Integrity Legal - Law Firm in Bangkok | Bangkok Lawyer | Legal Services Thailand Back to
Integrity Legal

Legal Services & Resources 

Up to date legal information pertaining to Thai, American, & International Law.

Contact us: +66 2-266 3698

info@integrity-legal.com

ResourcesCorporate and Tax AdvisoryThailand Tax Lawทำไมคุณถึงฟังคำแนะนำเรื่องภาษีจากชาวต่างชาติที่งี่เง่าในระบบออนไลน์

ทำไมคุณถึงฟังคำแนะนำเรื่องภาษีจากชาวต่างชาติที่งี่เง่าในระบบออนไลน์

For the English transcript of this video, please go to the following link: 

https://www.legal.co.th/resources/corporate-and-tax-advisory/thailand-tax-law/why-are-you-getting-thai-tax-advice-idiot-foreigners-online/

ชื่อของวีดีโอเรื่องนี้ อาจจะฟังดูเร้าใจอยู่สักหน่อย  แต่ก็ตรงประเด็นจริงๆ เมื่อไม่นานมานี้ ผมได้ยินเรื่องนี้จากหลายคนใน YouTube คือผมอยู่ที่นี่มา 16 ปีและผมจำได้ในสมัยก่อนที่มี Thai Visa forum ซึ่งข้อมูลในกลุ่มนี้คือที่สุดแล้ว หรือจะเปรียบได้ว่าเป็น “ชุมทาง” ของความคิดที่ชาวต่างชาตินำมาแลกเปลี่ยนกัน หรือจะถือว่าเป็น “ตลาดนัด ความคิดของฝรั่ง” ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ก็ว่าได้ แต่เมื่อ YouTube ถือกำเหนิดขึ้นมาและมีการทำ content ออนไลน์ เราได้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงต่างๆเกิดขึ้นมากมาย แต่ยิ่งเปลี่ยนมากเท่าไหร่ก็จะยิ่งอยู่เหมือนเดิมมากเท่านั้น ขอพูดตรงๆว่า เหตุผลที่ผมสร้างช่องนี้ขึ้นมา ก็คือเพื่อที่จะต่อสู้กับข้อมูลที่ไม่ถูกต้องหรือไม่ตรงประเด็นที่ล่องลอยไปมาอยู่ในระบบอินเทอร์เน็ต หรืออาจะเรียกว่าเป็นข้อมูลเท็จ หรือข้อมูลที่บิดเบือนก็ได้ เพราะดูเหมือนจะมีหลายคนที่อยู่ในยุคของการอภิปรายแสดงความคิดเห็น ที่ชอบพ่นพล่ามแต่เรื่องไร้สาระ หรืออาจจะไม่มีความรู้ในเรื่องที่กำลังคุยอยู่ด้วยซ้ำ หรือรู้แค่ครึ่งๆกลางๆแล้วมาออกความคิดเห็น ผมพบว่าผู้คนที่ฟังบุคคลเหล่านี้ มักจะเกิดปัญหาตามมา เพราะหลายๆอย่างไม่ได้เป็นไปอย่างที่คิด กระบวนการของแต่ละคนจะไม่เหมือนกัน บางคนอาจจะง่าย บางคนอาจจะยาก แล้วแต่กรณี หรือแม้กระทั่งคนที่อยู่คนละจังหวัด ก็อาจจะต้องพบเจอขั้นตอนที่แตกต่างกันก็ได้ นอกจากนี้ อย่างที่ผมเคยพูดไว้หลายครั้งในช่องรับฟังนี้ คือประเด็นที่เกี่ยวกับภาษี ซึ่งการพิจารณาเรื่องภาษีนั้นจะขึ้นอยู่กับสถานการณ์แวดล้อมของแต่ละคนเป็นสำคัญ เพราะฉะนั้น ถ้าหากมีใครที่กำลังให้คำแนะนำประเภท “สูตรสำเร็จ” ว่าสามารถใช้ได้กับทุกกรณี ถือว่าเป็นสิ่งที่งี่เง่ามาก หาคำพูดอื่นไม่ได้จริงๆ การพูดคลุมไปอย่างกว้างๆต่อกลุ่มคนเยอะๆว่ามันจะเป็นอย่างนั้นอย่างนี้นั้น ขอโทษเถอะ นั่นไม่ใช่สิ่งที่จะต้องไปสนใจเลย และถ้าหากมีใครที่มีความรู้ทางด้านกฎหมายก็จะรู้ว่า การหาข้อเท็จจริงและการหาข้อสรุปทางด้านกฎหมาย จะมีความแตกต่างกันไปในแต่ละกรณี เรื่องจริงมันเป็นอย่างนั้นครับ 

