Integrity Legal - Law Firm in Bangkok | Bangkok Lawyer | Legal Services Thailand Back to
Integrity Legal

Legal Services & Resources 

Up to date legal information pertaining to Thai, American, & International Law.

Contact us: +66 2-266 3698

[email protected]

ResourcesThailand Real Estate & Property LawJurisprudenceการปราบปรามบุหรี่ไฟฟ้าของทางการไทยจะมีผลกระทบกับการสูบกัญชาหรือไม่?

การปราบปรามบุหรี่ไฟฟ้าของทางการไทยจะมีผลกระทบกับการสูบกัญชาหรือไม่?

For the English transcript of this video, please go to the following link:

https://www.legal.co.th/resources/thailand-real-estate-property-law/jurisprudence/will-thai-e-cigarette-crackdown-impact-cannabis-vaping/

วีดีโอเรื่องนี้จะพูดถึงเรื่องบุหรี่ไฟฟ้าในประเทศไทย ผมทำวีดีโอไว้อีกม้วนหนึ่งพร้อมๆกับม้วนนี้ซึ่งพูดถึงแง่มุมต่างๆเกี่ยวกับบุหรี่ไฟฟ้าโดยเฉพาะ ผมขอแนะนำให้ผู้ที่กำลังชมวีดีโอม้วนนี้ไปหารับชมเพื่อที่จะได้รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับบุหรี่ไฟฟ้า เป็นการวิเคราะห์ในด้านยาสูบ วีดีโอดังกล่าวจะพูดเรื่องยาสูบล้วนๆ สำหรับวีดีโอม้วนนี้ได้ตั้งเป็นคำถามว่า เรื่องบุหรี่ไฟฟ้านี้มีพัฒนาการไปอย่างไร และจะมีผลกระทบต่อประเด็นของกัญชาในประเทศไทยหรือไม่?

