For the English transcript of this video, please go to the following link:

https://www.legal.co.th/resources/thailand-real-estate-property-law/jurisprudence/why-thaksin-appointing-anyone/

ผมยังอยู่ในช่วงทำวีดีโอแบบง่ายๆไม่มีพิธีรีตรองอะไร ต้องขออภัยด้วยครับ ผมกำลังแก้ไขระบบแสงและเสียงของวิดิโอ กำลังหาเครื่อมือชุดใหม่มาใช้ ฉะนั้นต้องขอให้ทุกคนอดทนไปกับผมด้วย ซึ่งผมจะขอบคุณมากเลย วีดีโอเรื่องนี้คงไม่ยาวนัก

จากหัวข้อของเรื่องนี้ ดูเหมือนจะไม่ยำเกรงกันเลย แต่จริงๆแล้ว เมื่อผมเริ่มอ่านบทความนี้ ปฏิกริยาแรกของผมก็คือรู้สึกสับสน และหลังจากนั้นจะว่าโกรธก็ไม่น่าใช่ แต่อาจจะเป็นการตกอกตกใจมากกว่า ซึ่งเดี๋ยวผมจะเล่าต่อไป และจากนั้นความคิดของผมก็ถึงที่สุดโดยคิดว่า: 'ว้าว มันช่างไร้สาระและไม่เป็นเหตุเป็นผลเอาเสียเลย’ ผมจึงตั้งหัวข้อเช่นนี้เพื่อที่จะใช้อ้างอิงต่อไป ความจริงผมไม่ได้ตั้งใจจะทำเป็นแง่ลบนะ แต่หัวข้อนี้ผมได้มาจากหนังเรื่อง Anchorman ซึ่งตัวละครชื่อ Champ Kind พูดเกินความจริงไปหน่อย คือเกิดการไม่พอใจและเครียดและมีตัวละครอีกคนหนึ่งคือ Brian Fantana พูดขึ้นมาว่า: "ทำไมไม่ใจเย็นๆหน่อยล่ะ ลองหยุดพูดสักพักหนึ่งสิ" ผมว่าเป็นข้อความสั้นๆที่ตลก แต่ก็ครอบคลุมถึงความรู้สึกทั้งหมดของผมที่มีต่อเรื่องนี้ กลับมาพูดถึงเรื่องคุณทักษิณ เราได้เปลี่ยนบางอย่างที่เรามุ่งมั่นจะทำสำหรับช่องรับฟังนี้ ไปสู่ประเด็นเรื่องการเมือง นั่นก็เพราะว่า การเมืองจะมีผลต่อกฎหมายโดยตรง คุณอาจจะได้รับผลกระทบจากการกระทำกิจกรรมของชาวต่างชาติในประเทศไทยก็ได้ คือว่า มันอาจจะมีผลกระทบต่ออนาคตของประเทศไทยโดยรวม ซึ่งตอนนี้มันก็เริ่มกลายเป็นประเด็นสำคัญสำหรับผมแล้ว สำหรับคนที่ยังไม่ทราบ ผมได้โอนสัญชาติเป็นคนไทยเมื่อ 6 ปีครึ่งมาแล้ว และผมก็มีศรัทธาแรงกล้าในการแปลงสัญชาติ ทั้งนี้ก็เพราะผมรักประเทศไทยจริงๆ และผมไม่อยากให้สิ่งเลวร้ายเกิดขึ้นกับประเทศไทย ถ้าถามผมว่าตอนนี้มีใครบ้างไหมที่มีการกระทำโดยไม่สุจริต ราวกับว่าเขาต้องการให้มีสิ่งที่เลวร้ายสำหรับประเทศไทย? คำตอบคือ ไม่ ถึงแม้ว่าผู้คนจะทำแต่สิ่งที่ดี แต่ในความคิดของผม บางทีมันอาจจะเกิดความไม่สบายใจและวิตกกังวลมากไปหน่อย และนั่นอาจจะทำให้บางอย่างไม่เป็นผลประโยชน์ที่ดีสำหรับทุกคน 

