For the English transcript of the video please go to the following link:

https://www.legal.co.th/resources/visa-immigration-law/us-immigration-law/could-we-soon-see-comprehensive-immigration-reform-usa/

วีดีโอเรื่องนี้จะกล่าวถึงความเป็นไปได้ที่จะเกิดการปฏิรูปกระบวนการเข้าเมืองของสหรัฐฯหรือที่เรียกย่อว่า CIR

เมื่อ Biden เข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีด้วยคะแนนที่มากกว่าเพียงนิดเดียวโดยที่คะแนนตัดเชือกคือ Kamala Harris ในขณะที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นฝ่าย Democratic แต่ก็ดูเหมือนพอจะมีเหตุผลที่จะอนุมานได้ว่า เราอาจจะได้เห็นการเปลี่ยนแปลงจริงๆจังๆ ในกฎหมายเกี่ยวกับการเข้าเมือง แต่ก็มีคำถามติดปากผู้คนตั้งแต่สมัยของ Obama แล้วเกี่ยวกับสิ่งที่เรียกกันว่า “การปฏิรูปอย่างสมบูรณ์แบบในเรื่องการเข้าเมือง“ ซึ่งความจริงก็คือ การปฏิรูปกฎหมายคนเข้าเมืองและสัญชาติของสหรัฐฯชนิดยกเครื่องใหม่กันเลย สิ่งที่ต้องเข้าใจคือ กฎหมายฉบับนี้ เป็นกฎหมายที่เก่าแก่มาก ซึ่งผมไม่ได้หมายความว่าถ้าเก่าแก่แปลว่าไม่ดี ผมไม่ได้เลือกข้างฝ่ายการเมือง ผมมองจากจุดยืนทางด้านกฎหมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากจุดยืนของผู้ที่ปฏิบัติงานด้านนี้โดยตรง ผมคิดว่ากฎหมายฉบับนี้เก่าแก่มากจริงๆ เพราะมีหลายประเภทที่จัดลำดับความสำคัญไว้ในกฎหมายนี้ และหลายประเภทที่ไม่ได้จัดลำดับความสำคัญไว้ รวมทั้งนโยบายหลายๆอย่างที่เห็นได้ชัดเจน ผมคิดว่านี่เป็นช่วงเวลาที่จะต้องเริ่มคิดเกี่ยวกับการปฎิรูปกฎหมายฉบับนี้อย่างจริงๆจังๆกันเสียที เรียกว่าต้องเปลี่ยนแปลงกันตั้งแต่ขั้นพื้นฐานของระบบการเข้าเมืองกันเลยทีเดียว   

อีกอย่างหนึ่งก็คือ กลไกของรัฐในเรื่องการเข้าเมือง ซึ่งปรากฎเห็นชัดในช่วงปีสุดท้ายของยุค Trump คือ เจ้าหน้าที่ในฝ่ายบริหารได้เข้ามาแทรกแซงก้าวก่ายในระบบงาน ซึ่งมีผลทำให้เกิดความอุ้ยอ้ายในระบบการทำงานทั้งหมด ทำให้คำร้องเดินผ่านขั้นตอนช้ามาก ซึ่งคำร้องที่กล่าวนี้คือ คำร้องที่ถูกต้องตามกฎหมายและควรที่จะผ่านกระบวนการ ถ้าผู้ยื่นคำร้องมีคุณสมบัติครบที่จะได้รับวีซ่าและไม่มีเหตุผลทางกฎหมายที่จะห้ามเดินทางเข้าประเทศ คำร้องเหล่านั้นก็ควรจะผ่านการพิจารณาตามขั้นตอนไปตามปกติ ซึ่งเป็นไปตามกระบวนการของกฎหมายสหรัฐฯ แต่ในปีหลังๆภายใต้การบริหารงานของ Trump ได้มีความสับสนยุ่งเหยิงและอุปสรรคมากมายเกิดขึ้นทำให้คำร้องที่ถูกต้องทุกประเภท ล่าช้ามาก

ผมหวังว่าในไม่กี่เดือนข้างหน้า หรือภายในปีต่อๆไป เราจะเห็นการปฏิรูปที่สมบูรณ์แบบของกระบวนการเข้าเมืองเกิดขึ้น และผมคิดว่าน่าจะเห็นชัดภายใน 2 ปีแรกของการบริหารงานของรัฐบาลชุดใหม่ เพราะเป็นช่วงสร้างผลงานของทั้งวุฒิสภาและสภาผู้แทน และถ้ามองในแง่ของการเมือง สมาชิกสภาและวุฒิสมาชิกมักจะมีการสลับกลุ่มที่จะเป็นผู้นำเมื่อเลือกตั้งช่วงกลาง term และในความคิดของผม ผมคิดว่าฝ่ายบริหารชุดนี้น่าจะเป็นชุดที่สามารถทำการเปลี่ยนแปลงในระบบได้ทั้งหมด ซึ่งคงจะไม่ปรับปรุงเฉพาะด้านของความมั่งคงเท่านั้น แต่ยังทำให้กระบวนการตามกฎหมายกลับมาอยู่ในร่องในรอยอีกครั้งหนึ่งด้วย