For the English transcript of this video

https://www.legal.co.th/resources/thailand-real-estate-property-law/jurisprudence/thai-government-may-shift-digital-wallet-stimulus-other-projects/

วีดีโอเรื่องนี้จะพูดถึงสิ่งที่เรียกกันวา โครงการ Digital Wallet ซึ่งมีการพูดกันว่าอาจจะเริ่มมีการแจกจ่ายในช่วงไม่กี่สัปดาห์หรืออีกไม่กี่เดือนนี้ ผมเคยพูดถึงเรื่องนี้ไว้อย่างยืดยาวในวิดีโอม้วนก่อนหน้านี้  เพราะผมมีความกังวลในเรื่องนี้จริงๆ  โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คำว่า digital wallet token นี่ ผมไม่เข้าใจเลยว่ามันคืออะไร? มันจะเป็น “เงิน” ไปได้ยังไง? ทำไมประเทศชาติถึงถูกผลักดันไปสู่การเป็นหนี้ที่มากมายเกินปกติเพื่อที่จะสร้างสิ่งที่เรียกกันว่า  digital wallet tokens ขึ้นมา? ยิ่งไปกว่านั้น ขออ้างถึงผู้เขียนใน Bangkok Post รายหนึ่งเรียกมันว่า “เงินเสมือนจริง” ด้วยซ้ำ มันไม่ใช่ “เงิน” ที่เราทุกคนคุ้นเคย ผมไม่ได้จะเจาะลงไปลึกถึงคำจำกัดความของคำว่าเงิน; ตามที่เคยคุยในวีดีโอเรื่องอื่น บริษัท J.P. Morgan เคยกล่าวว่า: "ทองคือเงิน ที่เหลือทั้งหมดคือ สินเชื่อธนาคาร" ถ้าอย่างนั้นก็ขอพูดว่า เราเคยชินกับการใช้เงินสดมาเป็นเวลา 100-120 ปีทั้งในประเทศทางตะวันตกและทางตะวันออกในบริบทที่เกี่ยวกับการพาณิชย์ พอมาถึงตอนนี้ รัฐบาลต้องการสร้างเงินดิจิตอลขึ้นมา แต่มันเป็น “เงินเสมือนจริง” นอกจากนั้นยังมีหลักการของ Gresham's Law เข้ามาเสริมอีกด้วยว่า "เงินไม่ดีจะผลักดันเงินดีออกไป" นั่นคือสิ่งที่ทำให้ผมกังวลมาก กล่าวได้ว่า เราได้เขย่ารัฐบาล ตามที่เราเคยพูดไว้ในวีดีโอก่อนหน้านี้ในช่องรับฟังนี้ ซึ่งดูเหมือนว่าจะเกิดผลกระทบบางอย่างต่อโครงการในอนาคตของรัฐบาลรวมถึงโครงการ Digital Wallet ด้วย

ผมคิดจะทำวีดีโอเรื่องนี้หลังจากที่ผมได้อ่านบทความในหนังสือพิมพ์ Bangkok Post, bangkokpost.com, หัวข้อเรื่องว่า: Analysts shrug off Court dismissal นักวิเคราะห์เมินเฉยต่อการยกฟ้องของศาลขอยกข้อความโดยตรงจากบทความดังนี้: “นายถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย ผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายอาวุโสด้านงานวิจัยที่บริษัท Krung Thai Xsprings Securities ได้พูด "ความประหลาดใจเชิงลบว่า  นักลงทุนอาจจะเลือกที่จะเฝ้าคอยก่อนท่ามกลางความเสี่ยงด้านกฎระเบียบ" ขออธิบายเพิ่มเติมว่าการยกฟ้องของศาลนั้น เป็นการพูดถึงการปลดนายกรัฐมนตรีเศรษฐา โดยศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งผมได้พูดไว้แล้วในวีดีโอม้วนอื่น กล่าวต่อ: “รัฐบาลซึ่งนำโดยพรรคเพื่อไทยชุดต่อไปอาจจะเปลี่ยนการกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยโครงการ Digital Wallet ไปใช้กับโครงการอื่นที่อาจจะส่งผลในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้กว้างขวางกว่าก็ได้"  นายถนอมศักดิ์กล่ ผมต้องบอกตรงๆว่าผมไม่มีปัญหากับการเปลี่ยนแปลงที่ว่านั้นเลย ซึ่ง ส่วนตัวผมผมไม่ได้เป็นคนฝักใฝ่ระบบ  Keynesian, ผมไม่มีความเชื่อมั่นในการแทรกแซงเศรษฐกิจการตลาดโดยรัฐบาลมากนัก และพูดตรงๆ ดูเหมือนจะเป็นความโน้มเอียงตามธรรมชาติของรัฐบาลไทยที่จะไม่เข้าไปยุ่งเหยิงในตลาดอยู่แล้ว ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้ผมรักประเทศไทยมาก และเป็นหนึ่งในเหตุผลที่ผมชอบที่จะพำนักอาศัยอยู่ที่นี่ ผมเข้าใจว่าตอนนี้มีโครงการใหญ่ๆที่รัฐบาลจะต้องเข้าไปเกี่ยวข้อง; เช่นในการร่วมลงทุนระหว่างรัฐภาครัฐกับภาคเอกชนซึ่งต้องใช้ความพยายามอย่างมาก แต่ถ้าพูดถึงในแง่เศรษฐกิจการตลาดแล้ว รัฐบาลก็จะปล่อยให้ทำไปแล้วคอยดูอยู่ห่างๆ

ว่าแต่ว่า การที่จะออกเช็คแจกผู้คนเพื่อใช้เป็นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจนั้นก็เป็นอย่างหนึ่ง แต่การที่จะสร้างระบบควบคุมติดตามอย่างใกล้ชิดต่อผู้คนนั้นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง คือการทำธุรกรรมทางการเงินของทุกคนโดยการใช้สิ่งที่เรียกว่า digital wallet token ไม่ว่าจะมากจะน้อยแค่ไหน ก็จะถูกติดตามตรวจสอบ แล้วยิ่งไปกว่านั้น ซึ่งผมเคยพูดไว้ในวีดีโอก่อนหน้านี้ ผมมอง digital wallet token ในแง่มุมของ Gresham's law ว่า จะเป็นสิ่งที่คล้ายคลึงกับปลาหมอคางดำ ที่ถูกปล่อยให้รุกรานเข้ามาในระบบนิเวศของไทยโดยไม่ตั้งใจ ซึ่งตอนนี้มันได้ก่อหายนะแก่ปริมาณสัตว์น้ำที่มีอยู่ในประเทศ ซึ่งถ้ากล่าวอีกครั้งหนึ่งตาม Gresham's Law ผมเห็นว่า digital wallet token เหล่านี้เป็น “เงินเลว” เมื่อเปรียบเทียบกับเงินจริง หรือระบบเงินสดที่เราคุ้นเคยมาถึงปัจจุบัน และเป็นความคิดของผมว่าเงินเลวเหล่านั้นจะขับไล่เงินดีออกไป แล้วจะทำให้ระบบเศรษฐกิจเกิดวิปริต ฉะนั้น ด้วยเหตุผลที่กล่าวมานี้ ผมหวังว่าการเขย่ารัฐบาลครั้งนี้ จะทำให้รัฐบาลชุดที่เข้ามาใหม่ หันมาทบทวนโครงการ digital wallet อีกครั้งหนึ่ง อย่างน้อยที่สุดก็หาโครงการใหม่ที่จะไม่มีผลกระทบในทางลบที่รุนแรงต่อประเทศไทยโดยรวม