For the English transcript of this video, please go to the following link:

https://www.legal.co.th/resources/thailand-real-estate-property-law/jurisprudence/how-can-there-be-growth-if-no-value-created/

วีดีโอเรื่องนี้จะกล่าวถึง "เศรษฐกิจที่มีการโตอย่างช้าๆ" ขอเข้าเรื่องเลยครับ ผมคิดจะทำวีดีโอเรื่องนี้หลังจากที่ผมได้อ่านบทความในหนังสือพิมพ์เนชั่น nationthailand.com, บทความชื่อว่า: Thai economy poised for growth in 2024, fueled by tourism and export.  เศรษฐกิจของไทยอยู่ในดุลยภาพที่จะเติบโตในปี 2024 ด้วยแรงกระตุ้นจากการท่องเที่ยวและการส่งออก ขอยกข้อความมาโดยตรงจากบทความดังนี้: "มีการคาดการณ์ว่าอัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของไทยจะอยู่ที่ 2.4% ในปีนี้ (2023) และ 3.2% ในปี 2024 แต่ถ้าหากนำผลกระทบจากกระเป๋าตังค์ดิจิตอลเข้ามาคำนวณ ก็คาดการณ์ว่าในปี 2024 อัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของไทยจะโตถึง 3.8% โดยประมาณ ซึ่งเป็นการลดลงจากที่เคยคาดการณ์ไว้ว่าจะโตถึง 4.4%"

