Integrity Legal - Law Firm in Bangkok | Bangkok Lawyer | Legal Services Thailand Back to
Integrity Legal

Legal Services & Resources 

Up to date legal information pertaining to Thai, American, & International Law.

Contact us: +66 2-266 3698

info@integrity-legal.com

ResourcesVisa & Immigration LawUS Immigration Lawวีซ่าคู่สมรสของสหรัฐฯใช้เวลาดำเนินการนานแค่ไหน?

วีซ่าคู่สมรสของสหรัฐฯใช้เวลาดำเนินการนานแค่ไหน?

For the English transcript of this video, please go to the following link: 

https://www.legal.co.th/resources/visa-immigration-law/us-immigration-law/how-long-are-us-marriage-visas-taking-process/

วีดีโอเรื่องนี้ตั้งเป็นคำถามขึ้นว่า "การทำวีซ่าคู่สมรสเข้าสหรัฐฯใช้เวลานานแค่ไหน?" ผมคิดที่จะทำวีดีโอเรื่องนี้หลังจากที่ได้ชมวีดีโอของผู้ร่วมงานคนหนึ่งชื่อว่า Jim Hacking ซึ่งเดี๋ยวผมจะใส่ลิงค์ไว้ใต้วีดีโอเรื่องนี้ เขาอยู่ที่ Hacking Immigration Law, ซึ่งผมจะชมวีดีโอของเขาเป็นครั้งคราว เขาเป็นผู้ประกอบวิชาชีพด้านกฎหมายเข้าเมืองสหรัฐฯที่มีความลึกซึ้งมากกว่าผม ปกติผมจะเข้าไปเกี่ยวข้องกับกรณีวีซ่าครอบครัวเฉพาะเมื่อได้รับการร้องขอเบื้องต้น ซึ่งก็จะเป็นกรณีเฉพาะตัวเท่านั้น แต่ผมจะติดตาม Hacking อย่างใกล้ชิด ผมชื่นชมผลงานของเขา เขาทำงานหลายอย่างเกี่ยวกับการเข้าเมืองของสหรัฐฯ และเขาใช้ YouTube เป็นช่องทางติดต่อ ซึ่งก็เหมือนกับคนอื่นๆที่ทำแบบนี้เหมือนกัน ผมนับถือเขามาก ขอคารวะต่อคุณ Hacking แต่สิ่งหนึ่งที่ Hacking หยิบยกขึ้นมาพูดและผมได้เข้าไปค้นหาข้อมูลก็ปรากฎว่าเป็นเรื่องจริง คือ USCIS ได้ลงประกาศเกี่ยวกับระยะเวลาของการดำเนินการ - ผมต้องพยายามกลั้นหัวเราะ คือต้องไม่หัวเราะจริงๆ แต่มันเป็นสถานการณ์ที่คล้ายกับว่าถ้าไม่หัวเราะก็คงจะต้องร้องไห้ เพราะมีการประกาศว่าระยะเวลาในการดำเนินการตามกระบวนการเข้าเมืองสำหรับคำร้องประเภท I-130 ต้องใช้เวลา 50 เดือน และตามที่เขานำเสนอในวีดีโอของเขา ระบุว่านี่คือเวลาที่เป็นบรรทัดฐานของวีซ่าครอบครัวสำหรับพลเมืองอเมริกันและผู้อยู่อาศัยถาวรที่ถูกต้องตามกฎหมาย คือเป็นเวลาที่เป็นบรรทัดฐานในการยื่นคำร้องขอวีซ่าถาวรประเภทคู่สมรส ซึ่งในความคิดของผม วีซ่าคู่สมรสคือวีซ่าประเภทหนึ่งที่รัฐบาลสหรัฐฯ ควรจะมีหน้าที่ที่จะดำเนินการแล้วจัดการเรื่องกระบวนการเหล่านี้อย่างจริงจัง ขอย้ำว่า มันเป็นการพิจารณาพิพากษา เพียงแค่ว่าคุณสมรสกับคนอเมริกัน ก็ไม่ได้หมายความว่าคุณมีสิทธิ์ที่จะอาศัยอยู่ในสหรัฐฯหรือมีสิทธิ์ที่จะได้รับกรีนคาร์ด ซึ่งสิ่งนี้ผมเข้าใจ ผมก็ทำงานด้านนี้มาเป็นเวลา 15 ปี ไม่มีใครโต้เถียงในประเด็นนี้ แต่อย่างที่บอกแล้ว ตอนนี้เขาบอกว่าต้องใช้เวลา 50 เดือนเพื่อดำเนินการต่อคำร้อง ฟังให้ดีนะครับ นี่เพียงแค่ดำเนินการตามกระบวนการเท่านั้นนะ ต่อจากนั้น ยังจะต้องจัดการในขั้นตอนสุดท้ายของวีซ่าอีกด้วย และที่ประเทศไทยนี่ เราต้องทำอีกหลายอย่างกับสถานทูตหลังจากคำร้องได้ผ่านกระบวนการแล้ว

