Integrity Legal - Law Firm in Bangkok | Bangkok Lawyer | Legal Services Thailand Back to
Integrity Legal

Legal Services & Resources 

Up to date legal information pertaining to Thai, American, & International Law.

Contact us: +66 2-266 3698

info@integrity-legal.com

ResourcesVisa & Immigration LawNationality Lawหนังสือเดินทางของประเทศไทย ”ไม่ขลัง” หรือ?

หนังสือเดินทางของประเทศไทย ”ไม่ขลัง” หรือ?

For the English transcript of this video please go to the following link: 

https://www.legal.co.th/resources/visa-immigration-law/visa-news/do-thai-passports-lack-power/

วีดีโอเรื่องนี้จะตั้งคำถามว่าพาสปอร์ตไทย”ไม่ขลัง” หรือ ที่ผมคิดจะทำวีดีโอเรื่องนี้ก็เพราะได้อ่านบทความในหนังสือพิมพ์ Thai Enquirer จาก thaienquirer.com, หัวข้อว่า: พาสปอร์ตไทยมีอานุภาพดีขึ้น แต่ยังล้าหลังหลายประเทศรวมทั้ง Timor-Leste. โดยผมจะขอยกข้อความมาโดยตรงดังนี้: "ตอนนี้การเดินทางเริ่มเปิดตัวขึ้นมาแล้ว และการขอวีซ่าใช้เวลาเป็นสัปดาห์หรือไม่ก็เป็นเดือน ดังนั้นการถือพาสปอร์ตที่ทรงอิทธิพล จึงกลายเป็นสิ่งที่มีความจำเป็น แต่พลังอำนาจของพาสปอร์ตไทยก็ยังคงอ่อนอยู่ถ้าเปรียบเทียบกับประเทศอื่นในภูมิภาคนี้ การประกาศครั้งล่าสุดโดย "Passport Index" เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ผลปรากฏว่าพาสปอร์ตของประเทศไทยถึงแม้จะมีพลังอำนาจเพิ่มขึ้นในระยะ 2-3 ปีที่ผ่านมา แต่ก็ยังเป็นรองประเทศเกิดใหม่ในเอเชียอย่าง Timor-Leste." (ผมจะมาพูดถึงประเด็นนี้ต่อที่หลัง) บทความยังกล่าวต่ออีกว่า: “พาสปอร์ตของประเทศไทยถูกจัดอยู่ในอันดับที่ 53 ในขณะที่ประเทศเล็กๆอย่าง Timor-Leste ถูกจัดอยู่ในอันดับที่ 46 โดยที่ค่าเฉลี่ยของอันดับหนังสือเดินทางในโลก คือ 45" บทความกล่าวต่อว่า: "แต่ถ้าดูมาดูบรรดาประเทศที่เป็นคู่แข่งขันทางเศรษฐกิจของประเทศไทย อันได้แก่ประเทศอินโดนีเซีย ปรากฎว่ามาเป็นอันดับที่ 58 ส่วนฟิลิปปินส์อยู่ในอันดับที่ 65 และเวียดนามอยู่ในอันดับที่ 73 แม้ว่าตามตารางการจัดอันดับแล้ว ประเทศไทยจะอยู่ในอันดับที่สูงกว่าประเทศดังกล่าวก็ตาม แต่ข้อมูลของปีที่ผ่านมาจะแสดงภาพที่ค่อนข้างชัดเจนว่า อันดับของประเทศเหล่านั้นได้ขยับเพิ่มขึ้นอย่างเป็นชิ้นเป็นอัน เช่นอินโดนีเซียขยับจากอันดับที่ 63 เป็นอันดับที่ 58 ฟิลิปปินส์ขยับจาก 74 เป็น 65 และเวียดนามขยับจาก 79 ขึ้นมาเป็นอันดับที่ 73 ซึ่งนับว่าเป็นขยับก้าวที่มีความสำคัญเพราะเป็นการทิ้งรอยก้าวย่างที่หนักแน่นไว้ในเวทีโลก" ผมจะขอกลับไปกล่าวถึงประเทศ Timor-Leste ซึ่งถ้ากวาดตาดูแวบแรกก็จะรู้สึกแปลกๆว่าทำไมพาสปอร์ตของประเทศ Timor-Leste ถึงทรงอิทธิพลมากกว่าพาสปอรต์ของประเทศไทย ตรงนี้ก็ต้องย้อนความจำกันหน่อยว่า Timor-Leste เคยเป็นอาณานิคมของโปรตุเกส ซึ่งก็อาจจะมีผลอยู่บ้างไม่มากก็น้อย บางทีประเทศที่เคยเป็นอาณานิคมของโปรตุเกสก็อาจสามารถเดินทางเข้า Timor-Leste ได้โดยไม่ต้องทำวีซ่า เช่นเดียวกับการเดินทางเข้าโปรตุเกสนั่นเอง ซึ่งผมนึกไม่ออกว่ามีประเทศอะไรบ้าง แต่ผมพูดได้ว่านั่นก็เป็นเหตุเป็นผลพอสำหรับการที่เคยเป็นอาณานิคมมาก่อน แต่กลับได้รับผลพวงทำให้พาสปอร์ตของตนเองมีฤทธิ์ขึ้นมาได้ในปัจจุบัน

แต่จากบทความที่กล่าวมานี้ ผมคิดว่าค่อนข้างจะใช้ได้เลยทีเดียวที่ประเทศไทยถูกจัดอยู่ในระดับกลางๆจากกลุ่มประเทศทั่วโลกในประเด็นของพลังอำนาจของพาสปอร์ต โดยเฉพาะอย่างยิ่งในขณะนี้ซึ่งการจำกัดการเดินทางยังคงเป็นอย่างที่เป็นอยู่ การถือพาสปอร์ตที่มีข้อจำกัดของวีซ่าน้อยเมื่อเปรียบเทียบกับพาสปอร์ตของประเทศอื่น ก็ไม่ใช่อะไรที่เลวร้าย ประเทศไทยไม่ได้เป็นประเทศในเขตกฎหมายที่มีการให้สถานะของการเป็นพลเมืองโดยวิธีการทางเศรษฐกิจ เช่นการนำเงินมาลงทุนหรือการทำพาสปอร์ตทอง (Golden Visa) และไม่ใช่เป็นประเทศที่ขอพาสปอร์ตโดยใช้เส้นทางลัด ซึ่งผมเจอมาเองด้วยประสบการณ์ส่วนตัวว่าเป็นเช่นนั้น แต่ในฐานะที่ผมเองถือพาสปอร์ตไทย ผมก็จะชอบมากถ้าจะมีตัวเลือกมากขึ้นในการที่ไม่ต้องขอวีซ่าสำหรับผู้ถือพาสปอร์ตไทย แต่ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาก็ยังมีการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญคือ ญี่ปุ่นและเกาหลีได้ถูกนำมาใส่ไว้ในรายชื่อประเทศผู้ยกเว้นวีซ่าของประเทศไทยซึ่งประเทศไทยก็จะเพิ่มรายชื่อประเทศที่ไม่ต้องใช้วีซ่าเป็นครั้งคราวเช่นกัน