Integrity Legal - Law Firm in Bangkok | Bangkok Lawyer | Legal Services Thailand Back to
Integrity Legal

Legal Services & Resources 

Up to date legal information pertaining to Thai, American, & International Law.

Contact us: +66 2-266 3698

[email protected]

ResourcesThailand Real Estate & Property LawJurisprudenceการปิดตัวลงของ CrowdStrike คือคำเตือนเกี่ยวกับ "ดิจิตอล วอลเล็ด"สำหรับประเทศไทยหรือไม่?

การปิดตัวลงของ CrowdStrike คือคำเตือนเกี่ยวกับ "ดิจิตอล วอลเล็ด"สำหรับประเทศไทยหรือไม่?

For the English transcript of this video, please go to the following link:

https://www.legal.co.th/resources/thailand-real-estate-property-law/jurisprudence/crowdstrike-shutdown-digital-wallet-warning-thailand/

วีดีโอเรื่องนี้จะกล่าวถึงสถานการณ์ CrowdStrike ที่เกิดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ สำหรับผู้ที่ยังไม่ทราบ มีหลายส่วนของโลกที่เกิดการหยุดชะงัก โดยเฉพาะประเทศในโลกตะวันตกที่ shut down ลงไปจริงๆ ในความเข้าใจของผม มีสายการบินหลายแห่งที่ใช้งานไม่ได้ กิจการธนาคารหลายอย่างก็ไม่สามารถดำเนินการได้เพราะสถานการณ์เหล่านี้ ผมไม่ได้เข้าใจเรื่องทั้งหมดนี้อย่างถ่องแท้; ผมจะไม่อ้างอิงอะไรทั้งนั้น ในโลกอินเทอร์เน็ตกำลังพูดถึงเรื่องพวกนี้อยู่มากทีเดียว กล่าวโดยสรุปก็คือ CrowdStrike เป็นกิจการให้บริการด้านการรักษาความปลอดภัย หรือป้องกันไวรัสสำหรับ software จำนวนมากของ Microsoft ที่ใช้งานอย่างกว้างขวางอยู่ในงานธุรการของระบบเศรษฐกิจในโลกตะวันตก เมื่อระบบทั้งหมดนั้นปิดตัวลงไป ทั้งหมดเท่าที่จำได้คือ ในแง่มุมหนึ่งโลกตะวันตกก็ต้องหยุดชะงักหรือยุติการทำงานไปด้วย

เหตุผลที่ผมทำวีดีโอเรื่องนี้คือ ผมเห็นว่ากำลังมีการเดินหน้าเพื่อแปลงทุกอย่างให้เป็นดิจิทัลมากขึ้น ซึ่งจะเห็นได้ชัดมากในภาคการเงิน ซึ่งจะว่าไปแล้วก็เหมือนกับจะเป็นระบบพี่เลี้ยงเด็กนั่นแหละ ควบคุมโดยพี่เลี้ยง หรือจะเรียกว่าพี่เลี้ยงสากลก็ได้ เช่นองค์กร World Economic Forum เป็นต้น ผมว่าน่าสนใจ เพราะว่าผมมองในด้านการธนาคาร และผู้คนก็จะถามผมว่า คุณเป็นกังวลเกี่ยวกับอิสรภาพในด้านต่างๆ อยู่มาก หรือว่ากังวลในเรื่องการขาดอิสระภาพที่จะเกิดขึ้น ถ้าปล่อยให้สิ่งเหล่านี้ออกมาใช้งาน แต่คุณกลับพูดอย่างเป็นกลางได้ถึงการสร้าง mBridge ขึ้นมา ซึ่งเป็นโครงสร้างพื้นฐานด้านการธนาคารแบบใหม่ ที่เกิดขึ้นใน Eurasia โดยเฉพาะ 

ผมมองเรื่องนี้เป็น 2 ด้านที่แตกต่างกันคือ การเกิดขึ้นของโครงสร้างพื้นฐานแบบใหม่ของธนาคารกลางสำหรับการค้าสากล กับการกำเหนิดขึ้นของกลุ่ม BRICS และการที่พวกเขาพูดกันถึงเรื่องความเป็นไปได้ของเงินตราสำหรับการค้าสากล และนี่คือจุดที่ mBridge ได้สร้างแพลต์ฟอร์ม ที่จะทำให้เงินต่างสกุลกันมีผลกระทบต่อ World Island ถ้าหากจะใช้คำพูดของ Halford Mackinder ว่าระบบพวกนี้จะมีปฏิสัมพันธ์ต่อกันยังไงและทั้งหมดนั้นจะทำงานยังไง? นั่นเป็นเรื่องหนึ่ง เป็นเรื่องของธนาคารต่อธนาคาร สถาบันต่อสถาบัน สิ่งที่ผมกังวลมากก็คือ เรื่องดิจิตอล วอลเล็ด หรือเงินสกุลดิจิตอล ซึ่งในโลกสมัยใหม่นี้เงินของเราทั้งหมดและความสามารถของเราที่จะทำธุรกรรมทางการเงินในโลกนี้ จะมีผลกระทบกับเราในทุกวิถีทางและทุกรูปแบบ นั่นคือสิ่งที่ผมกังวลต่างหาก ขอพูดอีกครั้งว่า สกุลเงินสำหรับการค้าขายและ การรายงานเกี่ยวกับการทำธุรกรรมทางการเงินในการค้าระหว่างประเทศระหว่างธนาคารกลางกับหน่วยงานกำกับดูแลเงินตราของอีกฝ่ายหนึ่งนั้นเป็นเรื่องหนึ่ง ซึ่งมันจะมีการเคลื่อนไหวขึ้นและลง ซึ่งผมก็คุยต่อได้ แต่นั้นไม่ใช่แก่นแกนของวิดีโอนี้ แต่สิ่งที่ผมกำลังพูดถึงคือเงินตราในระดับของการค้าปลีก มันจะเหมือนกับในประเทศจีนที่การทำ ธุรกรรมทางการเงินทั้งหมดจะต้องทำผ่านโทรศัพท์มือถือ แล้วถ้าระบบมันเกิดล่มขึ้นมาอะไรจะเกิดขึ้น และนั่นคือสิ่งที่เราเพิ่งเห็นมาในบริบทของ CrowdStrike 

ขณะนี้ในประเทศไทยเราก็เพิ่งจะผ่านการพิจารณารอบแรกของรัฐสภาในเรื่อง ดิจิตอล วอลเล็ด – ซึ่งอย่างไรก็ตาม ถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีใครสามารถที่บอกกับผมได้เลยว่าเงินทุนสำหรับโครงการนี้จะมาจากไหน แล้วจะทำอย่างไรเพื่อไม่ให้ประเทศไทยเป็นหนี้เท่ากับ 2 เท่าของหนี้ที่มีอยู่ในระบบธนาคารตอนนี้ – แล้วจะทำอย่างไรเพื่อไม่ให้คนไทยทั้งหลายต้องแบกรับภาระในรูปแบบของการชำระภาษีในอนาคต เพื่อที่จะจ่ายชำระหนี้คืน ถึงแม้ว่าในความเป็นจริง ใครก็ตามที่รับ "เงินแจก 10,000 บาท ก็จะไม่ได้รับตัวเงินมาเลยด้วยซ้ำ "แต่จะได้เป็นเงินดิจิตอล ที่สามารถเปิด - ปิดได้ตามอำเภอใจ; เขาสามารถเลือกได้ว่าจะให้คุณไปใช้จ่ายได้ที่ไหน หรือจะสามารถซื้ออะไรได้บ้าง แล้วแบบนี้มันจะเป็นเงินตราได้ยังไง สำหรับผมแล้วมันดูไม่มีเหตุผลเอาเสียเลย   

พักประเด็นนั้นไว้ก่อน มันเป็นเรื่องดิจิตอลทั้งหมด แล้วอะไรจะเกิดขึ้นในอนาคตถ้าหากมีความผิดพลาดเล็กๆน้อยๆเกิดขึ้นในระบบ ประเทศไทยจะสูญเสียขีดความสามารถในการทำธุรกิจหรือเปล่า? นั่นคือประเด็นของผม ทุกอย่างที่เกี่ยวกับการไร้เงินสด มันคงจะดูดีสำหรับพวกนักวิชาการทั้งหลาย ที่วันๆเอาแต่นั่งอยู่บนหอคอยงาช้างกับกระดานสำหรับวาดภาพ แต่ในชีวิตความเป็นจริงที่อยู่ข้างล่างนี้ ซึ่งก็คงจะต้องยืมคำพูดของ Johnny Cash มาใช้ ที่ว่า มันจะเต็มไปด้วย "โคลน เลือด กับเบียร์" แล้วมันจะได้ผลยังไง? ถ้าหากระบบเกิดปิดตัวลงไปแล้วตัดสินใจที่จะไม่ทำงาน อะไรจะเกิดขึ้นกับพวกเราบุคคลธรรมดา คนไทยทั่วไปที่ต้องทำงาน หรือใครก็ตามที่พำนักอาศัยอยู่ในเมืองไทยแต่ไม่สามารถที่จะเข้าถึงเงินของตัวเองได้เพราะ "อ้าว จอกลายเป็นสีฟ้าเสียแล้ว" - เดี๋ยวเราจะเอาจอสีฟ้าขึ้นมาให้คุณเห็นภาพในวีดีโอเรื่องนี้ จอนี้คือสิ่งที่ทุกคนในโลกตะวันตกได้เห็นมาแล้ว เพราะพวกเขาไม่สามารถจะใช้งานอะไรได้เลย แม้แต่จะขับรถก็ไม่สามารถทำได้ รถ Tesla บางคัน ก็มีจอสีฟ้าปรากฏขึ้นมาเช่นกัน เพราะฉะนั้นผมขอถามอีกครั้งหนึ่งว่า เราต้องการสิ่งนี้สำหรับระบบการเงินของเราในประเทศไทยจริงหรือ?