขั้นต่ำทั่วโลกขึ้นมา - ใช่ครับ ภาษีขั้นต่ำทั่วโลก!! สิ่งนี้เป็นความคิดอันงี่เง่าของ Janet Yellen คือนางคิดว่าโดยนัยที่ได้เกิดเป็นมนุษย์ขึ้นมาแล้ว ทุกคนจะต้องจ่ายภาษีขั้นต่ำ ผมว่ามันไร้สาระมาก และประธานาธิบดี Trump ก็คิดเหมือนกัน แต่สิ่งที่ผมชอบคือวิธีการที่ Mr. Trump จาระไนและให้เหตุผลว่าเพราะเหตุใดสิ่งนี้จึงเป็นปัญหา และประเทศไทยก็ต้องฟังด้วย เรื่องนี้เกี่ยวกับประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตอนนี้ ซึ่งเป็นเหตุผลว่า ทำไมประเทศไทยไม่จำเป็นต้องมี OECD ขอยกข้อความโดยตรงจากบทความดังนี้: “บันทึกความจำถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นี่เป็นสาสน์จากประธานาธิบดีของสหรัฐฯที่ส่งถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังโดยตรง

กล่าวคือ: "ผู้แทนการค้าสหรัฐฯ

ผู้แทนถาวรของสหรัฐฯ ประจำองค์กรเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา

หัวข้อ: ข้อตกลงเรื่องภาษีนิติบุคคลขั้นต่ำทั่วโลก ขององค์กรเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) 

ข้อตกลงเกี่ยวกับภาษีเงินได้นิติบุคคลขั้นต่ำทั่วโลกของ OECD ซึ่งได้รับการสนับสนุนโดยฝ่ายบริหารชุดที่แล้ว ไม่เพียงแต่อนุญาตให้มีเขตอำนาจศาลนอกอาณาเขตเหนือรายได้ของประชาชนอเมริกา" – ผมไม่สามารถพูดได้ดีกว่านี้สำหรับประเทศไทย มันเป็นการอนุญาตให้มีเขตอำนาจศาลนอกอาณาเขตมาอยู่เหนือรายได้ของคนไทย ซึ่งปรากฎเห็นเป็นหลักฐานได้จากพวกหากินกับแสตป์ภาษีที่เพ่นพ่านอยู่ทั่วประเทศไทย กลุ่มคนเหล่านี้คือเจ้าหน้าที่จากกรมสรรพากรสหรัฐฯ (Internal Revenue Service:IRS) เป็นเจ้าหน้าที่ของ IRS อย่างเปิดเผย ซึ่งปฏิบัติหน้าที่โดยขัดกับตรงโดยขัดกับอาชีพต้องห้ามในประเทศไทย เที่ยวบอกกับคนต่างชาติ หรือให้คำปรึกษากับคนต่างชาติในประเทศไทยเกี่ยวกับเรื่องภาษีในประเทศไทย และพวกเขายังออกความเห็นเกี่ยวกับกฎหมายภาษีของไทยว่าเราจะต้องโยนเรื่อง ”สิทธินอกอาณาเขต” เข้าไป คือใช้ระบบเฝ้าตรวจติดตามประชากรทั่วโลก ซึ่งจะทำให้คนไทยและทุกคนที่ต้องการเข้ามาในประเทศไทยเพื่อที่จะทำธุรกิจหรือเพื่อที่จะเกษียณอายุที่นี่ ต้องตกอยู่ภายใต้สิ่งนี้ และตอนนี้เราต้องรับกับการถูกสกัดเอาความมั่งคั่งออกมาจากเรา โดยนัยของการที่เราเกิดขึ้นมาบนโลกใบนี้ ขอบคุณพระเจ้าที่ส่ง Mr. Trump มา อย่างน้อยที่สุดก็เหมือนกับ ผู้พิพากษา Gorsuch ที่ให้ความคิดเห็นที่แสนจะเจ็บแสบเกี่ยวกับ COVID จะเรียกว่าเป็นผลงานอันยิ่งใหญ่ของท่านก็ว่าได้ ที่ท่านสู้จากบัลลังก์เพื่อเสรีภาพของประชน แต่ Mr. Trump กำลังพูดกับทุกคนบนโลกใบนี้ว่า เรื่องสิทธินอกอาณาเขตนี่ไร้สาระสำหรับการเก็บภาษี มันไม่ได้เป็นผลดีต่อผลประโยชน์แห่งชาติของอเมริกาแต่อย่างใด