Integrity Legal - Law Firm in Bangkok | Bangkok Lawyer | Legal Services Thailand Back to
Integrity Legal

Legal Services & Resources 

Up to date legal information pertaining to Thai, American, & International Law.

Contact us: +66 2-266 3698

info@integrity-legal.com

ResourcesThailand Real Estate & Property LawJurisprudenceรัฐมนตรีมหาดไทยจะนำประเทศไทย"ที่ไม่เคยหลับ" กลับมาอีกครั้งหนึ่ง หรือไม่?

รัฐมนตรีมหาดไทยจะนำประเทศไทย"ที่ไม่เคยหลับ" กลับมาอีกครั้งหนึ่ง หรือไม่?

For the English transcript of this video, please go to the following link: 

https://legal.co.th/resources/thailand-real-estate-property-law/jurisprudence/interior-minister-bringing-back-thailand-never-sleeps/

วีดีโอเรื่องนี้จะกล่าวถึงการที่จะนำ “ประเทศไทยที่ไม่เคยหลับ" กลับมาอีกครั้ง  และตอนที่ผมคิดหัวข้อเรื่องนี้ผมยังนึกถึง "โอ้ เมืองนิวยอร์ค เมืองที่ไม่เคยหลับ" ผมเองก็ได้ยินหลายคนพูดถึงลาสเวกัสแบบนี้เหมือนกัน และทุกครั้งที่ผมอยู่ที่เวกัส คือผมจะอาศัยอยู่ที่นั่นช่วงสั้นๆ ในช่วงที่ทำงานในคาสิโนและผมจำได้ว่าผู้คนจะเรียก Vegas ว่าเป็นเมืองที่เปิด 24 ชั่วโมง ไม่ได้เรียกว่าเมืองที่ไม่เคยหลับ แต่จะเรียกว่าเมืองที่เปิด 24 ชั่วโมง จริงๆแล้วผมสนุกกับมันมากทีเดียว เพราะเมื่อคุณทำความคุ้นเคยกับวิถีชิวิตกับเมืองที่ตื่นตลอด 24 ชั่วโมงได้เมื่อไหร่ มันก็จะวิเศษเลย เพราะถึงแม้เราจะทำงานในกะที่ 2 แล้วเลิกงานตอน 02:00 น ก็ยังสามารถที่จะไปที่ร้านซักแห้ง เพื่อรับเสื้อผ้าที่ซักไว้ได้ เพราะเมืองนี้ทำงาน 24 ชั่วโมง

ผมคิดจะทำวีดีโอเรื่องนี้หลังจากที่ผมได้อ่านบทความจากหนังสือพิมพ์ Nation, nationthailand.com, หัวข้อเรื่องว่า:Night life in some areas to remain open to 4am from Dec 15 - ชีวิตยามราตรีในบางพื้นที่จะเปิดถึงตี 4 เริ่ม 15 ธันวาคม  ขอยกข้อความจากบทความมาดังนี้: "ระเบียบใหม่ซึ่งจะตรงกับนโยบายของนายกรัฐมนตรี เพื่อกระตุ้นอุตสาหกรรมบันเทิงยามค่ำคืน" ตรงนี้ขอขัดจังหวะนิดหนึ่ง ขอขอบคุณนายกรัฐมนตรีกับการตัดสินใจในสิ่งนี้ มันเป็นเรื่องที่ดีที่เห็นคนในรัฐบาลให้ความสำคัญกับภาคส่วนนี้ของระบบเศรษฐกิจ ซึ่งไม่เพียงแต่เป็นประโยชน์กับประเทศไทยเท่านั้น แต่ยังเป็นประโยชน์ต่ออีกหลายๆคนที่อยู่ในธุรกิจนี้ และผมว่าดีมากที่มีความคิดเห็นในบางระดับที่ผู้คนสังเกตุเห็นถึงภาคเศรษฐกิจนั้น ภาคธุรกิจบันเทิงยามค่ำคืนถูกมองข้ามไปบ่อยๆ ซึ่งผมคิดว่ามันไม่ถูกต้องที่เป็นเช่นนั้น เพราะมันก็เป็นส่วนหนึ่งของระบบเศรษฐกิจเช่นเดียวกับธุรกิจอื่นๆ มันจำเป็นต้องได้รับการควบคุมเหมือนธุรกิจอื่นหรือไม่? แน่นอนล่ะว่า ต้องมีการควบคุม แต่ถึงที่สุดแล้ว ประเทศไทยนั้นเป็นที่รับรู้กันว่าเป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยว ดังนั้นจึงอาจจะเป็นการดีที่จะยอมรับความท้าทายในการทำให้สำเร็จ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม ก็ต้องขอโทษด้วยที่ขัดจังหวะเล็กน้อย ผมจะขอยกข้อความมากล่าวต่อ: "ระเบียบใหม่ซึ่งจะตรงกับนโยบายของนายกรัฐมนตรีที่จะกระตุ้นอุตสาหกรรมบันเทิงยามค่ำคืนและสนับสนุนการท่องเที่ยวนี้จะอยู่ภายใต้การดูแลของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย โดยที่นาย อนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นผู้ลงนามในกฎกระทรวง หลังจากการประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน" กล่าวต่อ: "นายอนุทิน ได้กำกับและชี้แนะให้หน่วยงานที่อยู่ภายใต้กระทรวงให้ประสานงานกับองค์กรส่วนท้องถิ่นและหน่วยงานรักษาความมั่นคงเพื่อให้มั่นใจว่าการขยายระยะเวลาเปิดบริการของสถานบันเทิง สามารถตอบสนองต่อนโยบายการท่องเที่ยวของรัฐบาล และยังคงรักษาไว้ซึ่งความสงบเรียบร้อยของสังคม รวมทั้งความปลอดภัยสาธารณะด้วย นอกจากนี้ ท่านยังได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการป้องกันปัญหาการเมาแล้วขับเพื่อลดความเสี่ยงของการบาดเจ็บหรือเสียชีวิตที่อาจจะเกิดขึ้นได้ทั้งส่วนบุคคลและต่อสังคม"

