For the English transcript of this video, please go to the following link: 

https://www.legal.co.th/resources/visa-immigration-law/us-immigration-law/k-1-k-3-cr-1-and-ir-1-visa-denial-and-i-601-waiver/

วีดีโอเรื่องนี้จะกล่าวถึงวีซ่าครอบครัวหมายถึงวีซ่าคู่หมั้น วีซ่าคู่สมรส (K-1, K-3, CR-1 and IR-1) ซึ่งจะเป็นทั้งวีซ่าคู่สมรสแบบถาวรกับวีซ่าคู่สมรสแบบชั่วคราว หรือวีซ่าคู่หมั้นซึ่งเป็นวีซ่าชั่วคราว และคำถามคือจะเกิดอะไรขึ้น ถ้าวีซ่าประเภทใดประเภทหนึ่งตามที่กล่าวแล้ว ถูกปฏิเสธ อันมีสาเหตุมาจากเหตุผลทางกฎหมายในการไม่อนุญาตให้เข้าประเทศ

ความหมายของการไม่อนุญาตให้เข้าประเทศด้วยเหตุผลทางกฎหมายคืออะไร? คำตอบคือมีการวางแนวทางไว้ในกฎหมายการเข้าเมืองและสัญชาติของสหรัฐฯ เกี่ยวกับเหตุผลทางกฎหมายที่จะไม่อนุญาตให้บุคคลใดบุคคลหนึ่งเข้าประเทศ ซึ่งได้มีการกำหนดประเภทของกิจกรรมบางอย่างไว้ไม่ว่าจะถูกศาลตัดสินว่ามีความผิดทางอาญาด้วยหรือไม่ก็ตาม เพียงแค่มีส่วนร่วมในกิจกรรมบางอย่าง ก็เป็นเหตุเพียงพอที่จะถูกพิจารณาห้ามเข้าสหรัฐฯ เช่นการค้าประเวณี อาชญากรรมที่ละเมิดศีลธรรมอย่างร้ายแรง การอยู่เกินกำหนดอายุวีซ่า หรือการต้องคำพิพากษาลงโทษในเขตอำนาจศาลต่างประเทศเกี่ยวกับอาชญากรรมต่างๆที่กล่าวแล้วข้างต้น รวมทั้งอาชญากรรมเกี่ยวกับยาเสพติด ซึ่งหากจะดูตามกฎหมายปัจจุบันก็จะรวมถึงกัญชาด้วยนะครับ ถ้ามีกรณีใดกรณีหนึ่ง จะถือว่าผู้นั้นถูกห้ามเข้าประเทศ ในขั้นตอนของการสัมภาษณ์วีซ่าถาวรหรือวีซ่าคู่หมั้นหรือวีซ่าคู่สมรสประเภท K-3 ด้วย คำร้องขอทำวีซ่าของผู้นั้นจะถูกปฏิเสธ แล้วจะมีวิธีเยียวยาแก้ไขการถูกห้ามเข้าประเทศได้อย่างไร? วิธีการแก้ไขคือการยื่นคำร้องขอรับการยกเว้นตามแบบฟอร์ม I-601 ดังนั้น จึงมีความเป็นไปได้ที่จะขอยกเว้นการถูกห้ามเข้าประเทศ เพราะการปฏิเสธคำร้องขอวีซ่านั้นเนื่องมาจากพบเหตุของการห้ามเข้าประเทศ ดังนั้นจึงมีความเป็นไปได้ที่เหตุของการห้ามเข้าประเทศที่ถูกพบนั้นจะได้รับการยกเว้น และสามารถได้รับวีซ่าในที่สุด 

กระบวนการขอยกเว้นนี้จะมีขั้นตอนที่ยุ่งยากมากกว่าการเข้าเมืองตามปกติ และถ้าหากใครก็ตามที่เชื่อว่าตัวเองอาจจะมีโอกาสถูกห้ามเข้าประเทศ ผมคิดว่าควรที่จะติดต่อผู้เชี่ยวชาญทางกฎหมายเอาไว้ดีกว่าเพื่อขอมุมมองและคำแนะนำว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไปให้ดีที่สุด แต่ต้องเข้าใจด้วยว่า การดำเนินการตามขั้นตอนทั้งหมดของการขอรับการยกเว้นตามแบบฟอร์ม I-601 จะใช้เวลามากกว่ากระบวนการปกติทั่วไปในการขอวีซ่าเข้าสหรัฐฯ ซึ่งในชีวิตการทำงานด้านทนายความของผม ผมได้ช่วยเหลือในการขอรับการยกเว้นแบบนี้ให้กับลูกค้าของเรามากมายหลายครั้ง ซึ่งก็ยากลำบากพอสมควร เอกสารเกี่ยวกับการยกเว้นนี้จะหนาเกือบจะเท่าสมุดโทรศัพท์ ซึ่งต้องยื่นไปพร้อมกับการขอยกเว้นการห้ามเข้าสหรัฐฯ ในหลายกรณี ข้อโต้แย้งทางกฎหมายจะต้องทำอย่างสุขุมรอบคอบ และบ่อยครั้งที่มีความซับซ้อนมาก ทั้งนี้ก็เพื่อที่จะสามารถเอาชนะการถูกปฏิเสธนั้นได้  

เพราะฉะนั้น สำหรับผู้ที่กำลังดูเรื่องนี้อยู่ ถ้าเชื่อว่าอาจจะมีเหตุที่ทำให้ไม่ได้รับอนุญาตเข้าสหรัฐฯอยู่ในคำร้องของคุณ หรือในกรณีที่ถูกปฏิเสธคำร้องมาแล้วและกำลังหาวิธีการเยียวยาแก้ไข มันอาจจะเป็นความคิดที่ดีที่จะติดต่อผู้เชี่ยวชาญทางกฎหมายเพื่อขอมุมมองและคำแนะนำเรื่องกระบวนการนี้