Integrity Legal - Law Firm in Bangkok | Bangkok Lawyer | Legal Services Thailand Back to
Integrity Legal

Legal Services & Resources 

Up to date legal information pertaining to Thai, American, & International Law.

Contact us: +66 2-266 3698

[email protected]

ResourcesThailand Real Estate & Property LawJurisprudenceเศรษฐกิจไทยจะพังทลายลงเนื่องจากหนี้หรือไม่?

เศรษฐกิจไทยจะพังทลายลงเนื่องจากหนี้หรือไม่?

For the English transcript of this video please go to the following link:

https://www.legal.co.th/resources/thailand-real-estate-property-law/jurisprudence/will-thailand-see-economic-collapse-due-debt/

วีดีโอเรื่องนี้ จะเป็นการแสดงความคิดเห็นของผม ที่แตกต่างออกไปจากแนวที่เคยทำมา   คำถามที่ตั้งเป็นหัวเรื่องไว้คือ "เรากำลังจะเห็นถึงการล่มสลายทางเศรษฐกิจของประเทศไทยอันเนื่องจากการเป็นหนี้หรือไม่?" เมื่อเร็วๆนี้ ผมได้ดูวีดีโอใน YouTube ที่กล่าวเช่นนั้น ซึ่งมีคนดูหลายคน น่าจะเป็นวีดีโอที่คนติดตามเยอะ แต่ผมคิดว่าน่าจะเป็นเรื่องของการ ตั้งชื่อเรื่องไม่เหมาะสมมากกว่า ด้วยเหตุผลหลายๆอย่าง ผมยังไม่คิดที่จะทำวิดีโอจนกระทั่งได้อ่านข้อคิดเห็นในช่องรับชมนี้ ซึ่งจะขอยกข้อความมาโดยตรงดังนี้: "เศรษฐกิจไทยกำลังจะลงเหว เพราะมีหนี้ส่วนบุคคลสูงถึง 90% ของ GDP" ก็ไม่รู้สินะ แต่ผมคิดว่าตัวเลขนั้นไม่น่าจะถูกต้อง ตรงที่ว่าหนี้ส่วนบุคคลสูงถึง 90% ของ GDP แต่ผมอาจจะเข้าใจผิดก็ได้เพราะถ้าดูจากเอกสาร ก็ดูเหมือนจะเป็นเช่นนั้น

อย่างไรก็ตาม หนี้ภาครัฐยังไม่ถึงขนาดนั้น และในความเป็นจริง ผมคิดว่าประเทศไทยจำเป็นต้องปล่อยให้เกิน 60% แต่ไม่มากนัก และก็หวังว่าคงจะไม่สูงไปมากกว่านี้ ส่วนตัวผมคิดว่าถ้าก่อหนี้เพิ่มขึ้นในเวลานี้ โดยเฉพาะหนี้สาธารณะ คงไม่เป็นประโยชน์กับใครเลย อย่างไรก็ตาม มีความเข้าใจผิดมาก แต่ผมจะไม่ไปชี้ลงไปที่ลิงค์ของวีดีโอเรื่องนี้เพราะผมไม่เห็นว่าจะมีประโยชน์อะไร ประการที่สอง ผมไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้ และประการที่ 3 คือมีส่วนหนึ่งที่หายไปถ้าหากจะนำประเด็นนี้มาวิเคราะห์ และส่วนที่หายไปนั้นคือ GDP ของประเทศไทย GDP ของประเทศไทยไม่ได้แสดงถึงตัวเลขที่แม่นยำ ผมคิดว่า GDP ของประเทศไทยไม่ว่าจะแสดงด้วยตัวเลขใดก็ตาม มันไม่น่าจะตรงกับตัวเลขที่แท้จริงตามสภาพความเป็นจริงของเศรษฐกิจไทย ผมจำได้ว่าเมื่อหลายปีมาแล้ว ผมได้คุยกับชาวต่างชาติคนหนึ่งที่อาศัยอยู่ในเอเชียมานานแล้ว เขาเล่าให้ฟังว่าเคยไปร่วมการประชุมที่ the Foreign Correspondents Club of Thailand แล้วมีอดีตรัฐมนตรีคลัง คือคุณกรณ์ ได้มาออกความเห็นเรื่องสถานภาพของเศรษฐกิจไทย ในการแสดงความเห็นครั้งนั้น เขาสังเกตุเห็นว่ามันเป็นเพียงเศษส่วนเดียวของเศรษฐกิจที่แท้จริงของประเทศไทยที่ได้นำตัวเลขมาใช้ในการวิเคราะห์เศรษฐกิจไทยในด้านของ GDP และผมคิดว่าเหตุนี้ทำให้หลายคนมักจะคาดการณ์เกี่ยวกับอนาคตของประเทศไทยอย่างเลวร้ายและสิ้นหวัง เพราะเขาไม่เข้าใจว่าประเทศไทยมีระบบเศรษฐกิจเงินสดที่มีชีวิตชีวามาก และเศรษฐกิจที่มีชีวิตชีวานี้ ตั้งอยู่บนพื้นของร้านค้าเล็กๆริมถนนที่เป็นปัจจัยสำคัญของเศรษฐกิจ เมื่อผู้คนเหล่านั้นคุยเรื่องเศรษฐกิจโดยรวมหรือ GDP เช่นในกรณีของสหรัฐฯเป็นต้น ส่วนใหญ่จะมีการกล่าวว่าธุรกิจเล็กๆ เป็นตัวผลักดันเศรษฐกิจถึงแม้ทุกคนจะมองไปที่องค์กรใหญ่ๆทั้งหลาย แต่จริงๆแล้วก็คือธุรกิจเล็กๆที่ทำกันเองในครอบครัว หรือร้านโชห่วยนี่แหละที่ขับเคลื่อน GDP ในแต่ละวัน และประเทศไทยมีร้านของชำเหล่านี้ผุดโผล่ทั่วไปหมด และโดยสัตย์จริงก็คือ ส่วนใหญ่แล้วเป็นการค้าแบบใช้เงินสด ดังนั้นจึงไม่อยู่ในสายตา ของนักเศรษฐศาสตร์ที่คอยวัดปริมาณ GDP ของประเทศไทย เพราะฉะนั้น ด้วยเหตุผลนี้ ผมจึงไม่กังวลเลยว่าหายนะกำลังใกล้เข้ามา ในแง่ของการพังทลายลงเพราะหนี้ในภาคเศรษฐกิจของประเทศไทย เพราะจริงๆแล้วพวกเขาไม่รู้เลยว่าเศรษฐกิจของประเทศไทยนั้นเติบโตขนาดไหน