ประเด็นปัญหาของผมต่อเรื่องทั้งหมดนี้ก็คือ เผื่อคุณจะยังไม่ทราบ ผมขอบอกว่า ถ้าคุณติดตามช่องนี้คุณคงจะทราบว่าผมไม่ใช่เป็นผู้ที่ชื่นชมกับโครงการกระเป๋าตังค์ดิจิตอลหรือเงินดิจิตอลเลย ผมคิดว่ามันไม่ใช่ “เงินตรา” ที่แท้จริง แต่มันได้ถูกออกแบบมาเพื่อที่จะติดตามการทำธุรกรรมทางการเงินที่เกิดขึ้นในระบบเศรษฐกิจที่กำหนด ไม่มีคำจำกัดความอย่างอื่นนอกเหนือไปจากนี้ และนั่นคือคำตอบว่าทำไมมันถึงดูเหมือนว่าถูกออกแบบมาเพื่อให้ทำสิ่งนี้ อย่างแรกเลยคือ ผมคิดว่ามันเป็นอันตรายและสร้างความเสียหายอย่างมากมายมหาศาล ถ้าเกิดภาวะเงินฝืดขึ้นในระบบเศรษฐกิจ เพราะผมไม่คิดว่าจะมีคนนำมันไปใช้มากเท่ากับที่พวกนักการธนาคารและนักเศรษฐกิจฝันเฟื่องไว้ ผมคิดว่า มนุษย์ก็คือมนุษย์ และแต่ละคนก็จะปฏิเสธต่อสิ่งนี้ มีอยู่กฎหนึ่ง เรียกว่า Gresham's Law ที่กล่าวว่า: "เงินที่ไม่ดีจะขับไล่เงินที่ดีออกไป" ผมคิดว่าผู้คนจะไม่นำมาใช้ แต่อีกอย่างหนึ่งที่ทำให้ผมหงุดหงิดอย่างมากก็คือ เรื่องที่เราเคยคุยกันไปแล้วว่า เงินตัวนี้จะถูกพิมพ์ออกมาในรูปแบบของดิจิทัล และไอ้ดิจิทัลโทเคนเนี่ย ก็จะถูกแจกจ่ายไปยังประชาชนเพื่อให้นำไปใช้จ่ายได้กับวิธีการบางอย่างเท่านั้น อย่างที่พวกเขาบอกว่า จะมีประเด็นของขอบเขตทางภูมิศาสตร์เข้ามาเกี่ยวข้อง และก็จะมีสินค้าบางอย่างที่สามารถหรือไม่สามารถนำ "เงิน" นี้ไปใช้ได้ แบบนี้แล้วผมก็ไม่รู้ว่าจะเรียกมันว่า “เงินตรา” ได้อย่างไร  มันไม่ใช่ “เงินตรา” ในความหมายของ”เงินตรา” แม้แต่น้อย ผมเคยพูดไว้ว่า จุดใหญ่ใจความของผมคือ เงินไม่ใช่ตัวสร้างผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ เงินเป็นเพียงเครื่องมือ คุณอาจพูดได้ว่า กระแสเงินตรา เป็นเครื่องมือที่ถูกใช้เพื่อยึดครองตำแหน่งในที่ซึ่งมีการแลกเปลี่ยนสินค้า คุณเอาเงินมาใช้แทนที่การแลกเปลี่ยนสิ่งของมีค่า แต่ถ้าอยู่ดีๆคุณก็พิมพ์สิ่งหนึ่งออกมา มันก็จะไม่มีค่าอะไรเลย เพราะฉะนั้นคำถามของผมคือ "คุณจะมีการเติบโตทางเศรษฐกิจได้อย่างไร ถ้าหากไม่มีการสร้างมูลค่าขึ้นมาก่อน? ซึ่งสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไปก็เหมือนกับที่เราได้พูดไว้ในวีดีโอเรื่องอื่นแล้วในหัวข้อนี้คือ โดยพื้นฐานแล้วแผนที่พวกเขาวางไว้ก็คือ จะสร้างสิ่งที่เรียกว่า ”เงินตรา” ขึ้นมา ซึ่งมันไม่ใช่ “เงินตรา” ที่แท้จริง จากนั้นก็แจกจ่ายออกไป ซึ่งผมเองไม่ชอบวิธีนี้เลย เคยมีคำกล่าวโบราณว่า "ถ้าให้ปลาแก่คน ก็เท่ากับให้อาหารเขาเพียงพอใน 1 วัน แต่ถ้าคุณสอนให้เขาตกปลา คุณก็ทำให้เขามีกินตลอดชีวิต" ดังนั้นเมื่อผมนึกถึงการแจกเงิน จึงทำให้ผมไม่สบายใจ หมายถึงความคิดของการแจก แต่อย่างไรก็ตามลองข้ามเรื่องนั้นไปก่อน ทันทีที่สิ่งที่เรียกว่า “เงิน” นี่ถูกแจกจ่ายออกไป มันสามารถนำไปใช้ได้ในวงจำกัดอันหนึ่งทางเศรษฐกิจ แต่เหนือสิ่งอื่นใดคือ มันเพียงแต่สามารถนำมาใช้ได้ มันไม่ได้สร้าง “มูลค่า” อะไรขึ้นมาเลย มันเป็นแค่เครื่องหมายที่ย้ายไปรอบๆสำหรับการตามเก็บภาษีให้มีความโปร่งใสมากขึ้นเท่านั้นเอง มันเป็นเพียงการโยกย้ายสิ่งของไปรอบๆและการโยกย้ายสิ่งเหล่านั้น ก็จะทำให้รัฐบาลสามารถที่จะเก็บภาษีกับธุรกรรมเหล่านั้นได้ นั่นคือทั้งหมดที่กำลังเกิดขึ้นจริงๆ ไม่ได้มีการสร้างมูลค่าใหม่ขึ้นมาเลย เข้าใจนะครับ? นั่นคือประเด็นของผม เมื่อผมพูดถึงสิ่งที่พวกเขากล่าวถึง “อัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ” ผมจะถามว่าเพียงแค่คุณพิมพ์บางอย่างออกมา แล้วคุณจะมีอัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจได้อย่างไร? คุณไม่ได้ทำให้เศรษฐกิจเจริญเติบโตเลย คุณแค่พิมพ์เงินเพิ่มมากขึ้น และประชาชนก็แค่เคลื่อนย้ายสินค้าไปมา ซึ่งอาจจะไม่ได้เป็นอย่างนั้นก็ได้ เพราะจริงๆแล้วมันไม่มีแรงกระตุ้นทางเศรษฐกิจแต่อย่างใด หมายถึงแรงกระตุ้นตามธรรมชาติที่จะทำให้เกิดการเจริญเติบโตนะครับ ถ้าไม่ใช้การชักจูงด้วยเงินปลอมๆเหล่านั้น และผลของการเคลื่อนย้ายสินค้าไปๆมาๆ ก็เพียงแค่สามารถเก็บภาษีได้มากขึ้นเท่านั้น แล้วจะเรียกว่าเป็นการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจได้อย่างไร ในความคิดของผม ผมมองว่าเป็นการตรงกันข้ามกับการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจด้วยซ้ำ เพราะผมมองว่า สิ่งที่เป็นอยู่ตอนนี้คือการสกัดเอาสิ่งมีค่าออกมาจากระบบเศรษฐกิจโดยรวม 

กล่าวโดยสรุป นี่เป็นความเห็นของคนๆหนึ่งเท่านั้น แต่ผมว่ามันเป็นสิ่งที่น่าสังเกต เพราะพวกเขามีการใช้คำเหล่านี้อยู่บ่อยๆเช่น 'มูลค่า' และ 'การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ' หรือ ‘เศรษฐกิจจะโตขึ้นเท่านั้นเท่านี้’ ผมอยากถามว่าภายใต้ฉากทัศน์นี้ เศรษฐกิจมันจะเจริญเติบโตขึ้นจริงๆหรือ?