ในขณะที่ มีคนออกมาพล่ามเรื่องเกี่ยวกับกฎหมาย หรือให้คำปรึกษากับผู้คนหรือให้ข้อมูลในเชิงการให้คำปรึกษา ซึ่งขอบอกอีกครั้งหนึ่งว่า ผมมุ่งมั่นที่จะทำความชัดเจนในช่องรับฟังนี้ ว่าช่องนี้มีไว้สำหรับการให้ความรู้อย่างกว้างๆ คือเพียงแต่ให้ข้อมูลเท่านั้น ไม่ได้ทำขึ้นมาเพื่อที่จะให้ผู้ฟังถือเป็นข้อสรุปในประเด็นที่เกี่ยวกับกฎหมาย หรือภาษี หรือการทำบัญชีแต่อย่างใด และผมเคยกล่าวในวีดีโอเรื่องอื่นหลายครั้งว่า การกระทำเช่นนั้น จะเป็นการละเมิดต่ออาชีพที่ถูกจำกัดตามที่กฎหมายกำหนดไว้ ซึ่งเราก็เคยพูดไว้ในวีดีโอม้วนอื่นๆของปี 2020 โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องการให้บริการทางด้านกฎหมาย การทำบัญชี หรือการให้คำปรึกษา หรือแม้กระทั่งการตั้งบริษัทตัวแทน หรือการเป็นนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ หรืองานเลขานุการก็ตาม ซึ่งมีข้อห้ามทางด้านกฎหมายมากมายสำหรับชาวต่างชาติที่จะมาพูดคุยในประเด็นเหล่านี้ เพราะส่วนใหญ่แล้ว พวกเขาไม่ได้เข้าใจในสิ่งที่กำลังพูดอยู่เลย เนื่องจากมันเป็นระบบภาษีของประเทศไทยโดยเฉพาะ มันไม่ใช่อย่างที่ชาวต่างชาติคิดว่าระบบภาษีของประเทศไทยจะเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ แล้วผมก็เชื่อด้วยว่าคงจะมีหลายคนที่จะกัดผม โดยการพูดว่า “คุณมันกึ่งๆจะเจ้าเล่ห์” เพราะผมก็เคยเป็นชาวต่างชาติมาก่อน ประการแรก, ผมขอพูดอย่างตรงๆเลยว่าผมได้โอนสัญชาติเป็นคนไทยเมื่อ 5 ปีที่แล้ว และผมก็ไม่ได้เปิดช่องนี้ขึ้นมาเพื่อเสนอ “สูตรสำเร็จ” ในการดำเนินการเกี่ยวกับเรื่องภาษีในประเทศไทย นอกจากนี้ เรายังไม่รู้ด้วยซ้ำว่านโยบายด้านภาษีจะเป็นอย่างไรต่อไป ยังไม่มีการประกาศอะไรออกมาให้เรายึดถือใช้เป็นแนวทางปฏิบัติต่อไป มากไปกว่าการเพิกถอนกฎที่เคยมีมาตลอดก่อนนี้ เพราะฉะนั้น หากมีใครสรุปว่าเรื่องมันจะต้องเป็นแบบนั้นแบบนี้ล่ะก็ ผมพยากรณ์ได้เลยว่า ต้องพูดว่า ผมคิดว่าเคสส่วนใหญ่จำนวนมากประมาณ 80% อาจจะไม่ต้องวิตกกังวล ผมไม่ได้หมายความว่าเป็นตัวเลขนี้เป๊ะๆนะ เป็นการพูดจากสัญชาตญาณของผมในเวลานี้เท่านั้น อย่างไรก็ตาม ผมคิดว่ามีความเป็นไปได้สูงที่จะมีผู้คนประมาณ 20% ที่อาจจะได้รับผลกระทบจากสิ่งนี้ แต่ละกรณีก็จะแตกต่างกันออกไป และถ้ามีใครโดยเฉพาะที่เป็นชาวต่างชาติที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับกิจกรรมที่ไม่ถูกกฎหมายอยู่ในขณะนี้ ด้วยการให้คำแนะนำด้านข้อกฎหมาย ให้คำแนะนำด้านการทำบัญชี หรือการประเมินภาษีแล้วล่ะก็ คุณได้ทำผิดกฎหมายโดยสมบูรณ์แล้ว เพราะฉะนั้น หากมีใครก็ตาม ที่กำลังฟังผู้คนที่เหล่านี้อยู่ ผมอยากถามว่า “คุณไปฟังพวกนั้นได้ยังไง?” ในความเห็นของผม คนเหล่านี้เป็นคนที่งี่เง่าเรื่องกฎหมายมากที่สุด ไม่รู้ว่าจะเรียกว่ายังไงดี ผมจะไม่พูดว่ามันเป็นมืออาชีพ และผมจะไม่พูดอย่างแน่นอนว่าพวกมันเป็นผู้เชี่ยวชาญที่ถูกต้องตามกฎหมาย เพราะว่า ถ้าเป็นชาวต่างชาติแล้ว จะไม่สามารถเป็นผู้เชี่ยวชาญที่ถูกกฎหมายในประเทศไทยได้เลย ชาวต่างขาติจะถูกกันออกจากอาชีพดังกล่าวโดยกฎหมาย และถ้าฝ่าฝืนก็ยังมีโทษทางอาญาอีกด้วย 

