Legal Services & Resources
Up to date legal information pertaining to Thai, American, & International Law.
Contact us: +66 2-266 3698
ประเทศไทยมีร้านค้าปลีกจำหน่ายกัญชา 14,000 แห่งจริงหรือ?
For the English transcript of this video please go to the following link:
วีดีโอม้วนนี้จะกล่าวถึงกัญชาในประเทศไทยอีกครั้งหนึ่ง ผมคิดจะทำวีดีโอเรื่องนี้เมื่อผมได้อ่านบทความในหนังสือพิมพ์ Thai Examiner, thaiexaminer.com, หัวข้อว่า: นายชูวิทย์ ออกรณรงค์ต่อต้านพรรคภูมิใจไทย ในขณะที่นายอนุทินบอกกับ Reuters ว่ากัญชาจะทำให้เป็นผู้ชนะการเลือกตั้ง ตรงนี้ต้องขอกล่าวก่อนเล็กน้อย สิ่งแรกคือ ผมได้ตัดตอนบทความออกมาสั้นๆ เพื่อทำการวิเคราะห์สำหรับทำวีดีโอม้วนนี้ ซึ่งในบทความทั้งหมดมีข้อมูลมากมาย และผมขอแนะนำผู้ที่กำลังรับชมวีดีโอเรื่องนี้ให้ไปอ่านบทความใน thaiexaminer.com และตามเคย หนังสือพิมพ์นี้ได้ให้ข้อมูลมากมายเกี่ยวกับทุกอย่างที่กำลังเกิดขึ้นในประเด็นนี้ และสำหรับผู้ที่ยังไม่ทราบ ผมได้ทำวีดีโอไว้แล้วหลายม้วน ผมเข้าใจว่า หลายคนคงเข้าใจดีถึงความลำเอียงของผมในเรื่องเกี่ยวกับกัญชา ซึ่งผมจะไม่ขอกล่าวอีก และผมก็จะไม่คุยในแง่ของการเมืองด้วยเพราะไม่ใช่จุดประสงค์ของช่องนี้ ช่องนี้จะพูดเกี่ยวกับประเด็นทางกฎหมายตามที่ปรากฎเป็นข่าวขึ้นมาเท่านั้น
ข้อความที่จะขอยกมาจากบทความคือ: "ตอนนี้กัญชาสามารถที่จะใช้สำหรับการบันเทิงในประเทศไทย โดยสามารถจัดจำหน่ายได้ในร้านขายปลีกจำนวนมากกว่า 14,000 แห่งทั่วประเทศ" ตัวเลขนี้ทำให้ผมอึ้งไปเลย ผมรู้สึกเหมือนโดนตีหัว รู้สึกแบบเดียวกันกับเมื่อ 6 สัปดาห์ที่แล้ว หลังจากที่กัญชาถูกถอดออกจากบัญชีรายการยาเสพติด จู่ๆก็ปรากฎว่ามีเงิน 28,000 ล้านบาทจากไหนก็ไม่รู้เข้ามาในตลาด ซึ่งก็จะเชื่อมโยงไปสู่ GDP ของประเทศไทยด้วย ไม่ว่าจะยังไง มันก็เป็นเรื่องที่ดีมากๆเลย ในขณะเดียวกัน จำนวนร้านขายปลีก 14,000 แห่งก็เป็นตัวเลขที่น่าทึ่งมาก ใครก็ตามที่มองเรื่องนี้จากมุมของการสร้างงาน การสร้าง SME และในแง่ของการเคลื่อนไหวทางเศรษฐกิจ อย่างน้อยก็ต้องมองตัวเลขนี้ด้วยความคารวะในระดับหนึ่ง ผมเชื่อว่าหลายคนก็อาจจะไม่เห็นด้วยเกี่ยวกับประเด็นของกัญชาในประเทศไทย