For the English transcript of this video please go to the following link: 

https://www.legal.co.th/resources/thailand-criminal-law/criminal-jurisprudence-thailand/so-vaping-legal-thailand/

วีดีโอเรื่องนี้จะกล่าวถึงการสูบบุหรี่ไฟฟ้า ซึ่งผมขอพูดให้ชัดเจนว่าหมายถึงสิ่งที่เรียกว่า e-cigarettes มันคือบุหรี่ที่ไม่มีควัน [ไม่มีควันบุหรี่ที่เกิดจากการเผ่าไหม้ยาเส้น] มีลักษณะคล้าย thumb driveอันเล็กๆ และพอดูดก็จะมีไอออกมาซึ่งผมเข้าใจว่าบางคนใช้บุหรี่แบบนี้เพราะมีความเชื่อว่าปลอดภัยกว่าหรือดีกับสุขภาพมากกว่า ผมเองก็ไม่มีความรู้ในเรื่องนี้เหมือนกัน แต่มันก็เป็นประเด็นที่ใหญ่พอสมควรในประเทศไทยเพราะในประเทศไทยถือว่าเป็นสิ่งผิดกฎหมาย ในประเทศไทยจะมีโรงงานยาสูบซึ่งมีเอกสิทธิ์รายเดียวและมีกฎข้อบังคับเกี่ยวกับยาสูบซึ่งส่งผลให้การใช้บุหรี่ไฟฟ้าเป็นสิ่งผิดกฎหมาย และนั่นทำให้ผู้คนเกิดความสับสน อันเป็นเหตุผลให้ผมทำวีดีโอนี้

ผมคิดจะทำวีดีโอเรื่องนี้หลังจากที่ผมได้อ่านบทความในหนังสือพิมพ์ Bangkok Post, bangkokpost.com, หัวข้อว่า: Elite card in the hot seat over scandal (Elite card เกิดปัญหาเนื่องจากข่าวอื้อฉาว) บทความนี้น่าสนใจมากและมีข้อมูลมากมาย แต่มีเรื่องสั้นๆที่ดูเหมือนจะไม่เกี่ยวข้องกับส่วนที่เหลือของบทความแทรกอยู่ตรงกลาง ผมจึงตัดตอนเอามาทำวีดีโอ ผมขอแนะนำให้ผู้ที่กำลังชมวีดีโอเรื่องนี้กลับไปอ่านบทความนี้ ซึ่งส่วนที่ผมตัดออกมานี้ไม่ใช่สาระสำคัญของบทความทั้งหมด ขอยกข้อความมาโดยตรงดังนี้: "นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีกระทรวงการท่องเที่ยวและการกีฬาในประเทศไทย ได้กล่าวว่า ในกรณีที่นักท่องเที่ยวใช้บุหรี่ไฟฟ้าซึ่งในประเทศไทยถือว่าเป็นสิ่งผิดกฎหมายนั้น ตำรวจไม่มีอำนาจที่จะปรับนักท่องเที่ยวได้โดยตรง ทำได้เพียงยื่นฟ้องต่อศาลเท่านั้น บทความนี้อ้างอิงถึงข้อกล่าวหาที่เกิดขึ้นต่อนักแสดงสาวชาวไต้หวันชื่อ Charlene An, ซึ่งได้อ้างว่าตำรวจที่ด่านตรวจในกรุงเทพฯได้ขู่เข็ญรีดไถเงินจากเธอ เมื่อพบว่าเธอพกบุหรี่ไฟฟ้า ตอนแรกตำรวจได้ปฏิเสธคำกล่าวหาแต่ภายหลังได้กลับคำพูด" ผมจะไม่ลงไปในรายละเอียดของเรื่องนี้ แต่เห็นว่ามันน่าสนใจอย่างมากทีเดียว และผมขอย้ำอีกครั้งหนึ่งว่า: "ในกรณีที่นักท่องเที่ยวใช้บุหรี่ไฟฟ้าซึ่งในประเทศไทยถือว่าเป็นสิ่งผิดกฎหมายนั้น ตำรวจไม่มีอำนาจที่จะปรับนักท่องเที่ยวได้โดยตรง ทำได้เพียงยื่นฟ้องต่อศาลเท่านั้น  

มีอยู่ 2-3 ประเด็นที่อยากจะพูดคือ ที่ผ่านมาเราจะเห็นได้ว่าท่านรัฐมนตรีได้พูดถึงบางประเด็นที่อยู่นอกขอบเขตของตนและบางครั้งจะกล่าวบางอย่างที่อาจจะตรงหรือไม่ตรงกับข้อบังคับหรือกฎหมายที่มีอยู่ในขณะนั้นอย่างถูกต้อง 100% ก็ให้ระลึกข้อนี้เอาไว้ด้วยก็แล้วกัน อย่างที่บอกแล้วว่า อันนี้เป็นข้อมูลเชิงลึกที่น่าสนใจในประเด็นที่ว่า สิ่งเหล่านี้ถือว่าเป็นสิ่งผิดกฎหมายในประเทศไทย ผมคิดว่าท่านรัฐมนตรีการท่องเที่ยวและการกีฬาพยายามที่จะสื่อสารกับเราว่า: "ท่านนักท่องเที่ยวทั้งหลาย ไม่ต้องกังวลเรื่องบุหรี่ไฟฟ้ามากนักเพราะตำรวจไม่ได้จ้องที่จะตะครุบตัวผู้ที่ใช้ หรือสงสัยว่าจะใช้อุปกรณ์ประเภทนี้แล้วยัดเข้าห้องขังเสียเมื่อไหร่ ไม่ใช่เลย มันไม่ได้เป็นอย่างนั้น มันมีประเด็นเรื่องข้อกฎหมายอยู่ด้วยก็จริง แต่กฎหมายที่มีอยู่ในปัจจุบัน บุหรี่ไฟฟ้าหรือผลิตภัณฑ์เหล่านี้เป็นสิ่งผิดกฎหมาย แต่ขอย้ำอีกครั้งว่า ตำรวจไม่มีอำนาจที่จะปรับนักท่องเที่ยวได้โดยตรง ทำได้เพียงยื่นฟ้องต่อศาลเท่านั้น ซึ่งเป็นมุมมองที่น่าสนใจและบทความนี้มาจาก Bangkok Post, bangkokpost.com

ขอสรุปว่า บุหรี่ไฟฟ้าเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมายในประเทศไทย เพราะฉะนั้นถ้าหากคิดจะเดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทยแล้วล่ะก้อ น่าจะไม่ใช่ความคิดที่ดีเลยในการที่จะนำบุหรี่ไฟฟ้าติดมาด้วย เพราะอย่างน้อยอาจจะถูกริบโดยศุลกากร ดังนั้นเมื่อเข้ามาในประเทศไทยแล้ว ผมคิดว่าน่าจะเป็นความคิดที่ดีกว่าที่จะเลือกวิธีอื่นในการหาความสุข ไม่ว่าคุณจะชอบการสูบบุหรี่ไฟฟ้ามาก่อนหรือไม่ก็ตาม เพราะอุปกรณ์เหล่านี้ผิดกฎหมายในประเทศไทย แต่ถ้าจะถามว่าตำรวจจะวิ่งไปวิ่งมาเพื่อจับคนที่ใช้บุหรี่ไฟฟ้าแล้วส่งเข้าตะรางหรือไม่? ต้องตอบว่า มันไม่ได้เกิดขึ้นง่ายๆแบบนั้น