สำหรับผู้ชมที่ยังไม่ทราบ ตอนนี้ในประเทศไทบกัญชาเป็นสิ่งถูกกฎหมายแล้วครับ สามารถที่จะซื้อขายกัญชาในประเทศไทยได้แล้ว ผู้ที่ต้องการทำธุรกิจเกี่ยวกับกัญชาในประเทศไทย จะต้องมีอายุเกิน 20 ปี คุณจะต้องปฏิบัติตามกฎหมายและระเบียบข้อบังคับที่กำหนดไว้ นอกจากนี้ ผมเคยพูดไว้ในวีดีโอม้วนอื่นแล้วว่า ชาวต่างชาติอาจจะเจอข้อจำกัดที่หนักพอสมควรในธุรกิจกัญชา อย่างไรก็ตาม เหตุผลของการทำวีดีโอเรื่องนี้คือจะพูดถึงบุหรี่ไฟฟ้าให้มากขึ้นอีกหน่อย โดยเฉพาะในบริบทที่เข้ามาเกี่ยวข้องกับกัญชา ขอยกข้อความโดยตรงจากบทความในหนังสือพิมพ์ Thaiger, thethaiger.com, บทความชื่อว่า: Thailand offers rewards for reporting e-cigarette sellers and users ประเทศไทยมีข้อเสนอให้รางวัลแก่ผู้ที่แจ้งเบาะแสเกี่ยวกับผู้ขายและผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้า ขอยกข้อความโดยตรงจากบทความดังนี้: "เพื่อเป็นการปราบปรามอย่างจริงจังต่อการใช้บุหรี่ไฟฟ้า รัฐบาลไทยได้ริเริ่มโครงการที่จะอนุญาตให้สาธารณชนสามารถใช้ application “ทางรัฐ” ในโทรศัพท์มือถือ รายงานเกี่ยวกับผู้ขายและผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้า” โครงการนี้จะมอบรางวัลอย่างงามให้กับผู้ที่แจ้งเบาะแส"-โปรดสังเกตุ เขาจะได้เงินนะครับ เพียงแค่แจ้งข้อมูลว่าคุณเป็นผู้สูบบุหรี่ไฟฟ้า แต่สำหรับกัญชา เป็นสิ่งที่ถูกกฎหมายในประเทศไทย ตีความเอาเองก็แล้วกันครับ กล่าวต่อ: "ซึ่งผู้แจ้งเบาะแสอาจจะได้รับถึง 60 เปอร์เซ็นต์ของค่าปรับที่คิดกับผู้ต้องหา" คำถามของผมคือ สงสัยมุกตลกของผมอาจจะไม่ชัดเจน มันตลกตรงไหนครับ? มันตลกก็เพราะว่าเรามีข้อจำกัดมากมายกับยาสูบ แต่สำหรับกัญชา เราทำให้เป็นสิ่งถูกกฎหมาย จะทำให้ถูกกฏหมายไปเพื่ออะไร ในเมื่อยาสูบเป็นกิจการผูกขาดอยู่แล้วในประเทศไทย และผมได้พูดไว้ในวิดีโอม้วนอื่นแล้วว่า กฎหมายก็ยังคลุมเครือ ผมได้พูดถึงเรื่องนี้ไว้แล้วในวีดีโอม้วนที่พูดถึงยาสูบโดยเฉพาะ ซึ่งก็เพียงพอแล้ว แต่โดยสรุป การนำเข้าและการจำหน่ายเป็นเรื่องที่สำคัญมากๆในการบังคับใช้กฎหมายของไทย การครอบครองไม่ใช่ประเด็นซะทีเดียว และประเด็นที่ผมพูดไว้ในวีดีโอม้วนนั้นก็คือ ถ้าเผอิญคุณเข้าประเทศไทยพร้อมกับมีบุหรี่ไฟฟ้าติดตัวเพื่อเอาไว้สูบเอง อย่าเพิ่งสติแตก เพราะ ขอยกข้อความมาตรงๆเลยว่า: "สำหรับผู้ที่ถูกจับกุมเพราะขายหรือครอบครองบุหรี่ไฟฟ้าโดยมีเจตนาเพื่อการจำหน่าย บทลงโทษจะหนัก" นั้นคือประเด็นหลักครับ จริงๆแล้วมันไม่ใช่การลงโทษ ซึ่งผมได้พูดเกี่ยวกับประเด็นนี้ไว้ทั้งหมดไว้ในวีดีโอม้วนอื่น ย้อนไปเมื่อหลายเดือนที่แล้ว โดยตัวของมันเอง บุหรี่ไฟฟ้าเองไม่ได้เป็นสิ่งผิดกฎหมาย-นี่เป็นความเข้าใจของผมในฐานะที่เป็นบุคคลธรรมดาทั่วๆไป ซึ่งผมได้ข้อมูลมาจากบทความของทนายความคนไทย แต่ก็เป็นความเข้าใจของคนทั่วๆไปที่มีต่อคำศัพท์ทางกฎหมายของไทย ซึ่งผมเข้าใจว่าการครอบครองบุหรี่ไฟฟ้า 1 แท่ง ไม่ได้เป็นสิ่งผิดกฎหมาย แต่ถ้าหากคุณนำมาใช้ หรือคุณได้มาอย่างไร นั้นก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่ถ้าหากคุณเข้าประเทศไทยมาโดยบังเอิญมีบุหรี่ไฟฟ้าอยู่ในกระเป๋า 1 แท่ง แล้วคุณมาอยู่ที่นี่ นั่นก็ไม่ใช่เรื่องที่คุณจะต้อง "ติดคุก 5 ปีสำหรับการกระทำผิดครั้งนี้" เพราะประเด็นหลักอยู่ที่ มีเจตนาที่จะจำหน่ายหรือไม่; จะเน้นเรื่องการจำหน่ายเป็นหลัก นอกจากนี้ยังมีนัยยะทางด้านศุลกากรอีกด้วย ซึ่งผมได้พูดไว้แล้วในวีดีโอม้วนอื่นเกี่ยวกับยาสูบโดยเฉพาะ แต่เพื่อที่จะเพิ่มความชัดเจนว่าเจ้าหน้าที่กำลังตามเรื่องอะไรกันอยู่แน่ มันคือการนำเข้าและการจำหน่ายผลิตภัณฑ์เหล่านี้มากกว่าการครองครองบุหรี่ไฟฟ้าเพียง 1 แท่ง ซึ่งนั่นไม่ใช่ประเด็นหลักที่ทางการจะมุ่งติดตามอยู่

