Integrity Legal - Law Firm in Bangkok | Bangkok Lawyer | Legal Services Thailand Back to
Integrity Legal

Legal Services & Resources 

Up to date legal information pertaining to Thai, American, & International Law.

Contact us: +66 2-266 3698

[email protected]

ResourcesThailand Real Estate & Property LawJurisprudenceคำชี้แจงเพิ่มเติมเรื่องกฎหมายเกี่ยวกับกัญชาของประเทศไทย

คำชี้แจงเพิ่มเติมเรื่องกฎหมายเกี่ยวกับกัญชาของประเทศไทย

For the English transcript of this video go to the following link: 

https://www.legal.co.th/resources/thailand-real-estate-property-law/jurisprudence/further-clarification-thailands-cannabis-laws/

วีดีโอเรื่องนี้จะกล่าวถึงพัฒนาการของกฎหมายเกี่ยวกับกัญชาในประเทศไทย ซึ่งผมเคยกล่าวไว้ในในวีดีโอม้วนอื่นว่าเรื่องนี้ยังไม่ตกผลึกดี  แต่ที่แน่ๆก็คือมีข่าวดีอยู่ไม่น้อยสำหรับผู้ที่สนใจในเรื่องนี้ กล่าวคือ กัญชาสำหรับการรักษาโรคเป็นสิ่งที่ไม่ผิดกฎหมายแล้ว แต่ผมก็ยังไม่ค่อยแน่ใจนักว่าจะเรียกว่าถูกกฎหมายในความหมายของประเทศทางตะวันตกได้หรือเปล่า เพราะการปฏิบัติตามกฎหมาย บางทีอาจตีความได้กว้างขวางมากกว่า ในประเด็นที่ว่าจะสามารถทำอะไรได้บ้างตราบเท่าที่ยังระบุว่าไม่ผิดกฎหมาย ยกตัวอย่างในสหรัฐฯ ผมคิดว่าคงเป็นที่เมือง Seattle, พอมีการยกเลิกความผิดทางอาชญากรรมเกี่ยวกับกัญชาแล้วเพียงชั่วข้ามคืนก็ไม่มีใครสนใจเรื่องนี้อีกเลย แต่ในขณะที่เรากำลังพูดอยู่นี้ ก็ยังมีบางกรณีที่ถือว่าเป็นความผิดตามกฎหมาย ขึ้นอยู่กับว่าใช้กัญชาในกิจกรรมประเภทใด ใช้จำนวนมากน้อยแค่ไหน และส่วนผสมที่เป็น THC ของสินค้านั้นๆมีมากน้อยแค่ไหน ซึ่งจะพูดไปก็เหมือนกับแผ่นเสียงตกร่องคือ ผมก็ต้องบอกว่าต้องดูข้อเท็จจริงในแต่ละกรณีไป ประเด็นใหญ่ที่กำลังเกิดขึ้นในที่นี้ก็คือ ในขณะที่เรามุ่งประเด็นไปที่สิ่งที่เราต้องปฏิบัติตามสิ่งที่อ้างถึงนี้ แต่มันชัดเจนมากว่า เจ้าหน้าที่ในประเทศไทยไม่ค่อยได้ให้ความสนใจในเรื่องนี้แล้ว และผมจำได้อยู่เรื่องหนึ่ง เมื่อหลายปีมาแล้ว ตอนที่เริ่มจะพูดถึงกัญชาใหม่ๆก่อนที่จะมาถึงจุดที่เป็นอยู่ในขณะนี้ ผมพอจำได้คร่าวๆว่า ท่านรัฐมนตรียุติธรรมของไทยได้กล่าวว่า "เรายังมีงานสำคัญอีกมากมายที่ต้องทำในการตามล่ายาเสพติด ซึ่งมีความร้ายแรงมากกว่ากัญชา" ผมเข้าใจว่าแนวคิดนั้นก็คือ ไม่จำเป็นต้องเสียเวลาและทรัพยากรไปกับเรื่องความผิดเล็กๆน้อยๆเกี่ยวกับกัญชา

