Integrity Legal - Law Firm in Bangkok | Bangkok Lawyer | Legal Services Thailand Back to
Integrity Legal

Legal Services & Resources 

Up to date legal information pertaining to Thai, American, & International Law.

Contact us: +66 2-266 3698

info@integrity-legal.com

ResourcesThailand Real Estate & Property LawJurisprudence"ระยะเวลาการผ่อนผันสำหรับสาธารณะเพื่อปรับตัว" ในกรณีการปรับเปลี่ยนกฎหมายเกี่ยวกับกัญชาของไทย

"ระยะเวลาการผ่อนผันสำหรับสาธารณะเพื่อปรับตัว" ในกรณีการปรับเปลี่ยนกฎหมายเกี่ยวกับกัญชาของไทย

For the English transcript of this video, please go to the following link:

https://www.legal.co.th/resources/thailand-real-estate-property-law/jurisprudence/grace-period-public-adjust-thai-cannabis-law-changes/

วีดีโอเรื่องนี้จะกล่าวถึงระยะเวลาการผ่อนผันในขณะที่เรากำลังเฝ้าติดตามการปรับเปลี่ยนกฎหมายกัญชาในประเทศไทย ผมขออารัมภบทวิดีโอม้วนนี้ด้วยการลงไปที่ส่วนที่สำคัญที่สุดก่อน กล่าวโดยสรุปคือ จนถึงสิ้นปีนึ้ ในทางปฏิบัติแล้วสำหรับกัญชาอาจจะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงเลย จริงๆแล้ว ผมคิดว่าคงจะใช้เวลาอีกนานกว่าจะมีการประกาศใช้กฎหมายอย่างเป็นทางการ ซึ่งเดี๋ยวจะเล่าต่อไป และถ้าหากนำมาใช้เมื่อไหร่ก็คงจะจัดให้มีระยะเวลาการผ่อนผันซึ่งชอบด้วยกฎหมายออกไปอีกระยะหนึ่งก่อนที่จะบังคับใช้ตามกฎหมายอย่างจริงจัง เพราะฉะนั้นถ้าหากถึงปลายปีนี้ ซึ่งเดี๋ยวจะวิเคราะห์ต่อ ผมคิดว่าคงมั่นใจได้ว่าในไตรมาสแรกของปี 2025 ก็คงจะเหมือนกับปี 2024 ในแง่ของการที่กัญชายังเป็นสิ่งที่ถูกต้องตามกฎหมาย เพราะฉะนั้น ถ้าหากมีใครที่กำลังวางแผนจะมาเที่ยว แล้วกังวลว่าประเทศไทยจะเปลี่ยนกฎหมายเกี่ยวกับกัญชาอย่างฉับพลันในระหว่างนั้นหรือไม่ล่ะก็ ผมคิดว่าไม่จำเป็นต้องกังวลถึงขนาดนั้น และในความเป็นจริง ผมคิดว่า สิ่งที่เป็นอยู่ขณะนี้คือ รัฐบาลจะไม่พูดถึงเรื่องกัญชาให้มันเกินเลยความเป็นจริง และก็จะไม่มีการทำอะไรแบบปุ๊บปั๊บ รัฐบาลเพียงแต่ต้องการทำให้มันถูกต้องเท่านั้น นั่นคือข้อความโดยนัย ที่ผมอ่านได้จากประกาศต่างๆของทางการที่มีการพูดถึงเรื่องกัญชา

