Integrity Legal - Law Firm in Bangkok | Bangkok Lawyer | Legal Services Thailand Back to
Integrity Legal

Legal Services & Resources 

Up to date legal information pertaining to Thai, American, & International Law.

Contact us: +66 2-266 3698

info@integrity-legal.com

ResourcesThailand Real Estate & Property LawJurisprudence“พวกใจเย็น”ก็ยังคงพิจารณาเรื่องกัญชากันต่อไป

“พวกใจเย็น”ก็ยังคงพิจารณาเรื่องกัญชากันต่อไป

For the English transcript of this video, please go to the following link:

https://www.legal.co.th/resources/thailand-real-estate-property-law/jurisprudence/cooler-heads-continue-consideration-cannabis/

วีดีโอเรื่องนี้จะพูดถึงเรื่องกัญชาอีกครั้งหนึ่ง ประเด็นที่จะพูดถึงนี้เป็นประเด็นที่ยังมีความเข้าใจผิดกันอยู่มากพอสมควร ที่สะดุดตาอย่างยิ่งก็คือ ผมเคยทำวีดีโอไว้เมื่อไม่นานมานี้ โดยเราได้พูดถึง ใม่ทางใดก็ทางหนึ่ง โดยที่ผมไม่ได้เจาะจงใครคนใดคนหนึ่งเป็นพิเศษโดยเฉพาะ แต่พูดกับสื่อสารมวลชนโดยรวม ก็ในอินเทอร์เน็ตนี่แหละ แต่ดูเหมือน - ผมก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าพวกเขามีแรงจูงใจอะไรหรือเปล่า แต่ดูเหมือนว่าสื่อต่างๆจะตีกรอบเรื่องนี้อยู่ว่า "ขณะนี้เราติดอยู่ในสูญญากาศทางกฎหมาย” หรือว่า “มันยังไม่มีอะไรชัดเจน” ซึ่งผมเองก็เคยทำวีดีโอในประเด็นนี้ไว้ โดยผมอธิบายว่า “ไม่ใช่” ผมใช้วิธีการพิจารณากฎหมายเปรียบเทียบ โดยผมเป็นทนายความอเมริกันและมองไปยังระบบกฎหมายแบบลายลักษณ์อักษรของไทยที่เป็นอยู่ หรือแม้กระทั่งระบบกฎหมายที่เป็นลายลักษณ์อักษรทุกระบบก็ตาม ทฤษฎีพื้นฐานประการหนึ่งคือ ทฤษฎีของประมวลกฎหมาย ซึ่งกำหนดไว้ว่า ถ้าหากจะบอกว่าอะไรสักอย่างผิดกฎหมาย ก็จะต้องมีการออกบทบัญญัติไว้ก่อนว่าสิ่งของนั้น ผลิตภัณฑ์นั้น การกระทำอย่างนั้น เป็นเรื่องผิดกฎหมาย อันสอดคล้องตามปรัชญาของกฎหมายแบบลายลักษณ์อักษร เพราะฉะนั้นตามที่เคยพูดไว้แล้วว่า มันไม่ใช่ว่ามีความไม่ชัดเจนแต่อย่างใด เพราะตอนนี้มันแน่ชัดแล้วว่า กัญชาเป็นสิ่งถูกกฎหมาย จริงอยู่ มันมีข้อบังคบบางอย่างตามที่เราเคยพูดไว้ในวีดีโอก่อนหน้านี้ว่า กัญชาได้รับการพิจารณาว่าเป็นพืชสมุนไพรที่อยู่ในความควบคุม และผู้ที่มีอายุไม่ถึง 20 ปีไม่สามารถที่จะนำมาใช้ได้ซึ่งเป็นไปตามกฎหมายฉบับปัจจุบันที่เรายังใช้อยู่ในเวลานี้

