Legal Services & Resources
Up to date legal information pertaining to Thai, American, & International Law.
Contact us: +66 2-266 3698
ปัญหาเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดของประเทศไทยแต่ไม่มีใครพูดถึง?
For the English transcript of this video, please go to the following link:
บทความนี้เป็นการสรุปโดยสังเขป เราจะพูดถึงข่าวใหญ่ที่สุดของเศรษฐกิจไทยที่ัยังไม่มีใครพูดถึง ด้วยความสัตย์จริง ในความเห็นของผม นี่เป็นประเด็นทางเศรษฐกิจที่ใหญ่มาก อาจจะในรอบ 10 ปีก็ว่าได้ ผมว่ามันเป็นเรื่องที่ดีมาก แต่ผมคิดว่า มันมีอีกหลายอย่างเกี่ยวกับนโยบายเรื่องกัญชาที่คนไทยไม่ได้มอง ซึ่งเป็นสิ่งที่ควรจะมองโดยเฉพาะอย่างยิ่งในตอนนี้ ผมขอเข้าเรื่องเลยก็แล้วกัน
ผมขอสรุปเนื้อหาของวีดีโอเรื่องนี้ ที่ได้ข้อมูลมาจากบทความในหนังสือพิมพ์ Pattaya Mail, pattayamail.com, หัวข้อเรื่องว่า: Latest anti-Cannabis moves reflect political compromise not moral outrage การเคลื่อนไหวต่อต้านกัญชาครั้งล่าสุดสะท้อนให้เห็นถึงการประนีประนอมทางการเมือง ไม่ใช่ความโกรธขึ้งในเชิงศีลธรรม ก่อนอื่นผมขอถามว่าทำไมจะต้องมีการโกรธขึ้งในเชิงศีลธรรมในเรื่องกัญชา? ผมคิดว่านั่นเป็นการพูดเกินเลยไปหน่อย อย่างไรก็ตาม มันมีประเด็นในเรื่องเศรษฐกิจเข้ามาเกี่ยวข้องอย่างหลีกเลี่ยงมิได้ และเป็นเรื่องที่ยังไม่ได้รับการตอกย้ำให้เข้าใจได้ดีขึ้นอย่างเพียงพอ ในเวลานี้ ประเทศไทยอยู่ในจุดที่ได้เปรียบในฐานะที่เป็นผู้ริเริ่มเกี่ยวกับพืชเศรษฐกิจตัวใหม่นี้ในวงการค้าระหว่างประเทศ ผมไม่ได้ไร้เดียงสาจนคิดว่า ประเทศไทยไม่เคยมีกัญชามาก่อนนะครับ แต่สิ่งที่ผมต้องการที่จะพูดคือ ประเทศไทยมีข้อได้เปรียบในฐานะที่เป็นผู้ริเริ่มพืชเศรษฐกิจใหม่ตัวนี้ ซึ่งแทบจะไม่มีประเทศใดในแถบทวีปเอเซียที่จะดำเนินการในเรื่องนี้ได้ อันเนื่องจากข้อจำกัดทางด้านกฎหมายของประเทศตัวเอง ประเทศไทยไม่มีปัญหาตรงนี้ ผมคิดว่ามันไม่ใช่เรื่องที่ไกลเกินไปที่จะพูดว่า สักวันหนึ่ง กัญชาอาจจะเป็นพืชเศรษฐกิจส่งออกที่อาจจะทัดเทียมหรือเกือบจะเทียบเท่ากับข้าวก็ว่าได้ ซึ่งจะนำเงินตราเข้ามาสู่ประเทศ ฉะนั้น ก็ทำมันให้ถูกต้องเสียตอนนี้เลย ทำในขณะที่เรากำลังอยู่ระหว่างการยกร่างกฎหมายตามกระบวนการของรัฐสภา ขอยกข้อความโดยตรงจากบทความดังนี้: "เนื่องจากมีการทำให้กัญชาไม่เป็นสิ่งที่ผิดกฎหมายอาญาในปี 