อีกสิ่งหนึ่งคือ ในวีดีโอก่อนหน้านี้ ผมเคยพูดถึงประเด็นว่าศาลรัฐธรรมนูญควรที่จะชั่งน้ำหนัก หรือไม่ว่า เรื่องนี้ควรที่จะบัญญัติเป็นกฎหมายแทนที่จะทำแค่แก้ไขกฎกระทรวง ซึ่งในความคิดส่วนตัวของผม ถ้าหากไม่อยู่ในสถานการณ์ฉุกเฉินผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าจะใช้วิธีนั้นได้อย่างไร ขอวางเรื่องนี้ไว้ก่อน ผมได้มีการสนทนากับเพื่อนร่วมงานคนไทยซึ่งมีความรู้ทางด้านนี้มากกว่าผม เป็นคนฉลาด และเพื่อนร่วมงานคนนั้นก็ได้บอกว่า คุณอาจจะเข้าใจผิดเรื่องวิธีปฏิบัติของศาลในประเด็นนี้ก็ได้ และผมก็ไม่ได้จะพูดในฐานะที่เป็นนักกฎหมาย แต่อันนี้คือเรื่องที่คนอื่นเล่ามาอีกทีหนึ่ง แต่ผู้นั้นกล่าวว่า "ความจริงก็คือทุกคนได้รับใบอนุญาต เป็นใบอนุญาตตามปกตินี่แหละ แต่เป็นใบอนุญาติสำหรับสิ่งที่เรียกกันว่า “พืชสมุนไพรภายใต้การควบคุม” ก็เป็นคำที่ใช้เรียกกันมาจนถึงตอนนี้ และใบอนุญาตเหล่านั้นก็มีอายุการใช้งานด้วย; เท่าที่เข้าใจก็มีอายุ 3 ปีนับจากวันที่ออกใบอนุญาต ในกรณีที่จะเพิกถอนใบอนุญาตเหล่านั้น จะต้องนำเรื่องเข้าสู่ศาลปกครอง " ขอย้ำว่า นี่คือข้อมูลที่เป็นคำบอกเล่าที่ได้ยินมาของเพื่อนร่วมงานคนไทยที่เข้าใจกฎหมายไทยดี ไม่ได้เป็นความคิดของผม และถึงแม้จะฟังดูเหมือนพูดซ้ำซาก แต่ก็ต้องบอกว่าผมไม่ได้เป็นทนายความคนไทยผมเป็นทนายความอเมริกันที่ถือสัญชาติไทย และผมชอบศึกษาเรื่องกฎหมายเปรียบเทียบอยู่บ่อยๆ แต่คุณก็ต้องเข้าใจด้วยว่าจุดยืนของผมคืออะไร; ผมคอยติดตามเรื่องนี้อย่างระมัดระวังและใกล้ชิดเพื่อที่จะเรียนรู้บางสิ่งบางอย่าง เอาล่ะ มาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่า

