Integrity Legal - Law Firm in Bangkok | Bangkok Lawyer | Legal Services Thailand Back to
Integrity Legal

Legal Services & Resources 

Up to date legal information pertaining to Thai, American, & International Law.

Contact us: +66 2-266 3698

[email protected]

ResourcesThailand Real Estate & Property LawJurisprudenceผมคิดว่าทักษิณจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับการเมืองไทยแล้วเสียอีก?

ผมคิดว่าทักษิณจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับการเมืองไทยแล้วเสียอีก?

For the English transcript of this video, please go to the following link:

https://legal.co.th/resources/thailand-criminal-law/criminal-jurisprudence-thailand/i-thought-thaksin-wasnt-involved-thai-politics/

ในช่วงประมาณ 1 ปีที่ผ่านมานี้ ผมได้เบนทิศทางการทำงานเข้าไปในเรื่องการเมืองมากกว่าที่ผมคิดอยากจะทำในช่องรับฟังนี้ แต่มันมีประเด็นด้านกฎหมายที่เกี่ยวพันกับการเมืองเกิดขึ้นในประเทศไทย และเมื่อดูภาพรวมแล้ว ผมก็เลยคิดว่านี่เป็นสิ่งที่ควรจะนำมากล่าวถึง ผมจะขอลงในรายละเอียดของบทความที่ทำให้ผมคิดที่จะทำวีดีโอนี้ จากนั้นผมจะวิเคราะห์ต่อนะครับ

ผมคิดที่จะทำวีดีโอเรื่องนี้หลังจากที่ผมได้อ่านบทความจากหนังสือพิมพ์ Bangkok Post, bangkokpost.com, บทความชื่อว่า: Thaksin's Udon Thani vote pitch raises eyebrows การหาเสียงของทักษิณในจังหวัดอุดรธานีทำให้หลายคนถึงกับเลิกคิ้วด้วยความสงสัย ขอยกข้อความโดยตรงจากบทความดังนี้: "อดีตนายกรัฐมนตรี นาย ทักษิณ ชินวัตร อาจจะทำผิดกฎหมายการเลือกตั้งระดับท้องถิ่น" - ซึ่งข้อความนี้ทำให้ผมตัดสินใจที่จะทำวีดีโอเรื่องนี้เนื่องจากว่ามันเกี่ยวกับความถูกต้องตามกฎหมายผการเลือกตั้งในประเทศไทย - บทความกล่าวต่อว่า: "โดยปราศัยกับประชาชนที่อุดรธานี ในขณะที่กำลังหาเสียงให้ผู้ลงสมัครนายก อบจ.จากพรรคเพื่อไทยว่า "ให้เลือกเพื่อทักษิณ" นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตกรรมการการเลือกตั้ง ได้กล่าวว่า การกล่าวข้อความอันเป็นเท็จ หรือข้อความที่อาจทำให้ผู้ฟังเกิดความหลงผิด อันเป็นเหตุให้เกิดความเข้าใจผิดเกี่ยวกับคะแนนนิยมของผู้ลงสมัครรับเลือกตั้ง เป็นการละเมิดต่อ มาตรา 65 หมวด 5 ของพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น นายสมชัย ได้เขียนใน Facebook ส่วนตัวในวันพฤหัสบดีว่า ผู้ฝ่าฝืนอาจจะถูกจำคุก 1-10 ปี และ/หรือถูกปรับ 20,000-200,000 บาท และเสียสิทธิ์ในการเลือกตั้งเป็นเวลา 20 ปี"

