For the English transcript of this video please go to the following link:

https://www.legal.co.th/resources/visa-immigration-law/us-immigration-law/are-k-1-visas-just-glorified-tourist-visas/

วีดีโอเรื่องนี้จะกล่าวถึงวีซ่า K-1 (ประเภทคู่หมั้น) โดยเปรียบเทียบกับวีซ่านักทองเที่ยวประเภท B1/B2

เคยมีผู้กล่าวในช่องรับฟังของเราว่า "ในช่วงนี้แทบจะไม่มีการดำเนินการเกี่ยวกับวีซ่า K-1 เลย ผมแนะนำให้ทำวีซ่า CR-1 (ประเภทคู่สมรส) มากกว่า ผมขอพูดจากมุมมองของผู้ที่กำลังยื่นวีซ่า K-1 และขอกล่าวว่า หน่วยราชการของสหรัฐฯจะมองวีซ่า K-1 ว่าเป็นวีซ่านักท่องเที่ยวแบบหรูๆ โดยมีทางเลือกที่จะสมรสต่อไป แล้วในบางสถานทูตตอนนี้ คำร้องของวีซ่า K-1 แทบไม่มีการเคลื่อนไหวเลย" ผมขออธิบายว่าในสถานทูตในกรุงเทพ คำร้องของ Visa K-1 มีการเคลื่อนไหวแน่นอน แต่ละประเทศจะแตกต่างกันในวิธีการจัดการกับผลกระทบที่เกิดจากโควิด-19 เพราะฉะนั้น ผมไม่สามารถจะบอกได้ว่าแต่ละสถานทูตจะมีการปฏิบัติอย่างไร

แต่เหตุผลที่ผมทำวีดีโอเรื่องนี้คือจะอธิบายว่า การกล่าวว่า "หน่วยราชการของสหรัฐฯจะมองวีซ่า K-1 ว่าเป็นวีซ่านักท่องเที่ยวแบบหรูๆ โดยมีทางเลือกที่จะสมรสต่อไป" ไม่เป็นความจริงเลยและเป็นการอธิบายสถานการณ์อย่างผิดพลาด กฎหมายการเข้าเมืองและสัญชาติ ได้ระบุไว้อย่างชัดเจน วีซ่า K-1 เป็นวีซ่าคู่หมั้น ซึ่งขึ้นอยู่กับหน่วยงานที่ดูรับผิดชอบเรื่องวีซ่าถาวร ซึ่งแตกต่างกับหน่วยงานที่รับผิดชอบเกี่ยวกับวีซ่าชั่วคราวเช่น วีซ่านักท่องเทียว วีซ่าสองประเภทจึงแตกต่างกันโดยสิ้นเชิงและการนำมาเปรียบเทียบจะเสมือนการเปรียบเทียบผลแอปเปิ้ลกับลูกโบว์ลิ่ง 

สิ่งที่อยากจะอธิบายคือ วีซ่า K-1 เป็นวีซ่าที่น่าสนใจเพราะเป็นวีซ่าชั่วคราวแต่ผู้ถือสามารถที่จะเดินทางเข้าสหรัฐฯโดยมีความตั้งใจที่จะย้ายไปอยู่ และหน่วยงานที่ดูแลเรื่องวีซ่า K-1 (ประเภทคู่หมั้น) คือหน่วยงานวีซ่าถาวรนั่นเอง และการปฏิบัติในเชิงกฎหมายก็จะปฏิบัติว่าวีซ่าประเภทคู่หมั้นเป็นวีซ่าถาวร และจะมีกรอบเฉพาะซึ่งอนุญาตให้ผู้นั้นสมรสและขอปรับสถานะเป็นผู้อยู่อาศัยถาวรที่ถูกต้องตามกฎหมาย ดังนั้นการที่จะเรียกว่าเป็นวีซ่านักท่องเที่ยวแบบหรูหราเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้องเพราะการออกแบบแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง วีซ่า K-1 วันใช้ได้เพียงครั้งเดียว และมีอายุ 90 วัน ซึ่งต่างจากวีซ่านักท่องเที่ยวที่มีอายุการใช้งาน 10 ปีและสามารถจะเข้าได้มากกว่า 1 ครั้ง ดังนั้นจะเรียกว่าวีซ่านักท่องเที่ยวแบบหรูหรา ไม่ถูกต้องเลยเพราะเป็นเอกสารที่ใช้ในการเดินทางที่แตกต่างกัน และใช้โดยมีจุดประสงค์ที่แตกต่างกัน