สำหรับผู้ที่กำลังรับชมวีดีโอเรื่องนี้ โดยเฉพาะท่านที่เป็นลูกค้าของผมหรือท่านที่จะเป็นลูกค้าในอนาคต ก็อย่าเพิ่งตกใจ สิ่งแรกคือผมเองก็ไม่ได้ปลื้มกับการประกาศของ USCIS เกี่ยวกับระยะเวลาในการดำเนินการพิจารณาคำร้องวีซ่า – คือในประสบการณ์ของผม ส่วนใหญ่แล้วพวกเขาจะออกนอกลู่นอกทางไปมากทีเดียว แต่ผมจะมองเป็นรายๆไป คำร้องแต่ละรายจะเสมือนกับเกล็ดหิมะ ซึ่งมีความแตกต่างกันไป เป็นลักษณะเฉพาะราย และแต่ละรายก็จะมีวิธีการพิจารณาเฉพาะรายนั้นๆ ถ้าไปดูที่ระยะเวลาดำเนินการ มันจะมีประโยชน์อะไรกับคุณ เพราะคุณจะพบว่าบางคำร้องใช้เวลาเร็วมาก และบางคำร้องก็ใช้เวลานานมาก ตามที่นาย Hacking ได้ชี้ให้เห็นว่า อาจจะมีวิธีการบางอย่างที่ไปกระตุ้นเจ้าหน้าที่ให้ใช้เวลาพิจารณาคำร้องของเราเร็วกว่า โดยการใช้หมายศาล (Writ of Mandamus) ซึ่งเราเคยพูดถึงแล้วในช่องรับฟังนี้ อย่างไรก็ตาม ย้อนไปที่จุดเริ่มต้นที่ว่า ผมเองไม่เคยชอบกับการประกาศของ USCIS เกี่ยวกับระยะเวลาในการดำเนินการพิจารณาคำร้องวีซ่า เพราะผมไม่เคยคิดว่ามันจะแม่นยำเท่าไหร่ นอกจากนี้ มันยังจะทำให้ลูกค้าสติแตกอีกด้วย เพราะเขาจะพูดว่า "ในเว็บไซต์เขียนว่ากรณีแบบผมจะใช้เวลา 6 เดือน แล้วตอนนี้ก็ 6 เดือน กับอีก 1 วันแล้ว" มันอาจจะไม่ใช่ทัศนคติเชิงบวกนะ แต่การที่เขาเพียงบอกว่า เวลาโดยประมาณในการดำเนินการจะใช้เวลาเท่ากับ X  มันก็ไม่ได้หมายความว่าจะเป็นอย่างนั้นเสมอไป ที่กล่าวว่า เจ้าหน้าที่อาจจะประเมินมากเกินไปอย่างมโหฬารเลยก็ได้เหมือนกัน ผมว่าการที่ระบุว่าจะใช้เวลา 50 เดือนน่ะ มันเป็นอะไรที่น่าขัน แต่ผมก็คิดเหมือน Mr. Hacking ว่า มันเริ่มจะรู้สึกหงุดหงิด และน่าเบื่อ เมื่อคุณจะต้องมานั่งฟังคำตอบที่ไร้สาระตอนที่เราขอเหตุผลว่าทำไมคำร้องนี้ใช้เวลานาน เพราะเขาก็จะเอาแต่คำตอบเดิมๆมาตอบคือ "หลายอย่างเปลี่ยนแปลงไปโดย Trump" ใช่บางอย่างก็เปลี่ยนแปลงไป แต่ก็มีหลายนโยบายที่ถูกพลิกกลับมาด้วย ผมไม่ได้พูดถึงประเด็นการเมืองนะครับ แต่ด้วยความสัตย์จริง ผมเองก็ไม่ชอบวิธีการทำงานของฝ่ายบริหารชุดที่แล้วที่ผมมองว่าเข้ามาทำงานโดยตั้งใจที่จะปรับเปลี่ยนกระบวนการการเข้าเมืองเพื่อทำให้มันยากขึ้น ผมไม่คิดว่าจะมีใครในกลุ่มหัวรุนแรงที่จะมีปัญหากับผู้เข้าเมืองที่ถูกกฎหมาย นี่พูดแบบการเมืองนะ ไม่มีใครที่จะส่งเสียงอึกทึกครึกโครมให้ยกเลิกการเข้าเมืองอย่างถูกกฎหมาย ปัญหาหลักอยู่ที่การเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมายตะหาก นั่นล่ะตรงประเด็นเลย เพราะฉะนั้นผมไม่เข้าใจว่าทำไมฝ่ายบริหารชุดที่แล้วจึงตัดสินใจที่จะเข้ามาแล้วก็ทำให้เกิดปัญหาความยุ่งยากในระบบ ทำให้ทุกอย่างยุ่งยากมากขึ้น ผมไม่เข้าใจนโยบายแบบนั้น สำหรับผมแล้วมันไม่เป็นเหตุเป็นผลเอาเสียเลย แต่ยังไงก็ตามผมก็ไม่ได้อยู่ในฝ่ายบริหารด้วย พอมาถึงฝ่ายบริหารชุดนี้ก็มีแต่การกล่าวโทษ COVID และฝ่ายบริหารชุดที่แล้ว โดยอ้างว่า "ทุกอย่างต้องใช้เวลา" และอย่างที่ Mr. Hacking เองได้ชี้ให้เห็นว่า 50 เดือนมันยาวกว่าวาระดำรงตำแหน่งของประธานาธิบดีซะอีก 50 เดือนเพื่อทำวีซ่าคู่สมรสเนี่ยนะ ไม่มีเหตุผลเอาเสียเลยที่จะต้องเป็นเช่นนั้น และถ้าพูดกันตามตรง ผมเดาว่าเราคงต้องโทษฝ่ายบริหารชุดที่แล้ว เพราะในอดีตงานคั่งค้างจะเบาบางลงเพราะมีสำนักงานของ USCIS ที่ตั้งอยู่ในประเทศต่างๆที่สามารถจัดการกับบรรดาคำร้องเหล่านี้ได้ ซึ่งตอนนี้สำนักงานเหล่านี้ไม่มีแล้ว ซึ่งก็เป็นผลงานที่ยอดเยี่ยมอีกชิ้นหนึ่ง ไม่มีสำนักงาน USCIS ในต่างประเทศอีกต่อไป อันทำให้กระบวนการทำงานช้าลง ผมต้องยอมรับว่า ในอดีต ผมสามารถที่จะดำเนินการต่อกรณีต่างๆได้ในประเทศไทย ซึ่งก็ใช้เวลาไม่กี่เดือนเอง ในขณะที่ถ้าทำในสหรัฐฯจะต้องใช้เวลามากกว่า 1 ปี แต่เมื่อคุณกลับมาดูเวลาที่เขาคาดการณ์ไว้ในปัจจุบัน คุณก็ต้องกลับมาสงสัยอีกว่า ในความเป็นจริงมันจะใช้เวลานานแค่ไหนกันแน่ แต่ผมก็ยังหวังว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงให้ดีขึ้น