อย่างไรก็ตาม ผมคิดจะทำวีดีโอเรื่องนี้หลังจากที่ผมได้อ่านบทความจาก the Nation, nationthailand.com, หัวข้อเรื่องว่า: Thaksin appoints trusted aide to shield daughter from armed forces. ทักษิณแต่งตั้งผู้ช่วยที่ไว้วางใจได้เพื่อเป็นเกราะคุ้มกันลูกสาวจากกองทัพ ในการทำวีดีโอส่วนมากของเรา ผมจะยกข้อความขึ้นหน้าจอ แต่ตอนนี้ผมไม่สามารถทำได้แล้ว บอกตรงๆผมไม่ได้เก่งเรื่องเทคนิคเท่าไหร่โดยเฉพาะในแง่ของ YouTube ซึ่งปกติผมจะมี producer ที่คอยช่วยผมในการทำวีดีโอเหล่านี้ให้ออกมาดูดีที่สุดเท่าที่จะสามารถทำได้  แต่เดี๋ยวผมจะทิ้งลิงค์ไว้ให้ข้างใต้นี้ เพื่อที่จะได้เข้าไปอ่านบทความจาก Nation รวมทั้งลิงค์จากภาพยนตร์เรื่อง Anchorman ด้วย เพื่อที่จะได้เข้าใจหัวข้อนี้มากขึ้น

แต่ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม บทความนี้มีชื่อว่า: Thaksin appoints trusted aide to shield daughter from armed forces. ทักษิณแต่งตั้งผู้ช่วยที่ไว้วางใจได้เพื่อเป็นเกราะคุ้มกันลูกสาวจากกองทัพ ขอยกข้อความโดยตรงจากบทความดังนี้: "นายภูมิธรรม เวชยชัย ได้รับมอบหมายภารกิจให้ปกป้องรัฐบาลของ น.ส. แพทองธาร เพื่อไม่ให้เจอโชคชะตาเดียวกับการบริหารงานโดยครอบครัวชินวัตรก่อนนี้ นายทักษิณ ชินวัตร ผู้ก่อตั้งพรรคเพื่อไทย ได้มอบหมายพันธมิตรเก่าแก่เช่น นายภูมิธรรม เวชชยชัย ให้รับบทบาทเทวดาผู้พิทักษ์ให้กับนายกรัฐมนตรี แพทองธาร ชินวัตร ลูกสาวของเขา" ผมชอบคำว่า "เทวดาผู้พิทักษ์", ใช้คำว่า “เทวดาผู้พิทักษ์”