อย่างไรก็ตาม ได้มีการถกแถลงเกี่ยวกับการออกกฎหมายใหม่ ที่อาจจะมีการกำหนดข้อจำกัดต่อสิ่งนี้ และอย่างที่ผมเคยพูดไว้ในวีดีโอก่อนหน้านี้ซึ่งผมพูดอย่างเปิดเผยเลยว่า ผมมีความประหวั่นพรั่นพรึงในประเด็นนี้ ผมคิดว่ามันมีวิธีที่จะจัดการกับเรื่องนี้ และวิธีนั้นในความคิดของผม มันน่าจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับประเทศไทย และตามที่ขึ้นหัวเรื่องวิดีโอนี้ไว้ ผมก็ยังหวังอยู่ว่า การคิดอย่างใจเย็นจะชนะเมื่อนำประเด็นนี้มาพิจารณาเพิ่มเติมให้กว้างขวางยิ่งขึ้น เพราะในที่สุดมันก็จะมีเหตุผลดีๆที่เป็นที่ยอมรับได้ และผมคิดว่ามีหลายคนเห็นด้วย กัญชาได้ทำให้ธุรกิจหลายอย่างเกิดขึ้น และยังมีผลแตกแขนงออกไปอีกหลายอย่าง ตามที่ได้พูดไว้ในวิดีโอม้วนอื่น เช่น อสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์ ภาคอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์จะได้รับผลประโยชน์อย่างมีนัยยะสำคัญ อันเป็นผลสืบเนื่องจากกัญชา ซึ่งในเวลาเดียวกันนี้ ถ้าหากคุณมองไปยังประเทศอื่นจะเห็นได้ว่า ภาคอสังหาริมทรัพย์มีความเสียหายจากการถูกบีบอัดภายใน เพราะฉะนั้น ผมคิดว่าการพิจารณาเพิ่มเติมให้กว้างขวางมากขึ้น จะมีเหตุผลดีๆและเป็นที่ยอมรับได้ ผมเห็นข่าวนี้ จาก Bangkok Post, bangkokpost.com, ผมมองว่าข่าวชิ้นนี้เป็นข่าวที่ดี ผมคิดว่ามันแสดงให้เห็นถึงความตั้งใจจริงที่จะพิจารณาอย่างรอบคอบในทุกแง่มุมของเรื่องนี้ ก่อนที่จะมีกฎหมายใดๆออกมา ซึ่งอาจจะก่อให้เกิดความเสียหายต่อเศรษฐกิจในประเทศไทยไม่โดยตรงก็โดยอ้อมตามมา