สำหรับงานที่สำนักงานเรา คำร้องที่คั่งค้างก็มีการดำเนินการไปเรื่อยๆ และหลังจากโควิดเราก็เห็นว่าเริ่มลดน้อยถอยลง และคำร้องก็ได้ผ่านสถานทูตไป ซึ่งเราก็เห็นเอง แต่ในขณะที่ทำวีดีโอนี้ ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่า USCIS กำลังทำอะไรอยู่ แต่สำหรับท่านทั้งหลายที่ยังไม่ได้สมรส ผมคิดว่าน่าจะเป็นสิ่งที่ดีที่จะติดต่อกับผู้เชี่ยวชาญทางกฎหมายเพื่อขอความเห็นและคำแนะนำว่าจะดำเนินการต่อไปอย่างไรให้ดีที่สุด เพราะว่าในบางกรณี การที่ยังไม่ได้สมรส อาจจะเป็นผลดีมากกว่าถ้าหากจะนำคู่รักเข้าสหรัฐฯ แต่ก็ต้องดูเป็นกรณีไป สำหรับผู้ที่สมรสแล้ว อาจจะมีทางเลือกอื่นแทนการรอเป็นเวลา 50 เดือนแน่นอน เพราะฉะนั้น จึงเป็นสิ่งที่ไม่เลวร้ายนักที่จะติดต่อผู้เชี่ยวชาญทางกฎหมาย เพื่อขอมุมมองและคำแนะนำที่ดีที่สุดในการปฏิบัติ