คราวนี้ลองมาดูเหตุผลของเรื่องนี้ ซึ่งทำให้ผมหัวเสียพอสมควร คือผมรู้ว่าจะมีผู้คนออกมา comment แน่นอนว่า “ก็เขาเป็นคนไทยแล้วนี่ สิ่งที่เขาทำอยู่ก็คือการชักบันใดหนีเท่านั้น” คุณรู้อะไรไหม มันยังมีอย่างอื่นอีกนะที่ผมได้รับเป็นการตอบแทน จากการทำงานหนักและสั่งสมประสบการณ์มายาวนานที่นี่ ผมชอบในการเป็นคนไทย แต่ผมไม่เคยที่จะเอ่ยอ้างว่าผมเป็นนักกฎหมายไทยเลย และผมก็ไม่เคยคิดจะอ้างด้วย ผมเป็นทนายความอเมริกัน แต่ผมสามารถที่จะให้รายละเอียดลึกๆ (เกี่ยวกับกฎหมายไทย)ได้ ผมเองเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทนี้มาเกินกว่าทศวรรษครึ่งแล้ว และในตำแหน่งงาน ผมก็ทำในสิ่งที่ผมทำ แต่ถ้าเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับกฎหมายไทย ผมจะให้ผู้เชี่ยวชาญในสำนักงานที่เป็นคนไทยทำแทน และนี่เป็นเหตุผลที่ผมโกรธ ถ้าหากต้องมาขีดเส้นที่ผมว่า "คนต่างชาติไม่สามารถที่จะเข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องกฎหมายไทยได้” มันมีเหตุผลดีๆอยู่ คนเหล่านี้ไม่รู้และไม่เข้าใจว่า มันเป็นกฎหมายของประเทศไทย อีกอย่างหนึ่งคือ มันมีประเด็นเกี่ยวกับอธิปไตยของประเทศอยู่ด้วย ถ้าหากมีชาวต่างชาติเข้าไปปั่นป่วนว่าจะตีความกฎหมายไทยอย่างไร มันเหมือนกับกรณีหลักนิติศาสตร์ของสหรัฐฯกับกฎหมายว่าด้วยการอนาจาร-ซึ่งผมเคยสอนวิชานี้ที่มหาวิทยาลัยกรุงเทพ ผมจะคุยกับนักศึกษาเรื่องกฎหมายว่าด้วยการอนาจาร และหนึ่งในองค์ประกอบของพัฒนาการของกฎหมายอนาจารในสหรัฐฯคือ สิ่งที่เรียกว่า “มาตรฐานชุมชนร่วมสมัย” นี่คือพื้นฐานของการพัฒนากฎหมาย เพราะผู้คนก็มีการวิวัฒนาการด้วยเช่นกัน เพราะฉะนั้น ถ้าหากกระบวนการทางความรู้สึกนึกคิดของคนไทยที่เกี่ยวกับกฎหมายไทย ตกอยู่ใต้อิทธิพลจากคนต่างชาติ กฎหมายไทยก็จะมีวิวัฒนาการไปในทางที่ได้รับอิทธิพลมาจากชาวต่างชาติ และนั่นคือเหตุผลที่แท้จริงที่ประเทศไทยมีกฎหมายกำหนดถึงอาชีพหวงห้ามสำหรับชาวต่างชาติ อันเป็นการป้องกันไม่ให้สิ่งนี้เกิดขึ้น นี้คือเหตุผลว่าทำไมผมถึงรู้สึกกระเหี้ยนกระหือรือกับเรื่องนี้ ก็เพราะผมรักประเทศนี้และผมไม่ต้องการให้ประเทศนี้ได้รับอิทธิพลในทางลบจากชาวต่างชาติมากไปกว่าที่จำเป็น ผมเคยพูดแล้วและผมก็จะพูดอีกครั้ง มีหลายคนชอบบอกว่า "ทำไมช่วงโควิด คุณจึงปล่อยผ่าน และไม่วิจารณ์ผู้คนที่เกี่ยวข้องกับประเด็นนั้นในประเทศไทย?" ก่อนอื่นเลยนะ ผมไม่ได้ปล่อยผ่านเลย ถ้าหากคุณย้อนกลับไปดูในช่องรับฟังนี้ เราได้พูดหลายอย่างเกี่ยวกับปัญหาที่ผมพบเห็นเกี่ยวกับกฎหมายในเวลานั้น แล้วผมยังยก Nuremberg Codes และประเด็นอื่นๆมาพูดถึงด้วย แต่ก็ช่างมันเถอะ และผมเองก็คิดอยู่ในหัวตลอดเวลาว่า บางครั้งก็ต้องมองว่าเป็นอิทธิพลจากชาวต่างชาติ เป็นความคิดจากต่างประเทศที่เข้ามาในประเทศไทยแล้วบอกเราว่าเราจะต้องทำสิ่งโน้นสิ่งนี้ แต่ในที่สุดมันก็เป็นเรื่องไร้สาระอยู่พอสมควร ผมก็มีความรู้สึกรังเกียจเช่นเดียวกันต่อปรากฏการณ์นี้ เพราะผมไม่ต้องการเห็นระบบกฎหมายของประเทศไทยได้รับอิทธิพลอย่างเกินควร หรือถ้าพูดตรงๆก็คือ อย่างไม่ถูกต้อง จากความคิดของชาวต่างชาติ