ผมคิดจะทำวีดีโอเรื่องนี้หลังจากที่ผมได้อ่านบทความจาก Bangkok Post, bangkokpost.com, บทความชื่อว่า: Cannabis Permit System in Pipeline ระบบเกี่ยวกับการออกใบอนุญาตกัญชากำลังดำเนินการอยู่ ขอยกข้อความโดยตรงจากบทความดังนี้: "นายสมศักดิ์ รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุข ได้ย้ำถึงความมุ่งมั่นที่จะยกเลิกการใช้กัญชาเพื่อสันทนาการในทุกกรณี" ผมไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมถึงต้องพูดซ้ำซากเรื่องการใช้เพื่อสันทนาการ ผมไม่เข้าใจเลยว่า ทำไมถึงจะต้องมีคนสนใจเรื่องนี้มากมาย ปล่อยให้เป็นธุระของคนอื่นไม่ได้หรือ?  มีสิ่งหนึ่งที่ผมอยากจะพูด และผมเคยพูดมาแล้ว แล้วผมขอพูดอีกครั้งว่า เป็นไปได้ว่าการออกใบอนุญาตในอนาคต ควรจะอยู่บนพื้นฐานของระบบลดหลั่น และรากฐานของระบบลดหลั่นนั้น น่าจะเป็นว่าใบอนุญาตสำหรับสมุนไพรควบคุมที่ออกให้แล้วนั้น ให้ถือเป็นหลักเกณฑ์ว่า ใครที่ถือใบอนุญาตนี้กำลังทำอะไรอยู่ ก็ให้ดำเนินการได้ต่อไป หมายความว่าถ้ามีสาร THC 0.2% หรือน้อยกว่า ก็สามารถที่จะเปิดร้านจำหน่ายสิ่งเหล่านั้นต่อไปได้ แต่ถ้ามากกว่านั้น - คือมี THC ที่สูงกว่า คือพวกสารสกัดต่างๆที่มี THC ในปริมาณที่สูงกว่าระดับที่ออกใบอนุญาตให้ โดยถือเกณฑ์ 0.2% เป็นฐาน จะต้องมีใบอนุญาตในระดับที่สูงขึ้น แล้วก็ไม่ต้องมาพูดถึงประเด็นเกี่ยวกับการใช้เพื่อสันทนาการกันอีกเลย; ทำเพียงแค่นั้นพอ ผู้คนจะนำมาใช้เพื่ออะไรก็ตาม - ตราบเท่าที่พวกเขาอายุเกิน 20 ปี - ซึ่งถือว่าเป็นผู้ใหญ่แล้ว สามารถตัดสินใจได้ด้วยตัวเอง อีกอย่างคือผมไม่ชอบที่จะให้เรียกสิ่งนี้ว่า “ยาเสพติด” เพราะมันไม่สมเหตุสมผลเลย ผมเคยพูดในวีดีโอม้วนอื่นแล้วว่า อยู่ๆคุณจะพูดแต่เพียงฝ่ายเดียวได้หรือว่า พืชชนิดนี้เป็นยาเสพติด ไม่มีเหตุผลเอาเสียเลย ถ้าคุณลองพิจารณาใคร่ครวญดูให้ดี ก็จะเห็นว่ามันไม่สมเหตุสมผลเลยโดยดูจากประเด็นที่ว่าของสิ่งนี้มันไม่ได้ทำให้ใครเสียชีวิตสักหน่อย การที่จะพิจารณาว่าอะไรเป็นยาเสพติดหรือไม่ ผมดูว่ามันทำให้คุณเสียชิวิตได้หรือเปล่า ผมไม่รู้ว่าคุณจะต้องกินกัญชาเข้าไปสักแค่ไหนถึงจะเสียชีวิต ซึ่งผมคิดว่าโดยพื้นฐานแล้วมันคือความเป็นไปไม่ได้ทางสถิติ บทความกล่าวต่อว่า: "นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขได้กล่าวในวันพฤหัสบดี ว่า การอนุญาตให้ปลูกและใช้กัญชาก็เพื่อวัตถุประสงค์ทางการแพทย์และการศึกษาวิจัยเท่านั้น สำหรับการใช้เพื่อสันทนาการจะถูกห้ามโดยเด็ดขาดภายใต้กฎหมายใหม่" ซึ่งประเด็นนี้เราได้พูดไปแล้ว ผมชอบจริงๆกับการที่ Bangkok Post และสื่อโดยทั่วไปพูดว่า "สิ่งนี้เกิดขึ้นแน่!" ไม่ใช่เลย ตอนนี้เราอยู่ในขั้นตอนของการยกร่างกฎหมายเท่านั้น แต่สื่อต่างๆก็จะเสนอข่าวเหมือนกับว่ามันเป็นข้อสรุปที่มีไว้ล่วงหน้าแล้ว หรือเป็นข้อยุติแล้ว ซึ่งไม่ได้ช่วยอะไรเลย พวกคุณต้องรายงานข่าว ไม่ใช่นำความคิดเห็นส่วนตัวเข้ามาในบทความ อย่านำความลำเอียง มาใส่เข้าไป แค่รายงานข่าวในสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น บทความกล่าวต่ออีกว่า: “ความเห็นของนายสมศักดิ์นั้น เป็นไปหลังจากการกลับลำอย่างน่าตกใจในนโยบายโดยนายกรัฐมนตรี เศรษฐา ทวีสินเมื่อต้นเดือนนี้ “ไม่ใช่เลย นั่นคือนโยบายของนายเศรษฐาเอง ไม่ใช่นโยบายของรัฐบาลทั้งชุด และต้องจำไว้ด้วยว่านายเศรษฐาและพรรค เป็นเพียงส่วนประกอบส่วนหนึ่งของสภาทั้งหมด แต่ก็เอาเถอะ บทความกล่าวต่ออีกว่า: “ก็นายกนั่นแหละที่ประกาศว่าจะนำกัญชากลับมาเป็นยาเสพติดอีกครั้งภายในสิ้นปีนี้ หลังจากทำให้กัญชาไม่ถือว่าเป็นความผิดทางอาญามาเมื่อปี  2022" ไม่ถือว่าเป็นความผิดทางอาญาหรือ? ไม่ใช่เลย