ผมได้อ่านบทความใน Bangkok Post, bangkokpost.com, หัวข้อเรื่องว่า: Government delays approval of Cannabis ban legislation รัฐบาลเลื่อนเวลาการให้ความเห็นชอบต่อการออกกฎหมายการห้ามกัญชา สิ่งแรกที่ผมอยากจะบอกคือวิธีที่สื่อต่างๆตีกรอบไว้ว่า "กฎหมายเกี่ยวกับการห้ามกัญชา" สิ่งนี้ไม่ถูกต้องซะทีเดียว เพราะกัญชาจะไม่ได้ถูกห้าม ซึ่งได้มีการถกแถลงกันมาแล้วหลายครั้ง มันจะถูกจัดประเภทไว้อย่างไรนั้น ขึ้นอยู่กับการอภิปราย แต่มันจะไม่ถูกห้าม ยกข้อความโดยตรงจากบทความดังนี้: "หลังจากการประชุมสภาในวันอังคาร นายชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้กล่าวว่า รัฐบาลได้ทำการเลื่อนการให้ความเห็นชอบต่อร่างกฎหมายที่จะห้ามการใช้กัญชาเพื่อสันทนาการ เพราะต้องการฟังความเห็นจากฝ่ายอื่นมากกว่านี้ นายชลน่าน ได้กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขไม่สามารถยื่นร่างกฎหมายให้สภาได้ในวันอังคารเพราะต้องการเวลามากขึ้นสำหรับพิจารณามุมมองต่างๆ" กล่าวต่อ: "ฝ่ายบริหารชุดที่แล้วได้ออกกฎหมายที่เป็นเหตุการณ์สำคัญเมื่อกลางปี 2022 ซึ่งขับเคลื่อนให้ประเทศไทยกลายเป็นประเทศแรกในเอเชียที่ทำให้กัญชาเป็นสิ่งที่ไม่ถือว่ามีความผิดทางอาญา" ซึ่งผมก็เคยกล่าวในวีดีโอม้วนอื่นว่า ผมเกลียดคำว่า "ไม่ถือว่ามีความผิดทางอาญา" มันไม่ใช่คำศัพท์เฉพาะทางที่ถูกต้องเลย เพราะความหมายที่แท้จริงของมันจะกลายเป็นว่า “การบังคับใช้กฎหมายต่อสิ่งนี้ไม่สามารถปฏิบัติได้” เพราะการไม่ถือว่ามีความผิดทางอาญาจะเกิดขึ้นเมื่อมีกฎหมายอยู่ และการบังคับใช้กฎหมายจะกล่าวเพียงว่า "เราจะไม่นำกฎหมายนั้นมาใช้ หรือเราจะไม่มีการบังคับใช้กฎหมายในทางใดทางหนึ่ง" มีหลายครั้งที่ผมคิดว่า มันก็ยอมรับได้ เช่นการที่ผู้คนต้องการเห็นการเปลี่ยนแปลงมากๆอย่างชัดเจน และผู้บัญญัติกฎหมายก็อาจจะไม่ได้อยู่ในช่วงพิจารณาความ ดังนั้น กลไกในการบังคับใช้กฎหมาย หรืออาจจะเรียกว่า กลไกของฝ่ายบริหารจึงตัดสินใจเองว่าจะทำต่อไป และไม่ถือว่าเป็นประเด็นที่มีความสำคัญเร่งด่วน เพราะฉะนั้น คำว่าไม่ถือว่ามีความผิดทางอาญาในบางสถานการณ์ อาจจะเป็นที่ยอมรับได้ แต่ในสถานการณ์ขณะนี้ไม่สามารถเป็นที่ยอมรับได้ ตามที่ผมเคยพูดไว้ในวีดีโอม้วนอื่นและขอพูดอีกครั้งว่า ที่นี่กัญชาเป็นสิ่งถูกกฎหมาย บทความกล่าวต่อว่า: "และเปิดโอกาสให้มีการเปิดร้านที่ขายกัญชาและผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับกัญชาอีกนับพันแห่ง" ผมชอบจริงๆ การพูดคำว่า "อนุญาต" มันไม่ได้มีการอนุญาตซะหน่อย เพียงแต่กัญชาได้กลายเป็นสิ่งถูกกฎหมายและเมื่อมีผู้คนที่ต้องการขายสินค้าตัวนี้พวกเขาก็เลยเปิดร้านขึ้นมาเพื่อทำการขาย ก็เท่านั้นเอง อีกอย่างหนึ่งที่ผมให้ความสนใจ คือการใช้คำว่า "ห้าม" เพราะสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นไม่ว่าจะมองในแง่มุมไหนก็ตาม มันไม่ใช่เป็นการห้าม มันเป็นเพียงการออกระเบียบข้อบังคับขึ้นมาเท่านั้น