2022," เป็นที่เข้าใจได้ว่ามันเป็นวิธีการที่แหกคอกพอสมควร ที่นายอนุทิน ชาญวีรกุล ซึ่งในขณะนั้นเป็นรัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุข ได้ถอดถอนกัญชาออกจากบัญชีรายชื่อยาเสพติดให้โทษโดยอาศัยอำนาจฉุกเฉินที่เขามีในช่วงที่โควิดระบาด เขาทำให้มันถูกกฎหมายโดยถอดถอนมันออกจากบัญชีสารควบคุม และเรียกมันว่า สมุนไพรที่มีการควบคุม อันเป็นการทำให้กัญชาเป็นสิ่งถูกกฎหมาย กลับไปที่บทความอีกครั้งหนึ่ง: "เนื่องจากการทำให้กัญชาไม่เป็นสิ่งที่ผิดกฎหมายอาญาในปี 2022 ไม่ได้มีกฎหมายมารองรับ มันจึงเป็นตลาดเสรี” เราเรียกมันว่าตลาด หรือ ผู้ประกอบการ หรือตลาดเสรี อย่างที่ผมเคยพูดก่อนหน้านี้ว่า นอกเหนือจากมีบทลงโทษทางอาญาสำหรับผู้ที่จำหน่ายให้กับเยาวชนแล้ว ผมก็คิดว่าผมยอมรับได้ในระดับหนึ่งว่า ปล่อยมันให้อยู่ตามลำพังเถอะ แต่ในอีกด้านหนึ่ง ก็ต้องมีกฎระเบียบอยู่ด้วยเพื่อประโยชน์โดยทั่วไป บทความกล่าวต่อว่า: "แต่ข้อจำกัดทางเทคนิคเกี่ยวกับส่วนประกอบที่ออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท (THC) กลับถูกมองข้ามไปเลย" แล้วยังไงครับ? มันเกิดอะไรขึ้น? มันเลวร้ายขนาดนั้นเลยหรือ? สำหรับผม มันดูเหมือนว่าเราจะได้เห็นนักท่องเที่ยวเพิ่มจำนวนมากขึ้นอีกมากทีเดียว เป็นที่รู้กันว่าเป็น green season ประเทศไทยจะไม่มี low season เหมือนที่เคยมีในอดีตอีกแล้ว ฤดูกาลที่การท่องเที่ยวซบเซาก็จะถูกป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นโดยคนที่ต้องการมาประเทศไทย และมีหลักฐานบางอย่างที่ชี้ว่าผู้คนที่ต้องการมาประเทศไทยก็เพราะสินค้าตัวนี้เป็นสิ่งถูกกฎหมาย กล่าวต่อ: "รัฐบาลที่มีพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำ ได้ใช้การต่อต้านกัญชาเป็นนโยบายหลักในการหาเสียงครั้งที่แล้ว แต่ตอนนี้ต้องเงียบเสียงลง เพราะพันธมิตรในสภา กล่าวโดยเฉพาะก็คือ นายอนุทิน ชาญวีรกุล รัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทยผู้ทรงอิทธิพล และพรรคภูมิใจไทยของเขาก็เป็นพรรคที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ในรัฐบาลผสมชุดปัจจุบัน นายอนุทินไม่เห็นด้วยกับการที่จะปล่อยให้นักท่องเที่ยวทำอะไรก้ได้ แต่ต้องการที่จะปกป้องเกษตรกรที่ปลูกกัญชาเพื่อแสวงหากำไรและเป็นฐานเสียงของพรรคภูมิใจไทย" ใช่ครับ นายอนุทิน ปกป้องฐานเสียงของเขา