ผมอาจจะเป็นพวกรุนแรง เพราะมีการโอนสัญชาติผมก็ต้องยอมรับ ผมอาจจะเป็นคนไทยที่หัวโบราณที่สุดก็ได้ เพราะผมไม่ต้องการให้มีอะไรเปลี่ยนแปลงเลย และในหลายมุมมองเกี่ยวกับประเทศไทย ผมก็คิดอย่างนั้น ผมชอบประเทศไทยมากตอนผมมาถึงใหม่ๆ ผมอยากให้มันหยุดอยู่อย่างนั้นและปล่อยให้เวลาเดินหน้าต่อไป แต่ผมก็รู้ว่าเป็นไปไม่ได้ แต่เมื่อบางสิ่งบางอย่างเริ่มเลวร้าย และเมื่อมีบางอย่างที่ผมคิดว่าอาจจะทำร้ายประเทศไทย ผมคิดว่ามันเป็นพันธะกรณีของผมที่จะต้องชี้ถึงประเด็นเหล่านั้น และการที่ให้ชาวต่างชาติมีอิทธิพลกับความคิดทางด้านกฎหมายของประเทศนี้อย่างไม่เหมาะสมและไม่ถูกต้อง ผมบอกเลยว่าเป็นสิ่งที่อันตรายมากๆ ซึ่งผมก็รู้อยู่แล้วว่าต้องมีบางคนพูดว่า “นั่นก็คือพวกฝรั่งที่ปากว่า ตาขยิบ” แต่ผมก็ขอตอบว่า ข้อแรก, ผมได้โอนสัญชาติเป็นคนไทยแล้ว และข้อที่ 2, ผมเชื่อว่าผมจะอยู่ในสิ่งที่ผมรู้และถนัด ตราบเท่าที่ ผมยังสามารถอธิบายประเด็นทางด้านกฎหมายได้แต่ผมไม่ได้ให้บทสรุปทางกฎหมาย เหมือนกับว่าผมเป็นนักกฎหมายไทย ผมไม่ได้เป็นคนอย่างนั้น ผมเพียงแต่ให้คำอธิบายอย่างละเอียด เพื่อที่ผู้รับฟังจะสามารถนำไปทำการค้นคว้าวิจัยได้เอง สามารถหาบทสรุปได้เอง รวมทั้งสามาถเรียนรู้บางอย่างหรือให้ความรู้กับตัวเองในเรื่องระบบกฎหมายของประเทศไทย