Integrity Legal - Law Firm in Bangkok | Bangkok Lawyer | Legal Services Thailand Back to
Integrity Legal

Legal Services & Resources 

Up to date legal information pertaining to Thai, American, & International Law.

Contact us: +66 2-266 3698

info@integrity-legal.com

ResourcesVisa & Immigration LawUS Immigration Lawวีซ่า K-1, K-3, CR-1 กับ IR-1, หนังสือรับรองการสนับสนุนทางการเงินและทรัพย์สินที่อยู่ในต่างประเทศ

วีซ่า K-1, K-3, CR-1 กับ IR-1, หนังสือรับรองการสนับสนุนทางการเงินและทรัพย์สินที่อยู่ในต่างประเทศ

For the English transcript of this video, please go to the following link:

https://www.legal.co.th/resources/visa-immigration-law/us-immigration-law/k-1-k-3-cr-1-and-ir-1-visas-affidavit-support-and-overseas-assets/

วีดีโอเรื่องนี้จะกล่าวถึงวีซ่า K-1, K-3, CR-1 กับ IR-1 ทั้งหมดนี้หลักๆแล้วก็จะเป็นวีซ่าประเภทคู่สมรส แม้ว่าวีซ่า K-1 จะเป็นวีซ่าคู่หมั้นก็ตาม แต่ในมุมมองของเจ้าหน้าที่ผู้ทำการวินิจฉัยคำร้องจะมองว่าทั้งหมดนี้คือวีซ่าคู่สมรส เพราะฉะนั้น ในมุมมองของกฎหมาย วีซ่าเหล่านี้จะใช้สำหรับกรณีย้ายถิ่นฐานตามครอบครัว ไม่ว่าจะเป็นญาติใกล้ชิดของคู่สมรสในอนาคต หรือญาติใกล้ชิดของคู่สมรสของพลเมืองอเมริกันก็ตาม นอกจากนั้น วีซ่าประเภท CR-1กับ IR-1 ยังสามารถใช้กับคู่สมรสของผู้อยู่อาศัยถาวรที่ถูกต้องตามกฎหมายในสหรัฐฯได้อีกด้วย

เหตุผลที่ผมทำวีดีโอเรื่องนี้เพราะผมอยากจะพูดถึงเรื่อง หนังสือรับรองการสนับสนุนทางการเงิน และทรัพย์สินที่อยู่ในต่างประเทศ ช่วงนี้มีหลายคนที่ถามผมหรือบอกผมว่า "ผมมีเงินฝากจำนวน X ทำไมถึงไม่นำมาใส่ลงในหนังสือรับรองการสนับสนุนทางการเงิน?" หรือ ทำไมไม่ได้รับการพิจารณา ซึ่งบ่อยครั้งเราจะนำตัวเลขนี้ใส่ลงไป เพราะลูกค้ายืนยันว่าต้องการให้ใส่ลงไป แม้ว่าผมจะบอกเขาแล้วก็ตามว่ารัฐบาลกลางสหรัฐฯจะสนใจเกี่ยวกับทรัพย์สินที่มีอยู่ในสหรัฐฯเป็นหลัก เพราะถึงที่สุดแล้ว หนังสือรับรองการสนับสนุนทางการเงิน หรือแบบฟอร์ม I-864 ที่ใช้กับวีซ่าคู่สมรส หรือจะใช้กับวีซ่าคู่หมั้นในขั้นตอนต่อมาในการยื่นเรื่องขอปรับสถานะ หนังสือรับรองการสนับสนุนทางการเงินฉบับนี้ ถูกออกแบบมาให้มีหน้าที่ในการสร้างระเบียบวิธีการที่ รัฐบาลสหรัฐฯจะสามารถเรียกเงินคืนได้ ในกรณีที่รัฐบาลต้องจ่ายเงินช่วยเหลือ หรืออาจจะเรียกว่าเงินสวัสดิการออกไป ในรูปแบบของผลประโยชน์ที่จะได้รับจากการทดสอบค่าเฉลี่ยของรายได้ ใครก็ตามที่อยู่ในโปรแกรม SNAP หรือการสงเคราะห์ต่อครอบครัวที่มีเด็กในอุปการะ ซึ่งผมว่าตอนนี้คงหมดไปแล้ว หรือจะเปลี่ยนชื่อใหม่ก็ตาม ที่เรียกกันว่าการสวัสดิการหรืออะไรก็ตาม มันคือผลประโยชน์ที่จะได้รับจากการทดสอบค่าเฉลี่ยของรายได้ ถ้าใครที่เคยได้รับการอุปการะจากหนังสือรับรองการสนับสนุนทางการเงินแล้วเข้าสู่ระบบผลประโยชน์ที่จะได้รับจากการทดสอบค่าเฉลี่ยของรายได้ ทางรัฐบาลสามารถเรียกให้ผู้ที่ให้การรับรองนั้นจ่ายเงินชดใช้ตามที่รัฐบาลได้จ่ายไป ดังนั้น รัฐบาลจึงต้องมั่นใจได้ว่ามีทรัพย์สินอยู่จริงตามหนังสือรับรองการสนับสนุนทางการเงินเหล่านั้น ซึ่งรัฐมีสิทธิตามกฎหมายเหนือทรัพย์สินเหล่านั้นหรือสามารถยึดมาเป็นของรัฐได้ ถ้าหากจำเป็น ทั้งนี้ เพื่อที่รัฐจะได้รับเงินคืนมา ในกรณีที่รัฐได้จ่ายสิ่งที่เรียกว่าสวัสดิการออกไป

เพราะฉะนั้น สิ่งที่ต้องเข้าใจเมื่อคุณกำลังเข้าไปเกี่ยวข้องกับหนังสือรับรองการสนับสนุนทางการเงิน ก่อนที่วีซ่าจะออกด้วยซ้ำ คือผู้ที่ทำการวินิจฉัยคำร้องเขาจะไม่สนใจเลยว่าคุณจะร่ำรวยมั่งคั่งแค่ไหนนอกสหรัฐฯ แต่จะสนใจความมั่งคั่งที่คุณมีอยู่ในสหรัฐฯ เพื่อที่เขาจะได้นำมาชดเชยต่อการที่รัฐอาจจะต้องจ่ายสวัสดิการออกไปในอนาคต นั่นคือจุดประสงค์ของการทำหนังสือรับรองการสนับสนุนทางการเงิน นั่นคือเหตุผลว่าทำไมคุณถึงต้องลงนามในข้อตกลงการให้การสนับสนุน สำหรับวีซ่า K-1 จะแตกต่างออกไปเพราะหนังสือรับรองการสนับสนุนทางการเงิน สำหรับวีซ่า K-1 จะใช้ในขั้นตอนของการยื่นเรื่องขอปรับสถานะ แต่ถึงอย่างไรก็ตาม ในที่สุดแล้วผู้ที่ทำการวินิจฉัยคำร้องก็ยังคงต้องการดูอยู่ดีว่าคุณมีทรัพย์สินอะไรบ้างที่อยู่ในสหรัฐฯ ที่พอจะนำมาจ่ายชดเชยต่อการที่รัฐต้องจ่ายเงินช่วยเหลือเป็นค่าเลี้ยงดูที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต