Integrity Legal - Law Firm in Bangkok | Bangkok Lawyer | Legal Services Thailand Back to
Integrity Legal

Legal Services & Resources 

Up to date legal information pertaining to Thai, American, & International Law.

Contact us: +66 2-266 3698

[email protected]

ResourcesThailand Real Estate & Property LawJurisprudenceเราทุกคนจะปฎิบัติตามกฎ ฉันจะเชื่อฟังคุณ เก็บไว้ข้างในก็แล้วกัน

เราทุกคนจะปฎิบัติตามกฎ ฉันจะเชื่อฟังคุณ เก็บไว้ข้างในก็แล้วกัน

For the English transcript of this video please go to the following link:

https://www.legal.co.th/resources/thailand-real-estate-property-law/jurisprudence/dude-abides-keep-it-inside/

ดูจากหัวข้อวีดีโอเรื่องนี้ ผู้ที่เป็นแฟนของ Lebowski คงเข้าใจความหมายเพราะกำลังอ้างอิงถึงคำพูดของ The Big Lebowski ซึ่งผมเองก็เป็นแฟนตัวยงของ Lebowski. เหตุผลที่ผมทำวีดีโอเรื่องนี้ เพราะผมอ่านบทความที่ทำให้ผมนึกถึงบทความอีกชิ้นหนึ่งที่อ่านพบเมื่อเกือบ 10 ปีที่แล้ว แต่มันก็ถูกขังอยู่ในหัวผมตลอดมา จึงตัดสินใจทำวีดีโอเรื่องนี้

เหตุผลเกิดจากบทความที่ผมได้อ่านในนิตยสาร ASEAN NOW, aseannow.com, ชื่อเรื่องว่า “ผู้ใช้กัญชาและผู้ขายมีความรับผิดชอบสูง - ไม่จำเป็นต้องมีมาตรการโหดๆ - กฎหมายเฉพาะเรื่องนี้จะออกมาอีกในเดือนสิงหาคม จะขอยกข้อความมาโดยตรงดังนี้: "โฆษกของคณะกรรมธิการยกร่างกฎหมายและระเบียบเกี่ยวกับการเปิดเสรีเรื่องกัญชาและกัญชง ได้แสดงความชื่นชมต่อปฏิกิริยาของผู้ใช้กัญชาและผู้ขาย นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ ได้กล่าวใน Facebook ว่าผู้ใช้กัญชาได้ปฏิบัติตัวอย่างมีความรับผิดชอบรวมถึงผู้ขายด้วย" กล่าวต่อ: "นายปานเทพ ได้กล่าวว่ามีกฎระเบียบจำนวนมากมายที่ใช้อยู่เป็นการชั่วคราวก่อนที่กฎหมายจะออก และไม่มีความจำเป็นที่จะต้องออกเป็นพระราชกฤษฎีกาหรือพระราชกำหนด แต่อย่างใด" ซึ่งส่วนนี้ผมว่าตรงประเด็นกับเหตุผลของการทำวีดีโอเรื่องนี้ ข่าวยังกล่าวต่อไปอีกว่า "ระเบียบที่มีอยู่ เช่นการไม่อนุญาตให้สูบกัญชาในที่สาธารณะ การจำกัดไม่ให้ผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปีสามารถเข้าถึงการใช้กัญชา และกฎกระทรวงสาธารณสุขเรื่องการควบคุมสมุนไพร ซึ่งทั้งหมดมีใช้อยู่ตอนนี้ก็นับว่าเพียงพอแล้ว ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นในส่วนของภาคสาธารณะ ตำรวจ ส่วนราชการ หรือร้านค้า ทุกส่วนต่างก็เล่นตามบทของตัวเอง ทุกคนก็จะสามารถไปได้อย่างชิลๆสบายๆ”  