มันเป็นของถูกกฏหมายตะหาก เลิกใช้คำไร้สาระเหล่านี้เสียที คำว่า “ไม่ถือว่าเป็นความผิดทางอาญา” เป็นคำที่ผมไม่ชอบเลยเพราะไม่มีสาระเลย เพราะในระบบของกฎหมายแล้ว ทุกอย่างจะมีอยู่ 2 แบบเท่านั้นคือ ถูกกฎหมาย กับ ไม่ถูกกฎหมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกฎหมายแบบลายลักษณ์อักษรกับประมวลกฎหมาย - ผมกำลังมองในแง่ของกฎหมายเปรียบเทียบ ในฐานะที่เป็นผู้สังเกตการณ์เท่านั้น – แต่ในระบบกฎหมายลายลักษณ์อักษร มีความจำเป็นที่จะต้องบัญญัติว่าอะไรคือสิ่งผิดกฎหมาย เพื่อที่จะได้ทำในสิ่งที่ถูกกฎหมาย ไม่มีคำว่าไม่เป็นความผิดทางอาญา เหมือนกับในหนังเรื่อง Star Wars ที่ Yoda พูดว่า "ทำหรือไม่ทำ", ไม่มีคำว่า 'พยายาม' กล่าวต่อ: “นายสมศักดิ์ได้กล่าวว่ารายละเอียดของขั้นตอนการออกใบอนุญาติ ยังอยู่ระหว่างการยกร่าง ระบบการออกใบอนุญาตจะต้องไม่ก่อให้เกิดภาระที่ไม่สมเหตุสมผลต่อประชาชน นายสมศักดิ์ได้โพสท์บน Facebook เพิ่มเติมว่า จะจัดให้มีระยะเวลาผ่อนผันเพื่อให้ประชาชนได้ปรับตัวด้วย” ผมต้องพูดว่านี่เป็นจุดที่สมเหตุผลและก็ต้องขอขอบคุณสำหรับสิ่งเหล่านี้ บทความกล่าวอีกว่า “กลุ่มที่สนับสนุนกัญชาได้ต่อต้านท่าทีของนายเศรษฐา โดยกล่าวว่าสิ่งที่นายเศรษฐาทำจะทำลายความเชื่อมั่นทางธุรกิจ เพราะหลังจากที่กัญชาเป็นสิ่งที่ถูกกฎหมาย ก็มีคาเฟ่และร้านขายกัญชาเป็น 1,000 แห่งผุดขึ้นทั่วประเทศ” ตอนนี้เริ่มใช้คำศัพท์เฉพาะทางที่ถูกต้องแล้วนะ คือคำว่า legalisation โดยใช้ตัว S สะกดแทนที่จะใช้ตัว Z คุณก็รู้ดีว่าผมเป็นพวกอเมริกันนอกคอก กล่าวต่อ “อุตสาหกรรมนี้เป็นที่คาดว่าจะมีมูลค่าประมาณ 1,200 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ภายในปี 2025" จริงหรือ? เราต้องการที่จะเอาชนะต่อสิ่งที่มีมูลค่า 1,200 ล้านเหรียญสหรัฐฯสำหรับชนชั้นกลางของประเทศไทย อย่างนั้นหรือ? จริงหรือ? เราต้องการทำอย่างนั้นหรือ? กล่าวต่อ: “ตอนแรกในปี 2018 ประเทศไทยได้ทำให้กัญชาเป็นสิ่งถูกกฎหมาย เพื่อใช้ทางการแพทย์และเพื่อการศึกษาวิจัย ต่อมาเมื่อ 2 ปีที่แล้วได้ตัดพืชชนิดนี้ออกจากรายการยาเสพติดให้โทษ แล้วอนุญาตให้ผู้คนปลูก ขาย และเสพ" ก็คืออนุญาตให้คนมีอิสระที่จะดำเนินธุรกิจอย่างเสรีในตลาดเสรี ใช่หรือเปล่า? เป็นความคิดที่แปลก บทความกล่าวต่อว่า: "เพื่อที่จะจำกัดขอบเขตการใช้กัญชาเพื่อสันทนาการ", การใช้เพื่อสันทนาการ; การใช้เพื่อสันทนาการ! พอกันสักที ปล่อยให้เป็นเรื่องของแต่ละคนไปเถอะ  พวกเขาเป็นผู้บรรลุนิติภาวะแล้ว และก็ใช้อยู่แต่ในบ้านของตัวเองอย่างเป็นส่วนตัว สิ่งนี้ไม่ได้ทำให้ใครตาย ใครอยากจะทำอะไรก็ปล่อยให้เขาใช้ชีวิตของเขาไปเถอะ สิ่งที่ผมเกลียดมาก คือสิ่งที่ผมได้เห็นในช่วง 2 ปีที่ผ่านมานี้ ไม่ใช่เรื่องโควิดนะ แต่เป็นแนวคิดแบบรัฐพี่เลี้ยงของทางตะวันตก ที่ไม่ยอมให้ผู้คนใช้ชีวิตอย่างที่ต้องการ ซึ่งแนวคิดนี้กำลังคืบคลานเข้ามาสู่ ประเทศไทย การที่ปล่อยให้ผู้คนใช้ชีวิต คือสิ่งที่สวยงามของประเทศไทย; เป็นสิ่งที่ทำให้ประเทศไทยมีความเป็นสุดยอด; เป็นสิ่งที่ทำให้ประเทศไทยมีความเป็น”ไท” หรือถ้าจะแปลเป็นภาษาอังกฤษก็คือ “มีอิสระ” ก็คือเราจะปล่อยให้ทุกคนใช้ชีวิตของตัวเองไป นั่นคือเหตุผลว่าทำไมผมถึงรักที่นี่; นั่นคือสิ่งที่ทำให้ผมหลงรักประเทศนี้ "เพื่อที่จะจำกัดขอบเขตของการใช้เพื่อสันทนาการ นายสมศักดิ์ได้กล่าวว่า ดอกอ่อนและดอกของกัญชาจะถูกจัดให้เป็นยาเสพติดประเภท 5 อีกครั้งหนึ่ง" ถ้ามันไม่ผ่านการตราเป็นกฎหมายออกมา ผมก็ยังสงสัยอยู่ในประเด็นของความชอบธรรม เพราะเพียงชั่วข้ามคืนก็อาจจะมีการลงคะแนนเสียงกันว่า “ไม้กระถางประเภทนี้จัดเป็นยาเสพติด" จะเกิดอะไรขึ้นถ้าหากวันดีคืนดีมีคนอยากจะผูกขาดอุตสาหกรรมว่านหางจระเข้ในประเทศไทย