ก็ได้, ก่อนอื่นขอกลับไปที่หัวข้อที่ว่า "ทักษิณ แต่งตั้ง" ทักษิณไม่ได้เป็นนายกรัฐมนตรีนะครับ ผมคิดว่าเหตุผลเดียวที่ทักษิณกลับมาประเทศไทยก็เพื่อที่จะวางมือจากทุกอย่าง แล้วทุกฝ่ายจะได้มีการประนีประนอมกันและเดินหน้าต่อไป ปัญหามากมายหลายอย่างที่เกิดในอดีตก็เกิดจากการที่นายทักษิณเป็นนายกรัฐมนตรี ขอย้ำว่า ผมไม่ได้ทำเรื่องนี้โดยตั้งประเด็นว่า 'คุณอยู่ฝ่ายไหน อยู่ฝ่ายนี้ หรือฝ่ายโน้น หรืออีกอย่างหนึ่งเลย' ผมมองเรื่องทั้งหมดนี้ว่าเป็นเรื่องในอดีต แต่ผมเข้าใจว่า นายทักษิณกลับมาเพื่อที่จะวางมือเป็นหลัก จากนั้นก็จะเริ่มการปรองดองกัน แต่พอถึงตอนนี้ สื่อต่างๆ พาดหัวข่าวเลยว่า "ทักษิณแต่งตั้ง"! ทักษิณไม่ได้เป็นนายกรัฐมนตรี ลูกสาวเป็นนายกรัฐมนตรี เขาไม่ได้เป็น แล้วทำไมสื่อจึงรายงานข่าวแบบนี้? สำหรับผมแล้วมันไม่มีเหตุผลเอาเสียเลย ผมว่ามันน่าขันเสียด้วยซ้ำถ้าคุณเข้าใจถึงกรอบความคิดหรือบริบทของอะไรก็ตาม แนวความคิดที่ว่าเธอต้องการ "เทวดาผู้พิทักษ์" ซึ่งคุณต้องเข้าใจเรื่องการจัดตั้งรัฐบาลอย่างมีประสิทธิภาพในประเทศไทย หรือจะเรียกว่า “ระบบ” ก็ว่าได้ เป็นการนำทักษิณกลับมา เขาได้รับอนุญาตให้กลับมา ไม่เพียงแต่เท่านั้น ยังมีข้อตกลงที่จะจัดการกับคดีความทางอาญาของเขาที่ค้างคาอยู่ด้วยวิธีการที่เขาไม่ต้องติดคุกเลยแม้แต่วันเดียว เขาถูกส่งตัวไปเข้าโรงพยาบาล ซึ่งผมเรียกว่าเป็นการได้รับการประคบประหงมอย่างดีมากก็คงไม่ผิด ถ้าจะพูดเชิงเปรียบเทียบ ผมคิดว่าก็คงเหมือนกับได้นั่งบนเบาะนุ่มๆกลับสู่ประเทศไทย แล้วได้รับอนุญาตให้ผ่านขั้นตอนทางกฎหมายทั้งหมดไปอย่างสะดวกสบาย ผมคิดว่าคงมีหลายคน โดยเฉพาะผู้คนที่ต้องคำพิพากษาว่ามีความผิดจากเหตุการณ์ในอดีต ในกรณีของการเข้าร่วมกิจกรรมกับกลุ่มเสื้อแดงหรืออย่างอื่น คงมองวิธีการที่ทักษิณได้รับการปฏิบัติในกระบวนการของการกลับมาประเทศไทย – โดยเฉพาะในเรื่องที่เกี่ยวกับกระบวนการยุติธรรมทางอาญา – คงมองอย่างขุ่นเคือง แล้วคงคิดในใจว่า: "เดี๋ยวก่อนนะ นี่คือวิธีการที่ทุกคนจะผ่านระบบนี้จริงๆหรือ?" ผมว่านี่เป็นคำถามที่ดีทีจะต้องถาม และในใจผมคิดว่า บางทีนี่น่าจะเป็นการพูดเกินความจริงไปหน่อยในประเด็นที่ว่าต้องการมี "เทวดาผู้พิทักษ์" มันมีความจำเป็นที่จะต้องมีด้วยหรือ? ปีที่แล้วผมไม่เห็นมีความต้องการเทวดาผู้พิทักษ์เลย อย่างไรก็ตาม บทความกล่าวต่อว่า: "ประสบการณ์ของนายภูมิธรรม ในฐานะที่เป็นนักยุทธศาสตร์ด้านการเมืองและการทหาร ย้อนไปในยุคปี 1970 นี่แหละคือประเด็นที่ผมเป็นกังวลอยู่มาก "ตอนที่นายภูมิธรรมได้ร่วมกับพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทยโดยเป็นที่รู้จักกันในนาม "สหายใหญ่" พรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย ผมเลยนึกถึงหนังเรื่อง Other People's Money ที่ Danny DeVito กล่าวว่า: "รู้ใช่ไหมว่าอะไรจะเกิดขึ้นถ้าหากระบบทุนนิยมมันเกิดเละเทะขึ้นมา? พวกคอมมิวนิสต์จะกลับมา; จะออกมาจากพุ่มไม้; เขาหลบกันอยู่ในนั้น" ผมขอย้ำเลยนะ ค่านิยมแบบคอมมิวนิสต์เป็นสิ่งที่เป็นอันตรายถึงขีดสุด ผมไม่ต้องการที่จะลงลึกในรายละเอียดของเรื่องนี้ในวิดีโอสั้นๆม้วนนี้ แต่ขอย้ำว่ามันเป็นอันตรายอย่างถึงขีดสุดเลยล่ะ และผมมีคำถามว่านี่เป็นผลประโยชน์ที่ดีที่สุดสำหรับประเทศไทยหรือในการที่จะมีรัฐมนตรีกลาโหมที่เคยสาบานตัวว่าเป็นคอมมิวนิสต์มาก่อน คือทุกคนรู้ว่าบุคคลผู้นี้เป็นคอมมิวนิสต์ เป็นที่รู้กันว่าเขาเป็น “สหาย” เต็มตามความหมาย ซึ่งหนังสือพิมพ์เนชั่นเรียกเขาเลยว่า "สหายใหญ่" ผู้เป็นสมาชิกของพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทยด้วย พวกเราในฐานะที่เป็นประชาชนคนไทยต้องการสิ่งนี้จริงๆหรือ? บุคคลแบบนี้คือคนที่เราต้องการให้มาควบคุมกำกับดูแลกระทรวงกลาโหมของไทยจริงๆหรือ? 

