Integrity Legal - Law Firm in Bangkok | Bangkok Lawyer | Legal Services Thailand Back to
Integrity Legal

Legal Services & Resources 

Up to date legal information pertaining to Thai, American, & International Law.

Contact us: +66 2-266 3698

info@integrity-legal.com

ResourcesVisa & Immigration LawUS Immigration Lawวีซ่า K-1, K-3, CR-1 และ IR-1: อย่าเพิ่งวางแผนอะไรถ้าหากยังไม่ได้รับวีซ่าตัวจริง

วีซ่า K-1, K-3, CR-1 และ IR-1: อย่าเพิ่งวางแผนอะไรถ้าหากยังไม่ได้รับวีซ่าตัวจริง

For the English transcript of this video, please go to the following link: 

https://www.legal.co.th/resources/visa-immigration-law/us-immigration-law/k-1-k-3-cr-1-ir-1-visas-never-make-plans-without-issued-visa/

วันนี้จะพูดถึงวีซ่าประเภทครอบครัวเป็นหลัก ซึ่งก็คือ วีซ่า K-1 สำหรับคู่หมั้น และวีซ่า K-3 ซึ่งเป็นวีซ่าชั่วคราวสำหรับคู่สมรส รวมทั้งวีซ่าถาวรสำหรับคู่สมรสคือวีซ่า CR-1 หรือวีซ่า IR-1 ซึ่งผมไม่ได้พูดถึงหัวข้อเหล่านี้มานานแล้ว ผมคิดว่าถึงเวลาที่จะต้องทำวีดีโอเสียที เพราะผมเห็นมีเรื่องปรากฎตาม forum ต่างๆที่มีผู้คนพูดคุยในประเด็นนี้ ซึ่งความจริงก็คืออย่าวางแผนเดินทางประเภทที่เปลี่ยนแปลงไม่ได้จนกว่าจะมีวีซ่าอยู่ในมือ 

ผมได้พบกับลูกค้าหลายท่านตลอดเวลาหลายปีที่ผ่านมา และผมแทบจะส่งข้อมูลนี้ออกไปเมื่อมีคนถามผมว่า "วันนัดสัมภาษณ์จะเป็นวันไหน?" หรือ "เราได้รับวันนัดสัมภาษณ์มาแล้ว คุณคิดว่าเราจะสามารถเดินทางในวันนี้ได้หรือไม่?" ซึ่งผมมักจะตอบทุกครั้งว่า "อย่าวางแผนการเดินทางประเภทที่เปลี่ยนแปลงไม่ได้จนกว่าจะมีวีซ่าอยู่ในมือ" คือถ้ายังไม่ได้รับวีซ่า ก็ไม่ควรจะวางแผนทำอะไรเลย ซึ่งสถานทูตเองก็จะบอกเช่นนี้เหมือนกัน ไม่ใช่เพียงเพราะว่าใกล้จะถึงวันสัมภาษณ์ หรือเพียงเพราะว่าคุณมีความมั่นใจในคำร้องของคุณ เพราะผมเองก็มีความมั่นใจสูงมากในหลายๆเคสที่ผมรับทำ ถึงกระนั้นก็ตาม ก็ยังอาจจะได้รับ 221g คือการที่สถานทูตขอเอกสารเพิ่มเติม หรืออาจจะมีประเด็นเกี่ยวกับใบรับรองสถานะทางการเงิน มันเป็นอะไรที่ผมคิดว่ามันไม่คุ้มค่ากับการที่ต้องอารมณ์เสียเลย แต่ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม เจ้าหน้าที่ที่พิจารณาคำร้องก็ต้องการที่จะดูเอกสารชิ้นนั้นอยู่ดี ไม่ว่ามันจะเป็นอะไรก็ตาม และนั่นจะทำให้การพิจารณาคำร้องล่าช้าออกไปอีก

เพราะฉะนั้น สิ่งที่จะต้องทราบจากวีดีโอเรื่องนี้คือ ต้องเข้าใจว่า จนกว่าจะมีวีซ่าอยู่ในมือเท่านั้นถึงจะทำอะไรต่อไปได้ มันเป็นสิ่งที่ไม่ค่อยจะรอบคอบนักที่จะวางแผนเรื่องการเดินทาง เพราะมีหลายอย่างที่สามารถเกิดขึ้นได้ อย่างที่พูดกันว่า "ไม่ว่าจะวางแผนอย่างรอบคอบเพียงใดก็ตาม ก็ยังมีโอกาสที่จะผิดพลาดได้” ทุกอย่างสามารถเกิดขึ้นได้ทั้งนั้นตั้งแต่ขั้นเริ่มต้นในกระบวนการยื่นคำร้อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการยื่นขอวีซ่าประเภทครอบครัว รวมทั้งขั้นตอนในการนำส่งไปที่สถานทูต จนถึงขั้นตอนสุดท้ายที่วีซ่าจะได้รับอนุมัติ หลายๆอย่างสามารถเกิดขึ้นได้ทั้งนั้น  ผมจึงขอพูดย้ำอีกครั้งหนึ่งว่า เป็นความคิดที่ดีที่จะไม่วางแผนการเดินทางประเภทที่ไม่สามารถยกเลิกได้จนกว่าจะมีวีซ่าจะอยู่ในมือแล้ว