โดยจัดให้มันเป็นยาเสพติด แล้วต่อมาก็ออกใบอนุญาตให้ตนเองเป็นผู้ได้รับอนุญาตแต่เพียงรายเดียว? ผมรู้ว่าฟังดูเหมือนจะพูดเกินความเป็นจริงไปหน่อย แต่ถ้าคิดกันดีๆก็ไม่เกินความจริงนะครับ แทนที่จะมองจากมุมมองที่ว่า "สิ่งนี้เคยเป็นของผิดกฎหมาย จะเป็นอะไรถ้าจะทำให้มันผิดกฎหมายอีกครั้งหนึ่ง" ผมว่าไม่ใช่นะครับ แต่ควรจะมองจากมุมมองที่ว่าสิ่งนี้เป็นของถูกกฎหมาย แล้วตอนนี้พยายามจะจัดเข้าอยู่ในหมวดหมู่ของสิ่งผิดกฎหมาย เราควรจะพิจารณาว่าโดยรวมแล้วมันเป็นความคิดที่ดีหรือไม่ ไม่ใช่มองอดีต ให้มองเพียงปัจจุบันและสถานการณ์ที่มันเป็นอยู่ในเวลานี้ ว่าเป็นอย่างไร มองอย่างเป็นกลางนะครับ ไม่ว่าในกรณีใดก็ตาม บทความกล่าวต่ออีกว่า: “เขากล่าวต่ออีกว่า ส่วนที่เป็นใบ กิ่ง ราก ก้านและเมล็ดก็ยังสามารถที่จะนำมาใช้ได้เพื่อรักษาสุขภาพและสำหรับการใช้งานทางการแพทย์ " คุณกำลังพูดถึงส่วนทั้งหมดที่ไม่มีใครต้องการจะซื้อ ใช่หรือเปล่า? แล้วอะไรจะเกิดขึ้นกับธุรกิจด้านนี้ล่ะครับ? กล่าวต่อ: “:"รัฐบาลชุดที่แล้วไม่ได้ออกกฎหมายใหม่เพื่อควบคุมกัญชา แล้วใครเป็นคนกันท่า? ใครเป็นคนกันท่า? ลองย้อนกลับไปดูสิ่งที่บันทึกไว้ มันควรจะมีกฎหมายออกมาแล้ว คือเรื่องนี้มันควรจะเดินต่อไปพร้อมกับการยกร่างกฎหมาย แทนที่จะทำๆหยุดๆแบบนี้ แต่ใครล่ะ ที่ตัดสินใจว่าไม่ต้องการทำเช่นนั้นในขณะที่มีโอกาสที่จะทำในช่วงรัฐบาลชุดที่แล้ว? "รัฐบาลพรรคเพื่อไทยได้เตรียมยกร่างกฎหมาย ที่จะมีการเขียนอย่างชัดเจนว่าจะอนุมัติการใช้พืชชนิดนี้ในการบำบัดโรคอะไรได้บ้าง และการใช้ในลักษณะใดที่จะถูกห้าม ผมหวังว่ากฎหมายนี้จะออกมาบังคับใช้ได้ก่อนสิ้นปีนิ้" คำถามอีกข้อหนึ่งคือ ได้มีการยกร่างกฎหมายที่เป็นทางเลือกอื่นไว้ด้วยหรือไม่ ทำไมถึงได้มีการกำหนดกรอบให้มีร่างกฎหมายเพียงฉบับเดียวเพราะในความเข้าใจของผม น่าจะมีการร่างไว้หลายๆชุด และในความเป็นจริงจุดประสงค์ของการมีสภา ก็เพื่อให้สมาชิกสภาผู้แทนได้อภิปรายร่างกฎหมายฉบับต่างๆเพื่อหาทางประนีประนอมกันในประเด็นสำคัญ ด้วยวิธีนั้นทุกคนก็จะสามารถยอมรับได้และสามารถเดินหน้าได้ต่อไป ผมเข้าใจว่านั่นคือเหตุผลที่เขาจ่ายเงินเดือนให้พวกคุณเข้ามาทำงานในสภา กล่าวต่อ:  “นายสมศักดิ์ ซึ่งได้รับการแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขในการปรับคณะรัฐมนตรีเมื่อเร็วๆนี้ กล่าวว่า เขาต้องการที่จะรับฟังความคิดเห็นของประชาชนก่อนที่จะตัดสินใจครั้งสุดท้ายว่าจะเดินหน้าต่อไปอย่างไร”  มีสองสามอย่างที่อยากจะพูด ประการแรกคือ ยังไม่มีการตัดสินใจว่าจะเดินหน้าต่อไปอย่างไร ดังนั่น สื่อต่างๆควรจะหยุดพูดในทำนองว่ามีการตัดสินใจไปแล้ว ประการที่ 2 คือ อะไรก็ตามที่จะเป็นการตัดสินใจในขั้นสุดท้ายที่จะออกมา อาจจะแตกต่างไปจากสิ่งที่สื่อต่างๆกำลังบอกในวันนี้ว่ามันเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ นั่นคือสิ่งที่ควรจะระลึกเอาไว้ และสิ่งที่ผมหวังก็คือว่า เรื่องนี้จะต้องผ่านกระบวนการนิติบัญญัติ; คือผู้ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ผู้ที่ได้มีส่วนได้เสียกับสิ่งนี้ และผู้ที่จะได้รับผลกระทบจากสิ่งนี้ ควรที่จะมีส่วนร่วมในการจัดทำและประกาศใช้กฎหมายนี้ และควรที่จะมีปากมีเสียงในขั้นตอนต่างๆ ซึ่งผมคิดว่าจะเป็นสิ่งที่ดีมาก; ไม่ใช่สิ่งที่เลวร้ายแต่อย่างใดเลย อย่างไรก็ตาม ผมต้องขอขอบคุณรัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขคนใหม่ ที่เป็นคนที่มีเหตุผล อย่างน้อยก็แบ่งเวลาเพื่อรับฟังผู้คนที่อาจจะได้รับผลกระทบอย่างหนักเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงต่างๆเหล่านี้ 