อย่างไรก็ตาม ในกรณีแบบนี้ การนำมาแยกประเด็นสำคัญก็จะคล้ายกับการแยกมูลของแมลงวันออกจากเม็ดพริกไทย ซึ่งนั่นไม่ใช่วิธีการทำงานอย่างได้ผลในเมื่อคุณต้องเจอกับการบุกจู่โจมจากตำรวจ หรืออะไรประมาณนั้น แต่สิ่งที่ผมอยากจะพูดคือ ผมไม่อยากให้นักท่องเที่ยวต้องเขินอายเพราะคิดว่า "ตายเลย ถ้าบังเอิญผมถูกจับกุมเพราะมีบุหรี่ไฟฟ้าติดตัว ผมต้องติดคุกในประเทศไทยแน่นอน" ไม่ใช่เลยครับ คนพวกนี้ไม่ใช่เป้าหมายที่เจ้าหน้าที่จะไล่ติดตาม; กฎหมายไม่ได้ทำขึ้นมาเพื่อให้ทำอย่างนั้น หลักๆแล้วเป็นเรื่องของศุลกากรและการจำหน่ายและยังมีความเกี่ยวข้องกับโรงงานยาสูบของไทยอีกด้วย กล่าวต่อจากบทความ: "หนังสือพิมพ์เนชั่นได้รายงานว่า ผู้กระทำผิดอาจจะติดคุกถึง 5 ปีแล้วต้องจ่ายค่าปรับถึง 4 เท่าของราคาสินค้าที่อยู่ในความครอบครอง ผู้ที่ลักลอบนำบุหรี่ไฟฟ้าเข้ามาในประเทศไทยอย่างผิดกฎหมายจะเจอการลงโทษที่รุนแรงกว่านี้ โดยจะติดคุกได้ถึง 10 ปีและมีค่าปรับถึง 5 เท่าของมูลค่าสินค้าที่ลักลอบเข้ามา"

เหตุผลที่ผมพูดถึงเรื่องนี้ก็เพราะว่าอาจจะมีผลกระทบอย่างมากในหลายๆด้านต่อกัญชา ตอนนี้เราจะยังไม่พูดลงไปในรายละเอียด; ผมไม่ได้พูดถึงเรื่องกัญชามาสักพักหนึ่งแล้ว แต่โดยสรุป ในประเทศไทย ถือว่ากัญชาที่ผ่านกระบวนการแล้วเป็นสิ่งที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงกับต้นกัญชาสด  ผลิตภัณฑ์ที่ผ่านขั้นตอนแล้วเช่น สารสกัดที่นำไปใช้ในบุหรี่ไฟฟ้าได้ รวมทั้งอุปกรณ์ต่างๆที่เกี่ยวกับบุหรี่ไฟฟ้า อาจจะไม่ถือว่าถูกกฎหมาย เพียงแค่เพราะกัญชาถูกกฎหมาย นะครับ  นอกจากนี้ การทำงานร่วมกันระหว่างกฎหมายของโรงงานยาสูบกับการบังคับใช้กฎหมาย อาจจะมีผลกระทบทางลบต่อธุรกิจกัญชาของชาวต่างชาติที่กำลังคิดค้นเทคโนโลยีเกี่ยวกับอุปกรณ์สูบ, หรือเทคโนโลยีใหม่ๆเกี่ยวกับการสกัด สิ่งเหล่านี้อาจจะเกิด-โดยเฉพาะในกรณีของชาวต่างชาติที่นี่–ผลกระทบทางกฎหมายที่น่ากังวลในหลายๆด้าน และคุณอาจจะจบลงด้วยการมีปัญหากับบางสิ่งบางอย่างที่คุณไม่คาดคิดเลยว่ามันจะเกี่ยวเนื่องมาจากกัญชาเช่น การต่อต้านโรงงานยาสูบ หรือต่อต้านระเบียบข้อบังคับของโรงงานยาสูบ หรือต่อต้านระเบียบข้อบังคับที่จะกำจัดผลิตภัณฑ์บางอย่างที่ไม่เป็นประโยชน์ต่ออุตสาหกรรมยาสูบ เช่น บุหรี่ไฟฟ้า ซึ่งบางครั้งในแวดวงกัญชาจะเรียกว่า Vapes ก็ตาม สิ่งเหล่านี้อาจจะนำคุณไปสู่ปัญหาที่อาจจะไม่เกี่ยวข้องกับกัญชาเลย แต่ในประเทศไทย สิ่งเหล่านี้อาจจะนำไปสู่การลงโทษทางอาญาได้อยู่ดี