Legal Services & Resources
Up to date legal information pertaining to Thai, American, & International Law.
Contact us: +66 2-266 3698
การหมกมุ่นอยู่กับอุดมการณ์ในการสนับสนุนอย่างใกล้ชิดในความสัมพันธ์ระหว่างอเมริกาเหนือกับประเทศในยุโรป และความสำคัญของทวีปเอเซีย
For the English transcript of this video please go to the following link:
วีดีโอเรื่องนี้จะกล่าวถึงการหมกมุ่นอยู่กับอุดมการณ์ความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับยุโรปและความสำคัญของทวีปเอเชีย ที่ผมคิดจะทำเรื่องนี้ เพราะมันเป็นสิ่งที่คุกรุ่นแทรกซึมอยู่ในสมองผมมานานแล้ว มันเป็นเรื่องที่ผมแปลกใจอย่างแท้จริงโดยเฉพาะสำหรับคนอเมริกัน ผมเข้าใจว่าคนยุโรป เช่นคนอังกฤษ จะยึดติดกับแอตแลนติกเพราะพวกเขาอยู่ในคาบสมุทรแอตแลนติกอย่างเต็มตัว และโดยทางกายภาพแล้ว พวกเขาไม่ได้ไปอยู่ที่อื่นเลย คุณอาจจะแย้งว่า สำหรับคนอังกฤษก็อาจจะมีบ้างที่ไปอยู่ที่อื่นเนื่องจากอังกฤษมีอาณานิคม แต่คนยุโรปก็มีอาณานิคมเช่นกัน เพราะฉะนั้น ขอร้องว่าไม่ต้องมาแย้งผมด้วยการพูดว่า "ชาวยุโรปก็อยู่เฉพาะในแอตแลนติกเท่านั้น" ผมไม่ได้พูดแบบนั้น แต่สิ่งที่ผมพูดคือ มันเป็นกระบวนทัศน์ ของนโยบายความร่วมมือด้านความมั่นคงระหว่างยุโรปกับสหรัฐฯ โดยกำหนดว่าแอตแลนติกเป็นศูนย์กลางของโลก คือศูนย์กลางของโลกอยู่ในแอตแลนติก และชาติอื่นๆที่เหลือก็อยู่รอบๆ ผมรู้สึกว่าผมจะได้ยินในหนังเรื่อง Star Wars ที่มีอยู่ตอนหนึ่งที่ Anakin ได้พูดถึงเมือง Tatooine ที่ Anakin ได้ถามว่า: "พวกคุณมาทำอะไรอยู่ในเขตรอบนอกแบบนี้" คือ เราออกนอกระบบสุริยะจักรวาลมาตั้งไกล ในระบบสุริยะจักรวาลต่างหากที่จะเป็นพื้นที่สำหรับการปฏิบัติทั้งหมดก็ว่าได้ และผมก็คิดว่าการหมกมุ่นอยู่กับอุดมการณ์ความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับยุโรปจะเกิดขึ้น โดยเฉพาะในแง่ของคนอเมริกัน ซึ่งผมมองว่าเป็นเพราะเมืองใหญ่ๆ โดยเฉพาะเมืองที่อยู่ในยุคก่อตั้งสหรัฐอเมริกาก็อยู่ฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติค หรือฝั่งตะวันออกของสหรัฐฯ และด้วยเหตุผลนี้ บางทีจุดศูนย์กลางของความสนใจก็จะถูกดึงไปอยู่ในทิศทางนั้นบ่อยครั้ง ผมว่ามันก็มีอะไรที่เกี่ยวข้องกันอยู่ด้วยเหมือนกัน ยกตัวอย่างเช่น