นอกจากนี้ และตรงนี้เริ่มที่จะสับสนมากขึ้น นี่คือเหตุผลว่าทำไมผมถึงอยากให้นายทักษิณดูคนอื่นๆในประเทศนี้เป็นตัวอย่างในการเริ่มชีวิตเกษียณ คุณอาจจะเฝ้าสังเกตุการณ์อยู่ห่างๆแล้วให้ความคิดเห็นเป็นครั้งเป็นคราว แต่การที่เขาเข้ามามีปฏิสัมพันธ์โดยตรง ซึ่งตามความเข้าใจของผมคือ มันจะต้องไม่เป็นแบบนั้น แล้วยังแถมมีเรื่องการ "แต่งตั้ง" เข้าไปอีก เหตุผลที่ผมใส่เครื่องหมายคำพูด เพราะผมว่ามันค่อนข้างจะไม่เป็นเหตุเป็นผลเอาเสียเลย เพราะเขาไม่มีตำแหน่งอะไรเลย แถมยังแต่งตั้งคอมมิวนิสต์อีกต่างหาก! นั้นคือสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับทุกคนหรือ? กล่าวต่อ: "นายทักษิณมั่นใจมากว่านายภูมิธรรมสามารถล่วงรู้ได้ว่าทหารกำลังคิดอะไรอยู่ และเชื่อว่านายภูมิธรรมมีขีดความสามารถที่จะปกป้องแพทองธารจากภัยคุกคามใดๆได้" ขอพูดอีกครั้งหนึ่งว่า ผมว่ามันไม่เป็นเหตุเป็นผลเอาเสียเลย โดยเฉพาะเมื่อทักษิณได้รับอนุญาตให้กลับเข้ามาในประเทศไทยด้วยการร่วมมือของหลายฝ่ายในการสถาปนาวิธีการที่ทำให้เขาไม่ต้องเผชิญกับผลลัพธ์ในรูปแบบเดิมๆจากคดีอาญาของเขา อย่างที่เราจะเห็นได้จากกรณีของคนอื่นๆที่ถูกตัดสินลงโทษด้วยคดีอาญาที่คล้ายกัน ต้องขอพูดอีกครั้งหนึ่งว่า มันไม่สมเหตุสมผลเอาเสียเลย ผมอ่านแล้วผมหัวเราะเลย

ตอนแรกผมคิดว่าจะทำวีดีโอเรื่องนี้ให้เป็นเชิงเสียดสี แต่ต่อมาก็ตัดสินใจที่จะไม่ทำ สิ่งที่ผมต้องการคือชี้ให้เห็นถึงประเด็น โดยเฉพาะตอนที่ผมอ่านเรื่องที่เกี่ยวกับลัทธิคอมมิวนิสต์ ผมจึงต้องการทำวิดีโอนี้ให้มีความจริงจังขึ้นมา แต่ก็ยังนึกขำๆอยู่ในใจว่า "อ๋อ เราจำเป็นต้องมีเทวดาผู้พิทักษ์" ประมาณนั้น ในขณะที่ความเป็นจริงก็คือ ผมมองไม่เห็นว่าจะมีภัยคุกคามใดๆเกิดขึ้นกับใครเลย ซึ่งนั่นคือประเด็นที่ผมต้องการชี้ให้เห็น บทความกล่าวต่อ: "แหล่งในพรรคเพื่อไทยยืนยันว่านายภูมิธรรมคือหนึ่งในผู้ช่วยของทักษิณที่ทักษิณไว้ใจมากที่สุดและเป็นผู้ที่ช่วยก่อตั้งพรรคไทยรักไทยในปี 1998 ด้วย" ก็ฟังดูดีนะครับ แต่ขอถามว่าทักษิณเป็นนายกรัฐมนตรีหรือเปล่า? บทความกล่าวต่อ: "ถึงแม้ตำแหน่งทางการของนายภูมิธรรมในฐานะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะมีความสำคัญ แต่หน้าที่หลักของเขาคือคอยให้ความช่วยเหลือนายกรัฐมนตรีที่ขาดประสบการณ์ในการบริหารเศรษฐกิจ" ตอนนี้อะไรเกิดขึ้นกันแน่ครับ? บุคคลผู้นี้เป็นรัฐมนตรีกลาโหมตัวจริงหรือเปล่า? แล้วนายกรัฐมนตรี เป็นนายกรัฐมนตรี ตัวจริงๆหรือเปล่า? หรือว่าเรากำลังเล่นเกมการชกลมหรือเปล่า? แล้วสิ่งทั้งหลายเหล่านี้ก็คือสิ่งที่ทำให้เกิดปัญหาแก่เรามากมายในอดีต ทำไมไม่ลองให้นายกรัฐมนตรีทำหน้าที่ของนายกรัฐมนตรี และบริหารรัฐบาลไป บริหารคณะรัฐมนตรีอย่างที่มันเคยทำมาตามปกติ และในขณะเดียวกัน แนวความคิดที่ว่านายกรัฐมนตรีมีหน้าที่ “บริหารเรื่องเศรษฐกิจ” นั้น เป็นแนวคิดแบบ neo-Keynesian ซึ่งเราได้ยินมาตั้งแต่ที่พูดถึงเรื่อง digital wallet และแนวคิดเรื่อง ภาษีเงินได้แบบติดลบ (negative income tax) ซึ่งมันเป็นการเข้าไปแทรกแซงขนาดมโหฬาร และผมคิดว่าคำว่า 'แทรกแซง' น่าจะเป็นคำที่ดีที่สุด คือเป็นการแทรกแซงของรัฐบาลเข้าในเรื่องเศรษฐกิจ มันจำเป็นต้องครอบคลุมไปถึงขนาดนั้นด้วยหรือ? แล้วมันจะเป็นผลดีสำหรับเศรษฐกิจด้วยหรือ? ในประสบการณ์ของผมเห็นว่า ถ้ารัฐบาลเข้าไปมีส่วนร่วมในระบบของเศรษฐกิจมากเกินไป ก็จะทำให้เกิดปัญหาขึ้นมา ตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุดคือในช่วง COVID ที่รัฐบาลตัดสินใจ shut down เศรษฐกิจ เพราะถึงที่สุดแล้ว เหตุผลหลักสำหรับการกระทำในครั้งนั้นก็แค่ ‘เราอาจจะป่วยได้’