และในความคิดของผม มันก็ไม่เป็นการดีสำหรับผลประโยชน์แห่งชาติของไทยด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ผมขอยกข้อความมากล่าวต่อ: "เขตอำนาจศาลนอกอาณาเขตเหนือรายได้ประชาชนอเมริกัน ยังจะเป็นการจำกัดความสามารถของประเทศเราที่จะกำหนดนโยบายต่างๆเกี่ยวกับภาษีที่จะก่อให้เกิดประโยชน์ต่อธุรกิจของอเมริกาและ แรงงานของอเมริกาอีกด้วย.." - แน่นอนครับ - คงพูดดีกว่านี้ไม่ได้อีกแล้ว และผมคิดว่าประเทศไทยก็ควรจะคิดแบบนี้ นี่คือเหตุผลว่าทำไมเราจึงไม่จำเป็นต้องเริ่มต้นด้วยการมี OECD อีกอย่างหนึ่งก็คือ ไม่ว่าสื่อมวลชนในประเทศจะมีเล่ห์เพทุบายอย่างไรก็ตาม ตอนนี้ก็ยังไม่มี OECD ในประเทศไทย สิ่งไร้สาระทั้งหลายนี่ เป็นพวกที่หากินกับภาษีภายใต้เกณฑ์การประเมินโดยพูดว่า “อ๋อ เราต้องเดินตามแนวทางของ OECD และทั้งหมดนี้เป็นข้อสรุปที่มีมาก่อนแล้ว”, ไม่ใช่ครับ ยังไม่มีหน่วยงานใดออกมายืนยันว่าคุณเป็นหนี้ภาษีอยู่ ด้วยเหตุที่คุณเกิดขึ้นมาบนโลกใบนี้  ผมไม่สนใจเลยว่าไอ้พวกที่หากินกับแสตมป์ภาษีจะว่ายังไง คือ ผมไม่สนใจเลยว่าเจ้าหน้าที่ของ IRS ที่ทำงานในประเทศไทยอย่างผิดกฎหมายจะพูดยังไง, หรือจะเป็นใครก็ตาม ในเรื่องนี้ผมเห็นด้วยกับ Mr. Trump อะไรที่เป็นความถูกต้องสำหรับชาวอเมริกัน ก็เป็นสิ่งที่ถูกต้องสำหรับชาวไทยด้วยเช่นกัน บทความยังกล่าวต่ออีกว่า: "เพราะข้อตกลงเกี่ยวกับภาษีเงินได้นิติบุคคลขั้นต่ำทั่วโลกนี้และการเลือกปฏิบัติต่อภาษีของต่างประเทศ, อาจทำให้บริษัทอเมริกันต้องเผชิญกับระบอบการตอบโต้ทางภาษีจากนานาชาติ หากสหรัฐฯไม่ปฏิบัติตามวัตถุประสงค์ของนโยบายภาษีของต่างประเทศ” – เราจะนำเรื่องระบอบการตอบโต้ทางภาษีจากนานาชาติเข้ามาสู่ประเทศไทยหรือครับ ดูเหมือนว่ารัฐบาลชุดนี้จะต้องการสิ่งนี้ หรือถ้าจะให้พูดให้ชัดเจนก็คือ "พรรคแกนนำ" ของรัฐบาลชุดนี้ดูเหมือนจะคิดว่า มันเป็นความคิดที่ดีที่ไปร่วมประชุมที่ World Economic Forum อยู่ในขณะนี้ แทนที่จะให้นายกอยู่บริหารประเทศ - สำหรับประเทศไทย ก็เช่นกัน ไม่ว่าการขัดกันแห่งกฎหมายที่มีอยู่ในประเทศไทย หรือไม่ว่ามันจะเป็นความจริงที่ว่ามันจะเป็นข้อจำกัดต่อการเข้ามาของชาวต่างชาคิและคำแนะนำเกี่ยวกับกฎหมายภาษีของไทย เราก็ยังมีพวกที่พูดว่า ด้วยเหตุใดเหตุหนึ่งเราก็ต้องเข้าไปพัวพันกับ quantum tax บางประเภท กับทุกประเทศที่เป็นสมาชิกของ OECD ดังนั้น จึงเหมือนกับเราตกอยู่ในรัฐเผด็จการที่การทำธุรกรรมทางการเงินทั้งหมดของเราจะถูกสอดส่องติดตาม และเงินของเราก็จะถูกสกัดออกไป โดยพวกเขาจะพูดอยู่เสมอว่ามันเป็นเรื่องของการเก็บภาษี แม้ว่าในความเป็นจริงเราจะถูกเก็บภาษีมาแล้วมากกว่า 1 ครั้งก็ตาม มันเป็นเพียงมาตรการบีบคั้นอีกอย่างหนึ่งโดยพวกรวยระดับโลก ที่พยายามจะขโมยเงินจากคนที่ตัวเล็กที่สุดบนเสาโทเทมของพวกอินเดียนแดง มันเป็นเรื่องที่ผมเบื่อมาก ผมดีใจมากที่อย่างน้อยก็มีประธานาธิบดีของสหรัฐฯหนึ่งคน ที่พูดได้อย่างชัดแจ้งถึงค่านิยมที่เป็นพื้นฐานของการก่อตั้งประเทศเรา

ผมขอกล่าวอีกครั้งหนึ่งว่าประเทศไทยจำเป็นที่จะต้องทำเช่นเดียวกันนี้ เพราะสิ่งเหล่านี้ ถ้าเกิดขึ้นในประเทศไทยจะทำให้เศรษฐกิจเราพังทลาย ซึ่งนี่แหละคือเหตุผลที่เราต้องปฏิเสธ OECD ในทันทีอย่างเด็ดขาดตรงไปตรงมา และโดยเฉพาะอย่างยิ่งจะต้องกำจัดพวกต่างชาติทั้งหลายที่ชอบ ”ยุ่งไปทั่ว” ที่แฝงตัวเข้ามาในประเทศนี้ แล้วเที่ยวมาบอกเราว่าควรจะทำระบบภาษีของเราอย่างไร บทความยังกล่าวต่ออีกว่า: "บันทึกความจำนี้ ได้ทำให้หวนนึกถึงอธิปไตยของชาติและความสามารถในการแข่งขันของชาติขึ้นมาอีกครั้ง โดยการแจกแจงให้เห็นว่า ข้อตกลงเรื่อภาษีทั่วโลกนี้ ไม่มีสภาพการบังคับหรือไม่มีผลอะไรเลยในสหรัฐฯ" กล่าวต่อ: "การบังคับใช้ข้อตกลงเรื่องภาษีเงินได้นิติบุคคลขั้นต่ำทั่วโลกนี้ - รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังและตัวแทนถาวรของสหรัฐฯประจำ OECD จะแจ้งไปยัง OECD ว่าพันธกรณีใดๆที่รัฐบาลชุดที่แล้วได้กระทำในนามของประเทศสหรัฐอเมริกาที่เกี่ยวกับข้อตกลงทางภาษีทั่วโลก จะไม่มีผลใดๆหรือไม่มีการบังคับใช้ภายในสหรัฐฯโดยขาดการเห็นชอบของรัฐสภาในบทบัญญัติที่เกี่ยวข้องกับข้อตกลงภาษีทั่วโลกนี้" ถูกต้องเผงเลยครับ ทั้งหมดนี้เป็นการใช้อำนาจในทางมิชอบ รัฐสภาไม่เคยผ่านกฎหมายใดๆเลย คล้ายกับในประเทศไทย คือรัฐสภายังไม่ได้ประกาศใช้กฎหมายที่กล่าวว่า: "ตอนนี้ทุกคนมีหน้าที่อันแน่นอนที่จะต้องยื่นแบบแสดงรายการภาษี; ทุกคนมีหน้าที่อันแน่นอนที่จะต้องยื่นแบบแสดงรายการภาษี" ยังไม่มีกฎหมายแบบนี้  มันเป็นการใช้อำนาจในทางมิชอบ มันเป็นเป็นเรื่องไร้สาระเช่นเดียวกับที่ทำให้เราไปติดอยู่กับ COVID คือจะมีพวกซื่อบื้อกลุ่มหนึ่งที่หลับหูหลับตาทำตามคำสั่งเบื้องบนมาบอกเราให้ทำนั่นทำนี่ โดยบอกว่ามันเป็นกฎ หรือเป็นอาณัติ หรือเป็นแนวทางของฝ่ายบริหาร แต่ในความเป็นจริงแล้วก็ไม่มีกฎหมายอะไรมารองรับเลย มีแต่ไอ้พวกคนปลิ้นปล้อนที่สมอ้างว่ามีกฎหมายรองรับเพื่อที่จะให้เราทำตาม และทันทีที่เราทำตาม เราก็ติดกับดักของมัน เราถูกจับใส่คอก และเราก็ตกเป็นทาสของคนกลุ่มนี้ไปตลอดกาล ฉะนั้น มันจึงเป็นการดีที่ได้เห็นประธานาธิบดีออกมาพูดว่ากำลังจะล้มเลิกสิ่งเหล่านี้ บทความกล่าวต่ออีกว่า: "ผู้แทนการค้าของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของสหรัฐฯ จะใช้ความพยายามเพิ่มเติมทุกทางที่อยู่ภายใต้ขอบเขตหน้าที่ของตนเพื่อที่จะทำตามบันทึกความจำฉบับนี้" สำหรับประเทศไทย เราไม่มีความจำเป็นต้องทำเช่นนั้นเลย