ซึ่งไม่ต้องสงสัยเลยและผมก็มองด้วยว่าอาจจะเป็นประเด็นใหญ่อย่างหนึ่งในการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึงและผู้คนต่างๆก็มีสิทธิ์ที่จะลงคะแนนเสียงในประเด็นนั้นตามที่แต่ละคนคิดว่าเหมาะสม และที่ว่าเป็นเรื่องที่น่าทึ่งมากนั้น ก็เป็นการวิเคราะห์จากมุมมองด้านธุรกิจเท่านั้น แต่ถ้ามองในแง่ของกฎหมาย ก็คงน่าสนใจที่จะดูว่าอะไรจะเกิดขึ้นหลังจากการเลือกตั้ง สันนิษฐานว่าเราคงจะได้เห็นร่างพระราชบัญญัติที่มีบทบัญญัติเกี่ยวกับโครงสร้างของการควบคุม และก็คงจะเห็นกรอบเวลาทำงานอย่างเป็นทางการในการดำเนินการกับประเด็นนี่ และการที่ร้านขายกัญชา 14,000 แห่งที่มีอยู่ก่อนจะต้องเข้ามาอยู่ภายใต้กฎหมายนี้เป็นเรื่องที่น่าสนใจ และก็น่าสนใจเป็นอย่างยิ่งที่จะติดตามดู ผมคิดว่าท่านผู้ชมจะได้เห็นเนื้อหาสาระมากมายที่ช่องรับฟังนี้จะมีการพูดคุยในเรื่องตื่นลึกหนาบางของกฎหมายที่จะเกิดขึ้น บางทีอาจจะเป็นเวลาเดียวกับการให้ร้านขายปลีกกัญชาในประเทศไทยดำเนินการได้
สิ่งที่อยากให้เข้าใจจากวีดีโอเรื่องนี้โดยเฉพาะชาวต่างชาติคือ ต้องใช้ความระมัดระวังอย่างมากจริงๆในเรื่องนี้ และผมขอย้ำกับชาวต่างชาติที่กำลังมีกิจการเกี่ยวกับกัญชา ผมอยากที่จะพูดว่า “เลิกซะ” ไม่ใช่เป็นเพราะผมเกลียดกลัวชาวต่างชาติ หรืออะไรประเภทนี้ แต่เพราะว่าเรื่องนี้ไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อเอื้ออำนวยต่อชาวต่างชาติ ทุกอย่างที่เราได้เห็นในเรื่องนี้ผมได้ทำวีดีโอไว้แล้วตั้งแต่ปี 2017 ซึ่งเป็นเวลาที่เราเริ่มพูดเรื่องนี้ถี่มากทีเดียว มีบทความในหนังสือพิมพ์ข่าวสดภาษาอังกฤษ ซึ่งผมได้นำมาพูดถึงด้วยในตอนนั้น กล่าวโดยสรุปคือ ผมไม่ได้พูดว่า นี่ไม่ใช่พื้นที่การลงทุนสำหรับชาวต่างชาติ แต่เป็นพื้นที่ที่ชาวต่างชาติจะต้องระมัดระวังอย่างมาก เพราะเรายังมองไม่เห็นถึงโครงสร้างของระเบียบควบคุมในด้านนี้ และผมสามารถมองเห็นอย่างชัดเจนถึงปัญหาต่างๆที่จะเกิดขึ้น เมื่อมีการนำโครงสร้างของกฎระเบียบการควบคุมเข้ามาใช้ ซึ่งอาจจะสร้างความเสียหายแก่ชาวต่างชาติที่ได้ลงทุนอย่างหนักในอุตสาหกรรมนี้ ผมไม่ได้บอกว่าหายนะบางอย่างกำลังใกล้เข้ามา หรืออะไรทำนองนั้น แต่กล่าวโดยสรุปคือ ขณะนี้ยังไม่มีร่างกฎหมายใดๆออกมาว่าจะควบคุมเรื่องกัญชานี้อย่างไรแน่ และจะมีความไม่แน่นอนหลายอย่างเกี่ยวกับอนาคตของอุตสาหกรรมนี้ในประเทศไทยว่าจะมีหน้าตาเป็นอย่างไร จนกว่ากฎหมายตัวจริงจะออกมา