ซึ่งเป็นสิ่งที่นักการเมืองที่ดีควรจะทำ เพื่ออธิบายให้เข้าใจได้มากขึ้นเกี่ยวกับ “การให้นักท่องเที่ยวทำอะไรก็ได้” มันมีอยู่ 2ประเด็นด้วยกัน และผมรู้ว่ามีประเด็นหนึ่งจะทำให้คนไทยหงุดหงิด และสำหรับบรรดาชาวต่างชาติทั้งหลาย ผมไม่รู้ว่าจะย้ำเตือนคุณยังไงมากกว่านี้อีกแล้ว คุณต้องเลิกเสพสิ่งนี้ในที่สาธารณะ เพราะมันสร้างความรำคาญต่อคนไทย พูดตรงๆว่าคนไทยไม่ชอบ โดยเฉพาะคนที่เดินไปเดินมากับครอบครัวและลูกๆของพวกเขา รวมทั้งผู้สูงอายุด้วย ผมเองก็ไม่ชอบ เขาได้กลิ่นมัน และไอ้กลิ่นนั้นก็ทำให้พวกเขาไม่พอใจ พวกคุณควรจะไปหาที่ที่สามารถสูบกัญชาได้โดยเฉพาะ ผมก็ต้องบอกว่าผมเข้าใจคนเหล่านั้นครับ แต่เพื่อให้เข้าใจได้ดียิ่งขึ้น ผมจะขอกลับมาที่หัวข้อเรื่องวันนี้ ว่านี่คือประเด็นทางเศรษฐกิจที่ใหญ่มากแต่ไม่มีใครพูดถึงเลย ขอย้ำอีกครั้งว่า ประเทศไทยอยู่ในฐานะได้เปรียบในการเป็นผู้ริเริ่มในเรื่องพืชเศรษฐกิจตัวนี้ ซึ่งไม่มีใครในทวีปเอเชียสามารถเข้ามามีส่วนร่วมในการทำการค้าขายได้ เราอยู่ในตำแหน่งที่น่าอิจฉาทางเศรษฐกิจ
เยี่ยมเลยครับ เป็นตำแหน่งที่ดีมากครับ และผมต้องขอโทษด้วยว่าอาจจะทำให้หลายคนโกรธผม แต่ถ้าพูดกันถึงที่สุดแล้ว ผมก็คือคนที่เปลี่ยนสัญชาติเป็นคนไทยแล้ว ดังนั้นผมจึงต้องดูว่าอะไรจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับประเทศที่รับผมเข้ามา ผมขอบอกตรงๆ ประเด็นที่ใหญ่ที่สุดที่ยังไม่มีใครพูดถึงในกรณีของกัญชาก็คือ ขอพูดตรงๆเลยนะว่า ชาวต่างชาติไม่ควรจะเข้ามายุ่งเกี่ยวด้วยเลยครับ ควรจะจำกัดไว้ให้เฉพาะคนไทยเท่านั้น อย่างที่ผมได้เคยพูดไว้ในวีดีโอม้วนอื่นแล้วว่า มันเป็นเรื่องเกษตรกรรม และผมเข้าใจว่าภายใต้กฎหมายที่มีอยู่ในปัจจุบัน ชาวต่างชาติไม่ควรที่จะเข้ามายุ่งเกี่ยวในเรื่องการค้ากัญชาโดยสิ้นเชิง และไม่ควรเข้ามายุ่งเกี่ยวกับอะไรก็ตามที่เกี่ยวข้องกับการเกษตรอื่นๆในประเทศไทย รวมถึงพืชชนิดอื่นเช่นกระท่อมด้วย ซึ่งกระท่อมก็เป็นสิ่งที่ถูกกฎหมายแล้วในห้วงเวลาเดียวกันกับกัญชา แม้ตอนนี้ก็กำลังมี “เห็ดสมุนไพร” ซึ่งยังไม่ถือว่าเป็นสิ่งที่ถูกต้องตามกฎหมาย แต่ก็ได้รับอนุญาตให้ใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ของไทยด้วยแล้วเช่นกัน สิ่งเหล่านี้ชาวต่างชาติไม่ควรที่จะเข้าไปเกี่ยวข้องด้วยเลย; เพราะสิ่งเหล่านี้คือพืชผลทางการเกษตร และที่สำคัญยิ่งไปกว่านั้นคือ เมื่อมองอย่างครอบคลุมทั้งหมด นี่เป็นสถานการณ์หนึ่งในหลายๆสถานการณ์ที่ต้องดูว่าอะไรคือสิ่งที่ดีสำหรับประเทศไทย ยกตัวอย่างเช่นกัญชา ถือว่าเป็นสินค้าที่ดีสำหรับประเทศไทย ต้องมั่นใจได้ว่า กัญชาจะเป็นเรื่องที่จำกัดไว้ให้เฉพาะคนไทยเท่านั้น นั่นจะเป็น สิ่งที่ดีที่สุดที่เราจะทำได้ภายใต้กฎหมาย ไม่ว่ากฎหมายเกี่ยวกับกัญชาในประเทศไทยจะออกมาในรูปใดก็ตาม
ผมดีใจจริงๆที่เห็นบทความเรื่องนี้ และผมขอแนะนำผู้ที่กำลังรับชมวีดีโอเรื่องนี้ให้ไปอ่านรายละเอียดในบทความนี้ เพราะมีการเปรียบเทียบกันในเชิงตรรกวิทยาอย่างไม่ถูกวิธี ระหว่างการใช้กัญชารักษาโรค กับการใช้กัญชาเพื่อสันทนาการ; เขาจะโยนมันไว้ข้างๆตอนที่พิจารณาร่างกฎหมาย ซึ่งผมว่านั่นเป็นความคิดที่ดี ผมว่ามันวิธีมองสิ่งนี่ที่ไม่ถูกต้อง ผมไม่คิดว่าคนที่เป็นผู้ใหญ่แล้ว และเป็นผู้ใหญ่ที่บรรลุนิติภาวะแล้วด้วย จะต้องอ้างว่ามีปัญหาทางการแพทย์เพื่อที่จะได้เสพกัญชา ถ้าหากอยากจะเสพกัญชาขึ้นมา ไม่เห็นมีใครต้องถามเลยว่า มีใครต้องใช้เบียร์ทางการแพทย์มั้ย? หรือต้องใช้บุหรี่ทางการแพทย์มัย? มันไร้สาระจริงๆ เพราะฉะนั้น คนที่เป็นผู้ใหญ่ที่มีสติปัญญาในระดับธรรมดาก็ควรที่จะดูแลสุขภาพของตัวเองได้ รวมทั้งสามารถพิจารณาได้ถึงสิ่งที่ตนเองจะเสพเข้าไปด้วย รัฐบาลควรที่จะออกกฎระเบียบในระดับใดระดับหนึ่งหรือไม่ เพื่อที่จะมั่นใจได้ว่าผู้คนจะไม่ป่วยหรือเสียชีวิตจากการบริโภคสิ่งที่เขาอาจจะไม่เข้าใจอย่างแท้จริงว่ากำลังกินอะไรอยู่? ผมเข้าใจได้ ติดป้ายไว้บนกล่องเลย – หรือ “เก็บให้พ้นมือเด็ก” อะไรทำนองนั้น ก็เป็นเรื่องที่สมเหตุสมผลอย่างยิ่งครับ
อย่างหนึ่งที่ผมคิดว่าเราจะต้องคอยใส่ใจก็คือ ถึงที่สุดแล้ว สิ่งนี้ควรจะยังคงเป็นอุตสาหกรรมของไทย เพราะผมมองว่าสิ่งนี้อาจจะเป็นก้าวใหญ่สู่อนาคตสำหรับประเทศไทยได้ สิ่งที่เรากำลังพูดถึงนี้คือเกษตรกรรมที่ใหญ่มาก มันเป็นเกษตรกรรมระดับอุตสาหกรรมเลยไม่ว่าตอนนี้หรือในอนาคต และตามที่ตั้งข้อสังเกตุไว้ว่า นายอนุทินมีฐานเสียงที่สนับสนุนพรรคภูมิใจไทย ที่เป็นชาวนาที่ได้รับกำไรจากการปลูกผลิตผลนี้ ผมจึงเข้าใจอย่างถ่องแท้ถึงแรงกระตุ้นทางการเมืองของคุณอนุทินที่ต้องการดูแลคนเหล่านั้น และบางทีสิ่งที่ดีที่สุดที่จะสามารถทำได้เพื่อดูแลผู้คนเหล่านั้น รวมทั้งคนไทยรายอื่นๆ ที่อยู่ในอุตสาหกรรมกัญชาก็คือ จะต้องมั่นใจได้ว่า อุตสาหกรรมนี้จะยังคงเป็นของคนไทยและคนไทยเท่านั้นในอนาคต