ประเด็นที่ผมทำวีดีโอเรื่องนี้ก็คือ เมื่อประมาณ 1 ปีครึ่งที่ผ่านมา เป็นตอนที่ทักษิณกำลังจะกลับมา ทุกอย่างตั้งอยู่บนความเข้าใจที่ว่า จะมีการปรองดองกัน เขาจะเกษียณตัวเอง และจะไม่เข้ามายุ่งเกี่ยวกับการเมือง นั่นคือเหตุผลที่ผมทำเป็นรูปภาพหน้าปก ของวีดีโอเรื่องนี้ ซึ่งผมจะลงรายละเอียดไว้ในคำอธิบายด้านล่าง แต่ thumbnail ที่ใช้นี้มาจากภาพยนตร์เรื่อง Old School ที่ตัวเอกต้องไปเข้าคลาสเพื่อบำบัดปัญหาครอบครัว ตัวเอกก็เป็นคนที่ไม่ค่อยมีโชคเท่าไหร่ ในระหว่างการเข้ารับการบำบัด เขาได้สารภาพออกมาถึงเรื่องที่น่าละอายที่เคยทำ ทุกคนต่างหันมามองเหมือนเขาเป็นตัวประหลาด แต่เขาก็กล่าวขึ้นมาว่า: "แล้วไง? ตอนนี้เราก็อยู่กับพวกที่เชื่อใจกันได้แล้วไม่ใช่เหรอ?" ผมหมายถึงว่า นี่คือสิ่งที่ผมรู้สึก เมื่อผมอ่านบทความเรื่องการเมืองที่เกี่ยวกับทักษิณ และขอพูดอีกครั้งหนึ่งว่า ผมไม่ชอบที่จะพูดเรื่องการเมือง แต่มันก็มีประเด็นทางกฎหมายอยู่ด้วย และตามที่ผมเข้าใจคือ ทักษิณกลับมาแต่จะไม่ยุ่งเกี่ยวกับสิ่งเหล่านี้ เขาจะใช้ชีวิตเป็นผู้เกษียณแล้ว และอย่างที่ทุกคนเข้าใจ เขาเผชิญหน้ากับผลที่เกิดขึ้นตามมาทางกฎหมายในการกลับมาประเทศไทย; เขาไม่ได้ถูกจำคุกจริงๆเลย แต่ใช้เวลาทั้งหมดอยู่ใน “คุกของตำรวจ” ที่จริงก็คือ โรงพยาบาลตำรวจ ตลอดเวลาที่รับโทษตามคำพิพากษา และในที่สุดก็ได้รับการผ่อนผัน และปล่อยตัวออกมา และตามความเข้าใจของผมเขาพ้นโทษแล้ว แต่พอมาถึงตอนนี้ กลับมีการกล่าวหาว่าเขาอาจจะโดนข้อหาละเมิดกฎหมายการเลือกตั้ง

ประเด็นของวีดีโอนี้คือ ผมมีความรู้สึกแนวเดียวกันนี้กับหลายอย่างที่ได้เกิดขึ้นในการเมืองของอเมริกา และผมก็รู้สึกเช่นเดียวกันนี้กับสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในประเทศไทย คือผมเบื่อกับการปั่นหัวผู้คน ผมเบื่อกับเรื่องงี่เง่าเหล่านี้ ผมเบื่อกับการที่ทุกคนแสร้งทำเป็นว่ายังอยู่ในปี 1996 เหมือนกำลังรับบทใน ซีรีส์ เรื่อง Spin City เราพูดความจริงกันเพียงครึ่งเดียว แล้วก็ปล่อยปะละเลยกันไป และหลังจากนั้นเราก็จะพยายามทำในสิ่งที่ต้องการทำ โดยไม่สนใจต่อความถูกต้องตามกฎหมายหรือผลที่จะเกิดขึ้นตามมา ผมไม่ได้กล่าวหาใครเป็นการเฉพาะนะทั้งในประเทศไทยหรือสหรัฐฯก็ตาม แต่พูดถึงปรากฎการณ์โดยรวมที่เกิดขึ้น ซึ่งผมได้เฝ้าดูทั้ง 2 ประเทศมาอย่างจริงจังตลอดระยะเวลา 15 ปีที่ผ่านมาในสหรัฐฯ แต่ในระยะเวลาคร่าวๆราว 15 เดือนที่ผ่านมาในประเทศไทยปรากฎการณ์นี้ก็เกิดขึ้นอย่างรุนแรงด้วยเหมือนกัน เราได้เห็นการพูดอย่างไม่จริงใจในเวทีการถกแถลงสาธารณะเกิดขึ้น มันค่อยๆไหลซึมเข้ามาในประเทศไทย

ผมไม่ได้บอกว่าอะไรคือถูกหรืออะไรคือผิด โดยเฉพาะในแง่ของพรรคการเมืองแต่ละฝ่าย ในความคิดเห็นของผม พรรคการเมืองแต่ละฝ่ายมักจะเสียเวลาและทรัพยากรจำนวนมากไปกับวิธีการต่างๆ โดยเฉพาะในเรื่องที่มีความแหลมคมเผ็ดร้อน แต่ประเด็นสำคัญที่ผมพยายามจะบอกก็คือ ในที่สุดแล้ว เรื่องที่คุยกันมาเมื่อปีครึ่งที่แล้ว เริ่มที่จะเคลื่อนตัวแล้ว หลายอย่างจะเกิดขึ้นอย่างแน่นอน และตอนนี้ดูเหมือนว่ามีผู้เคลื่อนไหวหลายคนในประเทศพูดว่า "อ๋อ เราไม่ได้สนใจกับเรื่องนั้นแล้ว" คุณรู้อะไรไหม? ทุกคนเกิดความเบื่อหน่าย รวมทั้งตัวผมด้วย ผมคิดว่า เราขอแค่ความสุจริต และความซื่อสัตย์ขั้นพื้นฐานในสิ่งต่างๆทั้งหมดที่เกี่ยวกับการเคลื่อนไหวที่ถูกกฎหมายที่จะดำเนินต่อไปทั้งในประเทศไทยและที่สหรัฐฯด้วย