อย่างไรก็ตาม ผมนึกถึงการทำวีดีโอเรื่องนี้หลังจากผมได้อ่านบทความใน Pattaya Mail, pattayamail.com, หัวข้อเรื่อง: นักท่องเที่ยวงงกับกฎหมายใหม่ของประเทศไทยเกี่ยวกับการใช้มือถือและการใช้กัญชา (Tourists baffled by new Thai Laws on cell phones and marijuana use) ซึ่งผมจะนำมากล่าวเพียงเล็กน้อย บทความนี้เป็นบทความที่ลงลึกในรายละเอียดพอสมควรและมีการวิเคราะห์ที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่รับชมวีดีโอเรื่องนี้และแนะนำให้ไปอ่านเพิ่มเติมเอง ความว่า: "กฎหมายใหม่เรื่องการใช้กัญชาและการนำไปใช้ในทางที่ผิดจะมีผลบังคับใช้ในเดือนนี้ กฎหมายนี้จะเป็นการอนุญาตให้พลเมืองไทยปลูกกัญชาที่บ้านเพื่อวัตถุประสงค์ทางการแพทย์  และเพื่อผลประโยชน์ทางเกษตรกรรม" ซึ่งผมว่าน่าสนใจและพูดได้ดี สิ่งที่ต้องสังเกตคือคำว่า "พลเมืองไทย" ชาวต่างชาติต้องระมัดระวังในประเด็นนี้ให้ดี หากมีความรู้สึกว่าไม่เข้าใจอย่างถ่องแท้เกี่ยวกับประเด็นของข้อกฏหมายในกรณีที่เกี่ยวกับชาวต่างชาติแล้วล่ะก็ น่าจะเป็นการดีที่สุดที่จะติดต่อผู้ที่มีความรู้ทางด้านกฎหมายเพื่อที่จะได้ข้อมูลเชิงลึกและคำแนะนำดีๆ ข่าวยังกล่าวต่อไปอีกว่า: "และเพื่อหากำไรสำหรับผู้ที่ได้ลงทะเบียนเรียบร้อยแล้ว แต่เห็นนักท่องเที่ยวชาวตะวันตกได้ไปติดต่อที่สำนักงานนักท่องเที่ยวที่เมืองพัทยา เพื่อที่จะไปสอบถามว่า ตอนนี้ทางการอนุญาตให้สูบกัญชาได้หรือยัง เพราะมีคนให้ข้อมูลว่าการใช้กัญชาเพื่อสันทนาการ ยังถือว่าผิดกฎหมาย แต่คงไม่มีการดำเนินใดๆทั้งสิ้นหากสูบภายในบ้านของตัวเอง" การกล่าวแบบนี้เป็นสิ่งที่น่าสนใจทีเดียว 

สิ่งที่ผมจะพูดต่อคือ น่าจะมองเรื่องนี้ว่าเป็นการนิรโทษกรรมในระดับหนึ่งเท่านั้น และคงไม่ใช่ความคิดที่ดีที่จะคิดว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องถูกกฎหมายแล้ว ผมรู้ว่าตอนนี้มันเหมือนกับอยู่ในพื้นที่สีเทา คือมันเป็นสิ่งซับซ้อนที่ยากจะเข้าใจและผมก็รู้ด้วยว่าทุกคนชอบมัน เมื่อทนายความอเมริกันมาถึงจุดที่จะต้องตีความในสิ่งที่ยากจะเข้าใจนี้ แต่ั่นั่นคือการทำงานในทางกฎหมาย ข่าวยังกล่าวต่ออีกว่า: "ในเรื่องบทลงโทษ กฎหมายใหม่ได้ระบุว่า มีโทษจำคุก 3 เดือน และ/หรือ ปรับ 25,000 บาท ประมาณ 800 เหรียญสหรัฐฯ ถ้าหากใช้สารสะกัดจากกัญชาที่มีปริมาณของ THC (ซึ่งคือส่วนประกอบที่ทำให้มึนเมา) มากกว่า 0.2% (ในข้อความนี้ได้อ้างอิงบุคคลหนึ่งซึ่งผมจะไม่พูดชื่อ) มีนักท่องเที่ยวจาก Manchester ได้ถามว่าสูบกัญชาในห้องพักในโรงแรมได้หรือไม่ ซึ่งตอบยาก แต่คำแนะนำจากสมาคมนักกฎหมายเมืองพัทยาได้กล่าวว่า ในช่วงนี้ควรจะหลีกเลี่ยงการกระทำเช่นนี้ "ตำรวจอาจจะตั้งคำถามว่าได้กัญชามาจากไหน และถ้าหากมีการจัดงานในห้องพักอาจจะมีผลที่แตกต่างกับการอยู่คนเดียว" ขอกลับไปอ้างถึงคำพูดที่ว่า "สูบในบ้านของตัวเอง" ซึ่งดูเหมือนจะเป็นสิ่งที่ตำรวจไม่สนใจหรืออาจจะไม่สนใจมากนักและคงไม่กังวลมากนักเช่นกัน

ขอเน้นย้ำอีกครั้งสำหรับชาวต่างชาติ ช่วงนี้ยังเป็นช่วงที่เป็นสีเทา เพราะฉะนั้นถ้าไม่เข้าใจว่าเรื่องราวเป็นอย่างไรและไม่มั่นใจ ควรที่จะติดต่อผู้ที่มีความรู้ทางด้านกฎหมายเพื่อที่จะได้ข้อมูลเชิงลึกและคำแนะนำดีๆว่า จะทำอย่างไรจึงจะดีที่สุด