ดังนั้น ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม กล่าวโดยสรุปแล้วนี่คือสถานะที่เป็นอยู่ในขณะนี้ ผมคิดว่าคงเชื่อได้ว่า ในช่วงเวลาที่เหลือของปีนี้คงจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงใหญ่ๆให้เราได้เห็น ผมยอมเสี่ยงที่จะพูดว่า มันน่าจะคาดการณ์ได้ว่าจะเป็นเช่นนี้ไปถึงไตรมาสแรกของปี 2025 - ก็คงไปถึงช่วงปลายของ high season หน้า - เราคงจะไม่เห็นการเปลี่ยนแปลงใดๆในช่วงนั้นด้วย เพราะฉะนั้น ผู้คนทั้งหลายที่กำลังวางแผนการพักผ่อนด้วยการเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศ และมุ่งหน้ามาประเทศไทยและยังมีประเด็นนี้คาใจอยู่ ผมหวังว่าวีดีโอเรื่องนี้จะให้ความกระจ่างและให้มุมมองเชิงลึกในระดับหนึ่ง และอาจจะช่วยระงับความกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้ในประเด็นที่ว่าอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างปุ๊บปั๊บเกิดขึ้น แล้วจะทำให้คุณมีปัญหาในขณะที่มาพักผ่อนในประเทศไทย