สหราชอณาจักรก็อยู่ทางนั้น และพวกเขาก็เป็นประเทศที่พูดภาษาอังกฤษเหมือนกัน และเพราะว่าเรามีความเหมือนกันในด้านภาษา เราจึงมักจะเบี่ยงเบนความสนใจของเราไปดูว่ากำลังเกิดอะไรขึ้นในฝั่งแอตแลนติค แต่มหาสมุทรแปซิฟิคก็เป็นพื้นที่กว้างใหญ่ และเราจะต้องไม่ปล่อยให้เกิดภาพลวงตาในภายภาคหน้า การปฏิบัติการต่างกำลังจะเกิดขึ้นทางฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิค เป็นต้นว่า เงินตราจะถูกสร้างขึ้นในทวีปเอเซียในอนาคตอันไม่ไกลนี้
ผมจำได้ว่า เมื่อเร็วๆนี้ผมได้ทำวีดีโอเรื่องหนึ่ง ที่พูดเกี่ยวกับสิ่งที่เรียกว่าYuasa Shift คือการที่ศูนย์กลางของกิจกรรมทางวิทยาศาสตร์โลก จะย้ายจากประเทศหนึ่งไปยังอีกประเทศหนึ่งทุกๆ 80-100 ปี นั่นคือ ศูนย์กลางของนวัตกรรมทางเทคโนโลยีและการค้นพบใหม่ๆ อาจจะย้ายออกมาจากซิลิคอนวัลเลย์ และผมคิดว่ามันจะปะทุขึ้นมาทางฝั่งแปซิฟิค ซึ่งตอนนี้มีหลายคนเรียกว่าอินโดแปซิฟิค (Indo Pacific) ผมเองก็เข้าใจได้ เพราะอินเดียก็จะเข้ามามีส่วนร่วมกับเรื่องเหล่านี้ทั้งหมด และก็ยังมีรัสเซีย กับจีนด้วยที่กำลังทำสิ่งใหม่ๆขึ้นมาซึ่งคุณจะเห็นถึงการเพิ่มขึ้นของพลวัตร คือเต็มไปด้วยพลังและความคิดสร้างสรรค์ แต่จะต้องไม่ลืมส่วนที่เรียกว่า เอเชียเสรี อันได้แก่เกาหลี ญี่ปุ่น ลงมาถึงเอเชียตะวันออกเฉียงใต้คือ ไทย ฟิลิปิน สิงคโปร์ อินโดนีเซีย แล้วยังมี Australasia อันได้แก่ ออสเตรเลีย กับนิวซีแลนด์อีกด้วย ในประเทศเหล่านี้ มีกิจกรรมทางเศรษฐกิจมากมาย ทั้งในเรื่องการผลิต การบริโภค การกระจาย และการแลกเปลี่ยน และจะเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะในเอเชียกำลังมีการเพิ่มอุตสาหกรรมหนักมากยิ่งขึ้น ผมหมายถึง การสื่อสารมวลชน การขนส่งมวลชน ภาคพลังงาน มันจะต้องปะทุขึ้นแน่นอน ผมไม่ได้พูดเกินความจริง และผมก็ไม่ได้ชี้นำแต่ในส่วนที่ดี หรือชื่นชมมากเกินไป แต่ผมก็เข้าใจได้ มีสิ่งต่างๆที่สำคัญเกิดขึ้นมากมายในแถบแอตแลนติกและเป็นเหมือนอู่อารยธรรมตะวันตกก็ว่าได้ แต่ถ้าหากมีใครได้มองในมุมของ “เศรษฐศาสตร์ภูมิศาสตร์” จะเห็นว่าตอนนี้ สิ่งที่เกิดขึ้นมันอยู่ในเอเซีย อยู่ในแปซิฟิค และในอนาคตมันจะไม่เกิดขึ้นในแอตแลนติคอีกแล้ว ผมไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นในแถบนั้นนะ แต่ผมแค่พูดว่า