เพราะเรายังไม่ได้เข้าร่วมกับ OECD ถึงแม้ในความเป็นจริงจะมีสมาชิกของพรรคร่วมรัฐบาลบางคนดูเหมือนว่าจะพยายามเสแสร้งว่าเราอยู่ในกลุ่ม OECD แล้วก็ตาม และพยายามบังคับให้ทุกคนในชาติเชื่อในเรื่องที่ไร้สาระนี้ ถึงกระนั้นก็ตาม ความจริงอันยิ่งใหญ่ข้อหนึ่งก็คือ ชาติมหาอำนาจที่อาจจะใหญ่ที่สุดในโลกที่เคยอยู่ใน OECD กำลังจะถอนตัวออกมา ถ้าเรื่องนี้ยังไม่สามารถจะบอกอะไรกับคุณได้ ผมก็ไม่รู้จะพูดว่ายังไงแล้ว นอกจากนี้เราก็ไม่จำเป็นต้องโหวตเพื่อที่จะออกจากเรื่องนี้ และผมก็ไม่สนใจว่าไอ้พวกหากินกับภาษีจะพูดว่ายังไงด้วย, เข้าใจไหมครับ? กฎหมายในประเทศไทยก็ไม่ได้บอกให้ต้องยื่นแบบแสดงรายการภาษี แต่ในบางกรณีคุณอาจจะยื่นแบบแสดงรายการภาษี ซึ่งขึ้นอยู่กับสถานการณ์ของแต่ละคน แต่ไม่มีเรื่องภาษีขั้นต่ำทั่วโลกแน่นอน เพราะประเทศไทยยังไม่ได้ร่วมในโครงการนี้ และอีกอย่างหนึ่ง ตามที่ผมเคยพูดในวีดีโอม้วนอื่นแล้วว่า หลักการการจัดทำประมวลกฎหมาย (doctrine of codification) ยังมีความจำเป็นต้องใช้ในประเทศที่ใช้ระบบกฎหมายแบบลายลักษณ์อักษร ในประเทศไทยมีกฎหมายฉบับไหนที่กำหนดว่าประชาชนต้องยื่นแบบแสดงรายการภาษี - กฎหมายฉบับนั้นอยู่ไหน? อ้อ รู้แล้ว ก็มันไม่มี ใช่ไหมครับ? ไม่มีเลย พวกคุณเข้ามาในประเทศนี้แล้วคุณพยายามที่จะใช้อิทธิพล – ขอยกข้อความจากบทความนี้ก็แล้วกัน ที่ว่า: "เปิดโอกาสให้เขตกฎหมายนอกอาณาเขต อยู่เหนือรายได้ของคนอเมริกัน" ให้ผมเขียนเองผมคงเขียนดีกว่านี้ไม่ได้ คือ "เปิดโอกาสให้เขตอำนาจศาลนอกอาณาเขตมาอยู่เหนือรายได้ของคนไทย" และในขณะนี้เราก็ยังไม่มีการออกกฎหมายอะไรเลยเพื่อที่จะอนุญาตให้สิ่งนี้เกิดขึ้น เข้าใจนะครับ? จริงอยู่เราลงนามในบันทึกความเข้าใจว่าเราจะศึกษาเรื่องนี้ ซึ่งน่าจะเพียงพอแล้วกระมังที่เราจะตอบไปว่าเราได้ศึกษาแล้ว และเราเห็นว่ามันเป็นสิ่งที่แย่มาก แล้วการที่พวกหากินกับภาษี ปลุกปั่นให้เกิดความกลัว หรือพูดเกินความจริง ซึ่งผลที่จะตามมาคือ อาจจะทำให้เราสูญเสียชาวต่างชาติจำนวนมากที่ต้องการเข้ามาใช้ชีวิตหลังเกษียณอยู่ในประเทศไทย อาจจะทำให้เราสูญเสียนักลงทุนกลุ่มใหญ่ และอาจจะทำให้เราสูญเสียนักท่องเที่ยวกลุ่มใหญ่ด้วย เพราะไม่มีใครต้องการที่จะทนกับประเทศที่เป็นเผด็จการ ซึ่งเพียงแค่โดยนัยของการเข้ามาในประเทศก็ทำให้คุณเป็นหนี้ทางภาษีแล้ว ทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับ OECD จำเป็นต้องขจัดออกไปให้หมด; เรื่องภาษีนิติบุคคลขั้นต่ำทั่วโลก เป็นสิ่งที่ไร้สาระมาก ผมขอปรบมือให้ Mr. Trump ที่ชี้ให้พวกเราเห็นถึงสิ่งเหล่านี้ และผมหวังว่าพวกที่มีสติและอยู่ในความสงบยามคับขันในประเทศไทยจะมองเห็นถึงความชาญฉลาดในหนทางปฏิบัติอันนี้ และปฏิบัติตามนั้น