Integrity Legal - Law Firm in Bangkok | Bangkok Lawyer | Legal Services Thailand Back to
Integrity Legal

Legal Services & Resources 

Up to date legal information pertaining to Thai, American, & International Law.

Contact us: +66 2-266 3698

[email protected]

ResourcesThailand Real Estate & Property LawJurisprudenceหากประเทศไทยซื้อสินค้ามากขึ้นอาจจะ "เป็นการปูทางไปสู่การคิดพิกัดอัตราศุลกากรแบบต่างตอบแทนที่ลดลง”

หากประเทศไทยซื้อสินค้ามากขึ้นอาจจะ "เป็นการปูทางไปสู่การคิดพิกัดอัตราศุลกากรแบบต่างตอบแทนที่ลดลง”

For the English transcript of this video, please go to the following link:

https://www.legal.co.th/resources/corporate-and-tax-advisory/thailand-tax-law/more-thai-purchasing-could-pave-way-lower-reciprocal-tariffs/

วีดีโอเรื่องนี้จะกล่าวถึงสถานการณ์ของการโต้ตอบกันไปมาเกี่ยวกับการคิดพิกัดอัตราศุลกากรระหว่างประเทศไทยกับสหรัฐฯ ผมคิดจะทำวีดีโอเรื่องนี้หลังจากที่ผมได้อ่านบทความในหนังสือพิมพ์ Bangkok Post, bangkokpost.com, หัวข้อว่า: Thailand may buy more US goods in talks ในการเจรจา ประเทศไทยอาจจะซื้อสินค้าจากสหรัฐฯเพิ่มมากขึ้น ขอยกข้อความโดยตรงจากบทความดังนี้: "ธนาคาร Maybank ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ได้กล่าวว่า มีความเป็นไปได้ที่ประเทศไทยจะนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯมากขึ้นอีก 32.9 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ  เพื่อที่จะลดผลกระทบในทางลบที่เกิดจากนโยบายพิกัดอัตราศุลกากรของประธานาธิบดี Donald Trump โดยการซื้อเครื่องบิน, พลังงาน และ ธัญพืช จากสหรัฐฯ" นายจักร เรืองศิลป์ภิญญา กรรมการผู้จัดการและหัวหน้าฝ่ายวิจัย Maybank (ประเทศไทย) ได้กล่าวว่า คาดว่ารัฐบาลสหรัฐฯจะยังคงไม่เปลี่ยนแปลงการนำเข้าสินค้าจากประเทศไทย แต่ประเทศไทยจำเป็นต้องนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯที่มีมูลค่าเกินกว่า 32.9 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ เพื่อที่จะลดอัตราการขาดดุลลงไป 20% และนำพิกัดอัตราศุลกากรแบบต่างตอบแทนลงไปที่ 10% ของเส้นฐาน  นายจักรกล่าวต่อว่า: "เราคิดว่า รัฐบาลไทยจะสามารถเจรจาต่อรองกับรัฐบาลสหรัฐฯ โดยการให้คำมั่นสัญญาว่าจะซื้อพลังงาน ธัญพืช และเครื่องบินจากสหรัฐฯมากขึ้น ด้วยวิธีนี้จะทำให้การขาดดุลการค้าของสหรัฐฯที่มีต่อไทยลดลงอย่างมีนัยยะสำคัญ และเป็นไปได้ว่า จะเป็นการปูทางไปสู่การคิดพิกัดอัตราศุลกากรแบบต่างตอบแทนที่ต่ำลงอีกด้วยเมื่อดูจากการคำนวณแล้ว"

น่าสนใจทีเดียว ทั้งเรื่อง พลังงาน ธัญพืช และเครื่องบิน; คือผมเองมาจาก Kansas ซึ่งเศรษฐกิจของรัฐ Kansas ไม่ได้หวือหวาอะไรมากแต่มีกึ๋น เรามีทั้งพลังงาน ธัญพืช และเครื่องบิน - วัวด้วย เรามีวัวเยอะมาก มีปศุสัตว์จำนวนมาก–แต่เรามีพลังงาน ธัญพืชและเครื่องบิน นั่นคือ Kansas ครับ เพราะฉะนั้น ถ้าหากประเทศไทยเพิ่มยอดซื้อไปอีก32.9 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ, ผมพนันได้เลยว่ามันจะไปถึงมือชาว Kansas เพราะฉะนั้นก็ต้องขอบคุณ นาย Trump เพราะคุณกำลังช่วยเหลือบ้านเกิดของผม

อย่างไรก็ตาม ถึงที่สุดแล้วผมคิดว่าประเทศไทยก็คงจะได้ข้อตกลงที่ดี ไม่ว่าจะเป็นเรื่องพลังงานหรือธัญพืชหรือเครื่องบิน; ซึ่งเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องการอยู่แล้ว มีอย่างหนึ่งที่ผมอยากที่จะชี้ให้เห็นคือ มันเป็นเพียงการสังเกตุการณ์อย่างไม่เป็นทางการจากผู้สังเกตุการณ์ที่อยู่ที่นี่ เครื่องบินเล็กก็น่าสนใจนะครับ ไม่จำเป็นเลยที่จะต้องเป็นเครื่องบินแบบเดิมๆคือโบว์อิ้ง 747 เป็นต้น ยังมีอย่างอื่นที่หาได้ในเมือง Wichita เรามีทั้ง Cessna และ Lear Jet ด้วยครับ ไม่ใช่แค่ Boeing หรือ Spirit หรือชื่ออะไรก็ตาม ผมคิดว่าตอนนี้กลับไปใช้ชื่อ Boeing อีกแล้วครับ ไม่ว่าในกรณีใดก็ตาม ใน Kansas ก็จะมีพลังงานและธัญพืชอยู่เสมอ ผมว่าถึงแม้จะหลังฤดูหนาวนิวเคลียร์ที่เกิดขึ้น  Kansas ก็ยังคงมีธัญพืชอยู่ดี Kansas มีธัญพืชอยู่เสมอครับ

ประเด็นที่ผมกำลังจะพูดคือ สิ่งนี้อาจจะมีประโยชน์มากกับสหรัฐฯ และผมคิดว่าจะมีประโยชน์สำหรับประเทศไทยด้วยในหลายๆด้าน สรุปแล้ว ตามที่ผมเคยพูดไว้ในวีดีโอม้วนอื่นคือ หนทางที่ดีที่สุดสำหรับความสัมพันธ์ในอนาคตระหว่างไทยกับสหรัฐฯ ในความเห็นของผม คือการบรรลุถึง ข้อตกลงร่วมกันที่เกิดประโยชน์ทั้งสองฝ่าย ข้อตกลงที่ทั้งฝ่ายอเมริกันและฝ่ายไทยสามารถรับได้ และผมมั่นใจว่าเป้าหมายสูงสุดของนาย Trump-ผมมองว่าเป็นเป้าหมายหลักในสถานการณ์แบบนี้–คือการหาข้อตกลงให้ได้สักอย่าง ก็อย่างว่าแหละครับ สำหรับเรื่องนี้ก็คงต้องรอดูกันต่อไป แล้วทางเราจะคอยให้ข้อมูลในช่องรับฟังนี้เมื่อสถานการณ์มีการเปลี่ยนแปลง