สิ่งที่ผมกังวลที่สุดคือความคิดเกี่ยวกับกัญชาเพื่อสันทนาการ และตามที่ผมได้เคยพูดไว้ในวีดีโอม้วนอื่นว่า ในกลุ่มสถาบันทางการเมืองก็ยังไม่เห็นมีใครออกมาโวยวายกันมากมาย และผมจะไม่พูดว่า มันมีความจำเป็นที่จะต้องออกมาโวยวายในตอนนี้จากกลุ่มสถาบันทางการเมือง หรือภาคส่วนอื่นๆ ก้ตาม ที่ออกมาเรียกร้องให้มีการห้ามใช้องุ่นในรูปแบบของเหล้าไวน์ หรือใช้ข้าวสาลีและน้ำผึ้งในรูปแบบของเบียร์ หรือ ต้นฮ้อพในรูปแบบของเบียร์ ในเชิงสันทนาการ ไม่เห็นมีการเรียกร้องให้ห้ามการใช้สินค้าเหล่านั้นในเชิงสันทนาการเลย ถึงแม้เราจะเคยพูดไว้ในวีดีโอม้วนอื่นแล้วว่า alcohol สร้างความเสียหายมากกว่า และยังมีข้อมูลทางสถิติยืนยันถึงการเสียชีวิตเนื่องจาก alcohol มากกว่ากัญชาด้วย แต่อาจจะมีการโต้แย้งกลับมาว่า "ก็เรายังไม่เห็นตัวเลขหลังจากที่กัญชาถูกกฎหมายแล้วนี่" ถึงแม้เราจะเห็นตัวเลขตอนที่กัญชายังผิดกฎหมาย และเราก็รู้ด้วยว่า การที่พูดว่ากัญชาไม่ได้ฆ่าใคร ก็ไม่ได้เป็นการพูดที่ไม่ยุติธรรม จำได้ว่า เมื่อปีที่แล้ว ผมเห็นมีคนเคยกล่าวว่า จำนวนคนที่ตายจากแอลกอฮอล์เท่ากับ X ในขณะที่คนตายจากกัญชามี 1 คน และผมก็คิดไม่ออกว่าเบื้องหลังของคนนั้นที่เสียชีวิตนั้นเป็นอย่างไร เพราะผมมั่นใจว่าต้องมีอย่างอื่นเกิดขึ้นแน่นอนไม่ใช่เพียงเพราะการดูดซึมกัญชาเข้าไปเท่านั้น เพราะในความเป็นจริงแล้ว กัญชาไม่ได้มีสมรรถนะถึงขนาดนั้น ในความเข้าใจของผม แม้แต่กัญชาที่มีส่วนผสมของ THC ในปริมาณสูง คุณจะต้องกลืนกินเข้าไปในปริมาณที่มากเกินกว่าที่จะเป็นไปได้ในทางปฏิบัติ แต่อย่างว่า ผมก็ไม่ได้เป็นผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ และผมก็ไม่ได้เป็นผู้รอบรู้เรื่องสมุนไพรหรืออะไรประมาณนี้ แต่สิ่งที่ผมอยากให้เข้าใจจากวีดีโอเรื่องนี้คือ ตอนนี้มีการตกลงใจแล้วว่าการพิจารณาเพิ่มเติมให้กว้างขวางมากยิ่งขึ้นเป็นสิ่งจำเป็น; ขอขอบคุณรัฐบาลชุดนี้ ดีมากเลย เพราะถูกต้องว่าจะต้องมีการพิจารณาเพิ่มเติม เราต้องดูประเด็นนี้อย่างละเอียดเพราะจะเป็นผลประโยชน์ที่ยิ่งใหญ่มากสำหรับประเทศไทย สำหรับทุกคนในประเทศไทย ถ้าเราจะยกร่างกฎหมายใดๆออกมา ร่างกฎหมายนั้นจะต้องไม่ส่งผลกระทบให้เกิดความเสียหายต่อเศรษฐกิจและไม่ส่งผลกระทบต่อส่วนใหญ่ของภาคเศรษฐกิจไทยด้วย ในขณะเดียวกันจะต้องคำนึงถึงเรื่องสุขภาพและความปลอดภัย ซึ่งเราจำเป็นต้องมีกฎระเบียบขึ้นมา ผมไม่ใช่คนที่ต่อต้านต่อกฎระเบียบ แต่ผมต้องการเห็นกฎระเบียบที่เป็นประโยชน์มากกว่าที่จะเห็นเพียงการวิเคราะห์เรื่องต้นทุนกำไรแค่นั้น