Integrity Legal - Law Firm in Bangkok | Bangkok Lawyer | Legal Services Thailand Back to
Integrity Legal

Legal Services & Resources 

Up to date legal information pertaining to Thai, American, & International Law.

Contact us: +66 2-266 3698

[email protected]

ResourcesVisa & Immigration LawUS Immigration Lawวีซ่า K-1 จากประเทศไทย: การยกเลิกกฎเกี่ยวกับการตรวจอัตลักษณ์

วีซ่า K-1 จากประเทศไทย: การยกเลิกกฎเกี่ยวกับการตรวจอัตลักษณ์

For the English transcript of this video please go to the following link:

https://www.legal.co.th/resources/visa-immigration-law/us-immigration-law/k-1-visas-thailand-biometrics-rule-rescinded/

วีดีโอเรื่องนี้จะกล่าวถึงวีซ่า K-1 (ประเภทคู่หมั้น) ที่ยืนคำร้องในประเทศไทยแต่ในความเป็นจริงใช้ได้กับทุกสถานทูตแต่ผมคุยในบริบทของประเทศไทยเพราะสำนักงานตั้งอยู่ในประเทศไทยและคำร้องจะยื่นในประเทศไทย

กฎเกี่ยวกับอัตลักษณ์คือกฎที่ได้จัดตั้งขึ้นมาภายใต้ฝ่ายบริหารชุดเดิมและฝ่ายบริหารชุดปัจจุบันกำลังจะยกเลิกกฎนี้ ได้มีการประกาศจากกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิชื่อว่า: กระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิได้ถอดถอนกฎเกี่ยวกับอัตลักษณ์ ความว่า: "กระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิได้ถอดถอนกฎที่จะทำให้อำนาจของกระทรวงเกี่ยวกับการเก็บอัตลักษณ์ด้วยการยกเลิกการจำกัดอายุที่จะต้องมีการยึดอัตลักษณ์สำหรับผู้ยื่นคำร้องหรือผู้สนับสนุนหรือผู้รับผลประโยชน์หรือผู้อื่นที่กำลังจะขอสิทธิทางการเข้าเมืองหรือการโอนสัญชาติยกเว้นกรณีที่กระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิยกเลิกความต้องการอัตลักษณ์เพื่อใช้ผล DNA และออกคำสั่งให้ใช้อัตลักษณ์ประเภทอื่น"

สรุปได้ว่า ฝ่ายบริหารชุดที่แล้วได้มีการตั้งกฎเกณฑ์ที่สร้างความลำบากกับผู้ยื่นคำร้องโดยกล่าวว่าจะรวมถึง "การเข้าเมืองหรือสิทธิประโยชน์ในการโอนสัญชาติ" ต้องการตรวจอัตลักษณ์ต่างๆเช่นการสแกนดวงตา ลายนิ้วมือ รูปลักษณ์ของหน้า อาจจะมีความจำเป็นที่จะต้องใช้กับผู้ที่จะย้ายเข้าสหรัฐฯซึ่งจะขึ้นอยู่กับสิทธิประโยชน์ที่กำลังจะขอ เช่นถ้าหากยื่นคำร้องเพื่อขอกลับเข้าประเทศโดยใช้ I-131 ใบอนุญาตกลับเข้าเมือง อาจจะต้องมีการตรวจอัตลักษณ์เพราะต้องการที่จะบันทึกอัตลักษณ์เหล่านั้นไว้จะได้รู้ว่าใครกำลังเข้าออกจากประเทศ แต่วิธีการนี้จะยุ่งยากเพราะผู้ยื่นคำร้องจะต้องเริ่มให้ข้อมูลเกี่ยวกับอัตลักษณ์ของตัวเอง เช่นผู้ยื่นคําร้องขอวีซ่า K-1 จะต้องทำการสแกนนิ้วมือ สแกนดวงตาเพื่อที่จะนำคู่หมั้นชาวต่างชาติเข้าสหรัฐฯ ซึ่งเมื่อถึงกระบวนการปรับสถานะก็อาจจะต้องทำเช่นนั้น ในความหมายคือ ถ้ายื่นคำร้อง I-864 เพื่อแสดงความสามารถในการเลี้ยงดู จะต้องมีการตรวจอัตลักษณ์สำหรับผู้ที่สนับสนุนคู่หมั้น เช่นในกรณีที่เป็นคู่สมรสหรือคู่หมั้นที่อายุยังน้อยและไม่สามารถที่จะสนับสนุนผู้ยื่นคำร้องเอง อาจจะมีคุณพ่อคุณแม่มาสนับสนุนร่วมกันโดยเฉพาะภายใต้ฝ่ายบริหารชุดเดิมที่ได้ตั้งเพดานเกี่ยวกับฐานะการเงินที่สูงมากและจะต้องสแกนดวงตาเพื่อที่จะมาใช้อัตลักษณ์ในการออกเอกสาร I-864 เพื่อแสดงการเลี้ยงดูซึ่งสำหรับผม ผมคิดว่าเป็นการขอข้อมูลมากเกินไป

แต่ภายใต้ฝ่ายบริหารชุดปัจจุบัน ดูเหมือนกฎเกณฑ์นี้จะถูกผ่อนผันลงเพราะมีการเปลี่ยนแปลงนโยบาย ซึ่งในความเป็นจริงผมเข้าใจเรื่องปัญหาของการรักษาความปลอดภัยแต่สำหรับฝ่ายบริหารชุดเดิม การขอหลักฐานเรื่องอัตลักษณ์ผมมองว่าเป็นการทำเกินขอบเขตโดยเฉพาะกับพลเมืองที่เป็นชาวอเมริกันที่เป็นผู้ยื่นคำร้อง และผมคิดว่าถ้าหากมีการของอัตลักษณ์มากเกินไปอาจจะมีการฟ้องร้องในศาลได้ แต่คงจะใช้เวลานานและในความคิดของผม ผมคิดว่าจะมีผลกระทบในทางลบสำหรับผู้ที่ต้องการที่จะพาครอบครัวเข้าสหรัฐฯเพื่อไปใช้ชีวิตร่วมกัน