เอาล่ะ มีบางอย่างที่ผมอยากจะพูดถึง คือมีเพื่อนผมที่เป็นชาวต่างชาติเคยเล่าให้ฟังหลายปีมาแล้วว่าธุรกิจบาร์ หรือ ธุรกิจบันเทิง หรือชีวิตยามราตรี แล้วแต่จะเรียก สิ่งเหล่านี้ ได้รับผลกระทบอย่างมาก และเพื่อนคนนี้ยังจำได้ว่าในอดีตไม่มีกำหนดเวลาปิดให้ถือเป็นแนวทางปฏิบัติที่แน่นอนเลย ช่วงเวลาตั้งแต่ตี 2 ถึงตี 4 เป็นช่วงเวลาที่ทำกำไรอย่างมหาศาลสำหรับผู้ที่อยู่ในธุรกิจบันเทิง นี่คือข้อเท็จจริง อีก 2 ชั่วโมงที่เพิ่มขึ้นมา จะแตกต่างออกไปเลยนะ ผมมั่นใจว่าจะต้องมีใครสักคนพูดว่า "จะขายเบียร์เพิ่มได้ซักกี่แก้วเชียว?" ใครจะไปสนใจ เพราะถ้ามีคนซื้อเบียร์เพิ่มขึ้น ก็จะเป็นสิ่งที่ดีกับประเทศชาติ นั่นไม่ใช่เรื่องดีหรอกหรือ ผมคิดว่าดีนะ ผมคิดว่าเป็นความคิดที่ดี นอกจากนี้ ผมยังเห็นการพูดคุยเรื่องระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออกเพราะที่นั่นจะเป็นแหล่งธุรกิจที่แตกต่างกับธุรกิจตามปกติธรรมดา มีการพูดคุยกันแม้กระทั่งว่าจะทำให้เป็นระบบ 24 ชั่วโมง หรืออย่างน้อยก็มีการกำหนดพื้นที่ให้ทุกอย่างสามารถเปิด 24 ชั่วโมง ก็เป็นได้ คิดว่าไม่ใช่ความคิดที่เลวร้ายเพราะถ้าประเทศไทยเข้าไปอยู่ในสถานการณ์ที่กลายเป็นส่วนหนึ่งของ “เวลาโลก” ประเทศไทยก็จะต้องมีปฏิสัมพันธ์กับเศรษฐกิจโลกตามเวลาที่เป็นจริงขณะนั้นผ่านระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก ผมมองเห็นถึงการที่อาจจะมีบางคนต้องเริ่มทำงานตอนเที่ยงคืนและเลิกงานตอน 08:00 น หรือเวลาในวันทำงานจะเริ่ม - จำได้ว่าในธุรกิจคาสิโนจะเรียกว่า “กะ 8โมง อันเป็นนิรันด์” คือเริ่มทำงานตอน 08:00 น. และเลิกงานตอนตี 4 แต่ดูเหมือนไม่เคยจบตรงเวลาก็เลยเรียกกันว่า "กะ 8 โมง อันเป็นนิรันด์" แล้วเมื่อบุคคลเหล่านั้นซึ่งทำงานอยู่ในภาคเศรษฐกิจ พอเลิกงานแล้ว ทำไมจะหาเบียร์ดื่มหลังเลิกงานสักแก้วไม่ได้ เพียงเพราะว่าเวลาเลิกงานของเขาไม่ตรงกับเวลาที่อนุญาตให้ขายเบียร์อย่างนั้นหรือ

ขอย้ำว่าผมไม่ได้หมายถึงว่าสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่เหมาะสำหรับทุกพื้นที่ในประเทศไทย และถ้าหากคุณต้องการหาข้อมูลลึกๆ ผมแนะนำให้ผู้คนไปอ่านในหนังสือพิมพ์ Nation และอ่านบทความอื่นๆที่อยู่ในอินเทอร์เน็ตก็จะมีข้อมูลเรื่องนี้ เรื่องนี้ไม่ใช่สิ่งที่จะเกิดขึ้นทั่วประเทศนะแต่จะเจาะจงเฉพาะบางเมืองเท่านั้น บางส่วนที่เน้นธุรกิจการท่องเที่ยวที่จะพบกับการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ ขอย้ำอีกครั้งว่า สิ่งนี้ไม่ใช่สูตรสำเร็จที่จะใช้ได้ทั่วไป แต่ผมคิดว่านี่เป็นก้าวเดินที่ดีและเป็นก้าวที่ไปในทิศทางที่ถูกต้อง ซึ่งผมเชื่อว่า จะเป็นการกระตุ้นภาคอุตสาหกรรมการบันเทิงและหวังว่าเรื่องนี้จะช่วยทำให้เศรษฐกิจดีขึ้นต่อไป