โดยสรุปแล้ว ผมไม่ชอบทำวีดีโอแบบชอบจับผิด แต่ครั้งนี้ผมก็ไม่ได้วิพากย์วิจารณ์ในเชิงลบ ผมคิดว่ามีหนทางที่จะเดินไปข้างหน้าโดยที่รัฐบาลชุดนี้น่าจะทำงานได้ดีมากด้วยถ้าจะพูดตรงๆ แล้วผมคิดว่าพรรคร่วมรัฐบาลก็คงจะทำอะไรๆได้มากด้วย ในความคิดของผม การพูดอะไรที่เกินความเป็นจริง จนเกือบจะถึงจุดที่กลายเป็นความหวาดวิตกมากเกินไปก็คือแนวคิดที่ว่า 'เราต้องมีเทวดาผู้พิทักษ์' เพราะในประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา จะเป็นหลักฐานว่าไม่มีความจำเป็นเลย 

อย่างไรก็ตาม การพูดถึงเรื่องการวางคนที่เคยเป็นสมาชิกของพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทยให้เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมในครั้งนี้ ผมว่าเป็นสิ่งที่น่ากังวลอย่างที่สุด แล้วทำให้ผมนึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อประมาณปีที่แล้ว ซึ่งผมทำวิดีโอขึ้นมา ชื่อว่า This is Thailand ซึ่งผมจะนำลิงค์ไปแนบท้ายวิดีโอเรื่องนี้ด้วย ซึ่งเหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นเมื่อรัฐบาลชุด นายเศรษฐา เข้ามารับตำแหน่ง ก็มีแนวคิดที่จะนำตำรวจจากพรรคคอมมิวนิสต์ของประเทศจีนมาเดินลาดตระเวนตามท้องถนนในประเทศไทย ผมว่ามันดูเหมือนจะหันเหออกไปเข้าทางของพวกคอมมิวนิสต์มากขึ้น สิ่งนี้ทำให้ผมรู้สึกไม่สบายใจจริงๆ แล้วผมคิดว่าสำหรับใครที่รู้ประวัติศาสตร์ของไทย รวมทั้งรู้ถึงการที่ประเทศไทยตั้งป้อมต่อต้านคอมมิวนิสต์ ซึ่งก็ต้องนับรวมไปด้วยว่า ในขณะที่สิ่งที่เรียกว่าทฤษฎีโดมิโน่กำลังผลิดอกออกผลในระดับหนึ่ง แต่ตัวโดมิโน่ที่ไม่ลัมก็คือประเทศไทย และผมคิดว่าคนไทยควรที่จะได้รับการบอกกล่าวให้จดจำสิ่งนั้นไว้ให้ดี ขอย้ำว่า ผมมีศรัทธาแรงกล้าในการเปลี่ยนสัญชาติ แต่ก็ขอพูดอีกครั้งหนึงว่า ผมรู้สึกกังวลเป็นอย่างยิ่ง ที่เรามีคอมมิวนิสต์ มาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของไทย