For the English transcript of this video please go to the following link:

https://www.legal.co.th/resources/thailand-real-estate-property-law/jurisprudence/thai-courts-terminate-cannabis-cases/

วีดีโอเรื่องนี้จะกล่าวถึงการที่ศาลไทยจะจำหน่ายคดีที่เกี่ยวกับกัญชา ผมสนใจเรื่องนี้ขึ้นมาตอนที่ได้อ่านบทความใน ASEAN NOW,จาก aseannow.com ในหัวข้อ: หลังจากมีกฎหมายใหม่แล้ว ศาลจะยุติการดำเนินการในคดีส่วนใหญ่ที่เกี่ยวกับกัญชา ขอเน้นคำว่า “คดีส่วนใหญ่ที่เกี่ยวกับกัญชา” ไม่ใช่คดีทั้งหมด แต่ถึงกระนั้นก็ตามทุกอย่างก็ดูจะเดินไปในทิศทางที่เป็นบวก จะว่าไปแล้ว ความเป็นไปได้ที่จะทำให้กัญชาเป็นเรื่องที่ถูกต้องตามกฎหมายนั้นยังมีอีกหลายแง่มุมที่ต้องพิจารณา มีอีกหลายแง่มุมที่ยังถือว่าผิดกฎหมาย และ ณ ปัจจุบัน กฎหมายนี้ยังค่อนข้างที่จะลื่นไหลอยู่พอสมควร ผมจึงขอเตือนชาวต่างชาติเป็นพิเศษให้หลีกเลี่ยงการทำอะไรที่เป็นการเสี่ยงในประเด็นนี้เพราะคุณอาจจะตกอยู่ในปัญหาที่ใครก็ไม่สามารถช่วยเหลือคุณได้

อย่างไรก็ตาม มีข้อความจาก: BANGKOK (NNT) ที่จะขอยกมาคือ: "ในทันทีที่กฎหมายกัญชาฉบับใหม่มีผลบังคับใช้ในวันที่ 9 มิถุนายน 2565สำนักงานตุลาการ จะยกเลิกการไต่สวนคดีส่วนใหญ่ที่เกี่ยวข้องกัญชาที่ยังค้างอยู่ รวมทั้งการควบคุมตัวผู้ต้องหา" ฉะนั้น ขอให้จำวันที่นี้ไว้ให้ดี  9 มิถุนายน2565 จะเป็นจุดเริ่มต้นการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ ข่าวยังกล่าวต่อไปอีกว่า: "โฆษกประจำสำนักงานตุลาการนาย สรวิชญ์ ลิ้มพลังศรี ได้อภิปรายเมื่อเร็วๆนี้ว่า คดีความผิดเกี่ยวกับกัญชาที่มาถึงศาลและมีการควบคุมตัวผู้ต้องหาที่เกิดขึ้นก่อนวันที่ 9 มิถุนายน จะตกไป รวมทั้งส่งคืนเงินประกันตัว สำหรับผู้ที่ถูกกักขังในระหว่างการไต่สวนคดีและไม่สามารถจ่ายค่าปรับได้ ก็จะได้รับการปล่อยตัวเช่นกัน"

สิ่งที่น่าสนใจที่กำลังเกิดขึ้นก็คือ เรากำลังเห็นถึงแรงผลักดันหลายๆอย่างในเรื่องนี้ ดูเหมือนว่าการที่จะทำให้กัญชาเป็นสิ่งที่ไม่ผิดกฎหมายกำลังจะเกิดขึ้นจริงๆ นั่นเป็นการบอกว่านี่ยังไม่ใช่ส่วนสำคัญที่สุดของเรื่องนี้ เหมือนกับที่ผมได้กล่าวไว้ในวีดีโอม้วนอื่นที่ได้ทำก่อนหน้านี้ไม่นานในสถานการณ์ของผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งในความเห็นของผมเห็นว่าไม่ควรที่จะต้องติดตาราง 1 คืนเนื่องจากมีการปลูกต้นกัญชา 1 ต้น ดังนั้นทุกอย่างในเรื่องกัญชานี้ยังไม่แน่นอน จึงขอย้ำอีกครั้งหนึ่งโดยเฉพาะชาวต่างชาติ ขอให้ใช้ความระมัดระวังอย่างยิ่งในประเด็นนี้เพราะขณะนี้ยังไม่มีอะไรที่ชัดเจนหรือคงที่ หลายอย่างกำลังเคลื่อนไปในทิศทางเฉพาะอันหนึ่ง แต่เราก็ยังไม่ถึงจุดที่เรียกว่าดุลยภาพ ที่จะเข้าใจได้ว่า เรากำลังยืนอยู่ที่จุดใดของเรื่องนี้