ถ้าหากคุณต้องการที่จะดูถึงอนาคตของอุตสาหกรรมหนักในโลกนี้ ผมคิดว่าคุณคงจะต้องมองมาที่เอเชีย คุณต้องมองมายังประเทศที่ตั้งอยู่โดยรอบของมหาสมุทรแปซิฟิก มันจะยังไม่มีอะไรมากมาย ยกตัวอย่าง ผมยังไม่เห็นว่าเขาจะปั่นเรือบรรทุกน้ำมันออกมาได้มากมาย เท่ากับที่วิ่งอยู่ในภูมิภาคแอตแลนติค ซึ่งอาจจะไม่ได้เป็นการผลิตเรือบรรทุกน้ำมันก็ได้ อาจจะเป็นเกี่ยวกับอุปกรณ์รถไฟทั้งรางหนักและรางเบา หรือการผลิตอุตสาหกรรมหนักหรือการผลิตอุตสาหกรรมเบา หรือการสื่อสาร ผมคิดว่าการสื่อสารใน Eurasia จะก้าวไปข้างหน้าด้วยขนาดมหึมา ไม่ต้องพูดถึงในแถบแปซิฟิกอีกเลย ในขณะที่ หลายๆประเทศเช่นอินเดีย หรือประเทศในแถบ ASEAN มีการพัฒนาอุตสาหกรรมอย่างต่อเนื่อง อย่างที่ประเทศไทย ประเทศเวียดนาม มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สำหรับอินโดนีเซีย ยังอยู่ในระยะเริ่มต้น สำหรับประเทศไทยอาจจะก้าวหน้ามากกว่าประเทศอื่น โดยเฉพาะในด้านการขนส่งทางราง ซึ่งสำหรับประเทศไทยแล้ว ผมไม่ชอบเลยที่ใช้คำว่า “กำลังพัฒนา” ผมไม่ได้เกลียดคำนี้ แต่คิดว่าเป็นการใช้คำผิดๆเสียมากกว่า และผมคิดว่าคำที่ดีกว่าคือการพัฒนาอุตสาหกรรม ประเทศที่อยู่ในแถบแปซิฟิก ประเทศที่อยู่ในทวีปเอเชีย กำลังพัฒนาทางด้านอุตสาหกรรมไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งเกาหลีและญี่ปุ่น ได้ทำสำเร็จแล้ว แล้วก็จะมีพวก Tiger Nations ที่เริ่มต้นมาก่อนแต่ต้องชะลอตัวลงตอนช่วงที่มีวิกฤตการเงินในเอเชีย รวมทั้งยังมีเรื่องอื่นตามมาอีกด้วย
กล่าวโดยสรุป เมื่อทบทวนเรื่องต่างๆแล้ว และถ้าย้อนกลับไปดูในประวัติศาสตร์ก่อนหน้านี้ ราว 150 หรือ 200 ปีที่แล้ว การดำเนินการทางเศรษฐกิจทั้งหมดเกิดขึ้นในทวีปเอเชีย นั่นคือเหตุที่ว่าทำไมคุณจึงเห็นถึง มหาอำนาจชาติต่างๆจากยุโรปที่ออกมาประกาศศักดาในแถบนี้จึงมุ่งผลิตระบบอาวุธที่มีประสิทธิภาพสูงมากขึ้นเป็นพื้นฐาน พวกเขาเข้ามาในแถบนี้ก็เพื่อที่จะมีปฏิสัมพันธ์กับศูนย์กลางทางการค้าแถบนี้ จริงๆก็คือต้องการที่จะหารายได้นั่นเอง แต่ตอนนี้ ผมคิดว่ามันกำลังเกิดอาการ “กลับลำ” และ ผมคิดว่าตอนนี้เรากำลังเห็นถึงการผงาดขึ้นของเอเซียที่ไม่มากนัก แต่เป็นการนำทวีปเอเชียและแถบแปซิฟิกให้กลับไปอยู่แนวหน้าของภูมิเศรษฐศาสตร์ตามที่เคยเป็นเมื่อ 150 ปีที่แล้ว