เหตุผลที่ผมทำวีดีโอเรื่องนี้และเหตุผลที่อ้างอิงถึง The Big Lebowski ซึ่งถ้าใครเคยดูเรื่อง The Big Lebowski จะรู้ดีว่า The Big Lebowski เป็นคนที่ชอบเสพกัญชาอย่างมาก แต่ผมก็ฉุกคิดขึ้นมาได้ว่า มีบทความหนึ่งที่ผมจะกล่าวถึงต่อไป แต่ตอนนี้ผมยังไม่สามารถอ้างอิงแหล่งที่มาได้ ถ้าหาได้เมื่อไหร่จะเอาขึ้นหน้าจอให้คุณได้ดู  บทความนี้มาจาก เมือง Seattle ในรัฐ Washington หัวข้อเรื่องว่า: ตำรวจวอชิงตันรู้สึกชิลๆ  – (ผมชอบคำว่า "ชิล"และในบทความอ้างอิงก่อนนี้ก็มีการใช้คำว่า "ทุกคนชิลมาก”) บทความยังกล่าวต่อไปว่า: "ตำรวจวอชิงตันดูจะชิลมากในเรื่องการที่กัญชาถูกทำให้เป็นสิ่งถูกกฎหมายอย่างเป็นทางการ" (ผมเจอบทความแล้วครับ มาจาก Business Insider, businessinsider.com, วันที่ 6 ธันวาคมปี 2012 เมื่อ 10 ปีที่แล้ว) "ถึงแม้การสูบกัญชาในที่สาธารณะจะยังไม่เป็นสิ่งที่ถูกต้องตามกฎหมาย ตำรวจของเมือง Seattle ได้ให้สัมภาษณ์ว่า กฎหมายในขณะนี้ยังไม่ได้กำหนดว่าจะให้ทำอย่างไรกับผู้ที่สูบกัญชาในที่สาธารณะ" และมีข้อความข้างใต้ภาพของ Jeff Lebowski ตัวเอกของเรื่อง The Big Lebowski ว่า “ตำรวจซีแอ๊ตเติ้ลผู้เข้มงวดกับการพี้กัญชา ฉันจะเชื่อฟังคุณ เอาเก็บไว้ในบ้านก็แล้วกัน"

ผมเลยมองว่าจะมีประโยชน์กับคนที่มีความกังวลเรื่องนี้ ซึ่งมีหลายคนติดต่อผมเข้ามาพยายามถามผมว่า "กฎระเบียบมีอะไรบ้าง? ทำอะไรได้? ทำอะไรไม่ได้? ฯลฯ" ซึ่งผมคงจะไม่มานั่งจัดลำดับว่าอะไรทำได้และอะไรทำไม่ได้ และผมเคยกล่าวในวีดีโอม้วนอื่นไว้แล้วว่า เรื่องนี้เป็นสิ่งที่ต้องระมัดระวัง ชาวต่างชาติต้องระวังเรื่องนี้อย่างมาก และผมเคยกล่าวแล้วว่า ตำรวจเคยบอกว่าถ้าหากคุณอยู่ในบ้านคนเดียวก็ไม่มีใครสนใจ "เราจะไม่ไปสืบเสาะหา หรือไปทำให้คุณมีปัญหาขึ้นมา” ซึ่งคำพูดว่า “ฉันจะเชื่อฟังคุณ เอาเก็บไว้ในบ้านก็แล้วกัน" จาก Seattle เมื่อ 10 ปีที่แล้วก็คือจุดเดียวกับที่เราเป็นอยู่ในประเทศไทยขณะนี้ นั่นก็คือ การสูบกัญชาในที่สาธารณะยังเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมาย ในขณะเดียวกัน จะไม่รับโทษเฉพาะกับการใช้กัญชาเป็นการส่วนตัว แต่จุดใหญ่ใจความก็คือ จะต้องเป็นการใช้กัญชาภายในบ้านเพียงลำพังเท่านั้น ซึ่งฝ่ายกฎหมายจะไม่สนใจคุณเลย 

ผมเคยกล่าวในวีดีโอม้วนอื่น ซึ่งไม่เฉพาะในช่องรับชมนี้เท่านั้นว่า แรงผลักดันหลักๆในเรื่องนี้ และเราเคยอ้างถึงเจ้าหน้าที่เมื่อ 2-3 ปีที่แล้วด้วยว่า พวกเขาไม่ได้มองว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่มีความเร่งด่วนแรกแต่อย่างใด และไม่ต้องการที่จะเสียเวลารวมทั้งทรัพยากรจำนวนมากของตำรวจไปกับเรื่องนี้ เพราะถ้าจะพูดกันตรงๆก็คือ ยังมีเรื่องยาเสพติดชนิดอื่นๆที่เป็นอันตรายมากกว่ากัญชารออยู่อีกมาก ผมก็เลยคิดว่าเหตุผลของวีดีโอเรื่องนี้ก็คือไปดูสิ่งที่เกิดขึ้นในสหรัฐฯเมื่อ 10 ปีที่แล้ว ซึ่งกัญชาเพิ่งจะเริ่มถูกกฎหมายและคำพูดที่ว่า "ฉันจะเชื่อฟังคุณ เอาเก็บไว้ในบ้านก็แล้วกัน" อาจเป็นคำกล่าวที่เหมาะกับชาวต่างชาติทั้งหลายในที่นี้ ที่อย่างน้อยก็ควรจะสรุปกระบวนทัศน์ทั้งหมดของเรื่องนี้ผ่านใจของคุณถึงการบังคับใช้กฎหมายในราชอาณาจักรไทยในขณะนี้