Legal Services & Resources
Up to date legal information pertaining to Thai, American, & International Law.
Contact us: +66 2-266 3698
กฎหมายเรื่องการขับรถในขณะที่เมาในประเทศไทยเป็นอย่างไร?
For the English transcript of this video, please go to the following link:
วีดีโอเรื่องนี้จะกล่าวถึงกฎเกณฑ์ต่างๆ เกี่ยวกับการขับรถในขณะที่เมาในประเทศไทย ซึ่งผมคิดจะทำวีดีโอเรื่องนี้หลังจากที่ได้เจอบทความที่ออกมานานแล้วเหมือนกัน ตั้งแต่ปี 2557 ซึ่งเป็นบทความจากหนังสือพิมพ์ Phuket News, thephuketnews.com, หัวข้อเรื่องว่า: คำถาม & คำตอบ : ลิมิตของแอลกอฮอล์ในเลือดเพื่อการขับรถในประเทศไทย (Questions & Answers: Thailand alcohol blood level driving legal limit) ซึ่งถึงแม้ว่าบทความนี้มาจากปี 2557 แต่หลังจากที่ผมได้ตรวจสอบแล้วยังเป็นความจริงอยู่
ขอยกบทความโดยตรงมาดังนี้: "คุณ Ralph จากอำเภอราไวย์ ได้ถามว่า: เราได้ยินคนคุยกันในบาร์เรื่องการดื่มและลิมิตในการขับรถหรือจะไม่มีลิมิตในภูเก็ตก็ตาม แต่ผมอยากถามว่ามีลิมิตทางกฎหมายมั้ย? ระดับสูงสุดของแอลกอฮอล์ในเลือดจะต้องเป็นเท่าไหร่เมื่อผ่านด่านตรวจของตำรวจโดยการใช้เครื่องเป่าเป็นต้น? ผมสามารถจะดื่มเบียร์ได้ขนาดไหนภายในระยะเวลาประมาณหนึ่ง และยังอยู่ในขอบเขตของกฎหมายที่จะอนุญาตให้ขับรถได้?" ผู้กำกับการจราจรของป่าตอง เอกรัตน์ พลายด้วง ตอบว่า: "ในประเทศไทย ระดับความเข้มข้นของแอลกอฮอล์ในเลือดตามมาตรฐานได้ตั้งไว้ที่ 0.05% ซึ่งหมายความว่าคุณยังอยู่ในกรอบของกฎหมาย ถ้าหากแอลกอฮอล์ในเลือดของคุณไม่เกิน 50 มก./เดซิลิตร ซึ่งสามารถจะตรวจได้ทั้งทางเลือดและทางอุปกรณ์การเป่า และโดยทั่วไปแล้ว 50 มก./เดซิลิตร เทียบเท่ากับเบียร์ 2 แก้ว เพราะฉะนั้นแล้ว โดยทั่วไป แอลกอฮอล์ในเลือดไม่ควรจะสูงกว่านั้น" สิ่งนี้ถูกต้องแล้ว ในความเป็นจริงคุณก็ไม่ควรที่จะเมาแล้วขับอยู่แล้ว ยังไงก็เป็นความคิดที่ไม่ดี เพราะอาจจะนำไปสู่การสร้างอันตรายให้กับตัวเองและผู้อื่นด้วย และ 0.05% คือลิมิตของประเทศไทย และบางครั้งอาจจะได้ยินคนพูดว่า กฎหมายจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับใบขับขี่ เช่นถ้าหากคุณมีใบขับขี่นานาชาติ ตำรวจอาจจะมองอีกแบบหนึ่ง แต่จากที่เราเข้าใจและจากสถานการณ์ต่างๆ ที่เราเคยต้องจัดการในอดีต 0.05% น่าจะเป็นกฎที่เลี่ยงไม่ได้เกี่ยวกับการดื่มและขับในประเทศไทย
อย่างไรก็ตาม ผมก็ไม่แนะนำว่าควรจะทำเช่นนี้ ถ้าหากคุณอยู่ในช่วงที่ก้ำกึ่ง ผมคิดว่าเป็นความคิดที่ดีโดยเฉพาะในเมืองไทยที่การคมนาคมและการเดินทางมีหลากหลายวิธี เช่นรถแท็กซี่ วินมอเตอร์ไซค์ และถ้าหากคุณอยู่ในเมืองชายทะเล ก็จะมีรถสองแถวซึ่งจะเหมือนรถบรรทุกเล็กที่มีหลังคาแล้วจะมีที่นั่งเป็นแถวอยู่ด้านหลัง และสามารถจะขึ้นลงได้ทั่วเมืองชายทะเล เพราะฉะนั้น ในประเทศไทยจะมีระบบขนส่งที่หลากหลาย ให้เลือกมากมาย เพราะฉะนั้นถ้าใครที่กังวลเรื่องนี้ ถ้าเลี่ยงได้ก็อย่าดื่มแล้วขับเลยก็แล้วกัน