Integrity Legal - Law Firm in Bangkok | Bangkok Lawyer | Legal Services Thailand Back to
Integrity Legal

Legal Services & Resources 

Up to date legal information pertaining to Thai, American, & International Law.

Contact us: +66 2-266 3698

[email protected]

ResourcesVisa & Immigration LawUS Immigration Lawวีซ่า K-3, CR-1 และ IR-1 (ประเภทคู่สมรส) จากประเทศไทย: ผลกระทบเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับกฎการขอรับสวัสดิการจากรัฐ

วีซ่า K-3, CR-1 และ IR-1 (ประเภทคู่สมรส) จากประเทศไทย: ผลกระทบเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับกฎการขอรับสวัสดิการจากรัฐ

For the English transcript of this video please go to the following link:

https://www.legal.co.th/resources/visa-immigration-law/us-immigration-law/k-3-cr-1-ir-1-visas-thailand-impact-public-charge-rule-changes/

วีดีโอเรื่องนี้จะกล่าวถึงกฎการขอรับสวัสดิการจากรัฐ ในบริบทที่เกี่ยวกับวีซ่า K-3, CR-1 และ IR-1 ที่ยื่นคำร้องผ่านสถานฑูตในประเทศไทย

สำหรับผู้ที่ยังไม่ทราบ ซึ่งผมได้ทำวิดีโออีกม้วนหนึ่งไว้แล้ว ปธน. Trump ได้เปลี่ยน หรือพยายามที่จะเปลี่ยนแปลงแก้ไข กฎ public charge โดยพื้นฐานก็คือ ระเบียบวิธีการวินิจฉัยหลักฐานทางการเงินของผู้ยื่นขอวีซ่า K-1 ประเภทคู่หมั้น มีเรื่องราวที่เกี่ยวข้องมากมาย แต่กล่าวโดยสรุปคือ ในสมัยรัฐบาลไบเดน ได้มีการย้อนกลับกฎระเบียบดังกล่าวทั้งหมด ดังนั้นเราจึงกลับไปสู่สถานะเดิมก่อนหน้านั้น อย่างที่ผมเคยตั้งข้อสังเกตุไว้ในช่องรับฟังช่องอื่นว่าเมื่อกฎระเบียบเหล่านี้เปลี่ยนแปลงไป แล้วมีการเพิกถอนตามมา บางทีก็จะมีอะไรค้างคาอยู่ ซึ่งเราก็ต้องติดตามดูว่าจริงๆแล้วมันจะเป็นยังไงต่อไป 

ผมได้รับคำถามเกี่ยวกับเรื่องนี้จำนวนหนึ่งในบริบทของขั้นตอนดำเนินการของกงสุลเมื่อเปรียบเทียบกับขั้นตอนการดำเนินการในสหรัฐฯ  อย่างเช่นการขอปรับสถานะ เป็นต้น นี่คือหนังสือจาก travel.state.gov, ลงวันที่ 7 สิงหาคม 2020 เรื่องความคืบหน้าเกี่ยวกับ กฎการขอรับสวัสดิการจากรัฐ ความว่า: "ในวันพุธที่ 29 กรกฎาคม ศาลแขวงของรัฐนิวยอร์คตอนใต้ ได้สั่ง กระทรวงการต่างประเทศว่า "ห้ามการบังคับใช้ หรือนำมาใช้ประโยชน์ หรือปฏิบัติตาม หรือปฏิบัติเสมือนว่ามีผลบังคับใช้ ซึ่งกฎชั่วคราวของกระทรวงการต่างประเทศ รวมถึงคำแนะนำ ที่ปรากฎในคู่มือของกระทรวงการต่างประเทศ ที่เกี่ยวกับเหตุผลในการปฏิเสธวีซ่าอันเนื่องจากกฎการขอรับสวัสดิการจากรัฐ ที่มีผลตั้งแต่ตุลาคม 2019"  ในเวลานี้ ทางกระทรวงการต่างประเทศ ได้ปฏิบัติตามคำสั่งศาล และอยู่ระหว่างการปรับปรุงแก้ไขคำแนะนำสำหรับเจ้าหน้าที่กงศุล ว่าจะปฏิบัติอย่างไรภายใต้คำสั่งห้ามเบื้องต้นนั้น ในช่วงระยะเวลาชั่วคราวนี้ คำร้องขอวีซ่าที่ปรากฏว่าจะถูกปฏิเสธภายใต้ กฎINA 212(A)4 จะไม่ถูกนำเข้าพิจารณาตามขั้นตอน เพื่ออนุญาตให้มีการหารือระหว่างกระทรวงการต่างประเทศกับฝ่ายกฎหมาย เพื่อที่จะได้มั่นใจว่าไม่ขัดต่อคำสั่งศาล ผู้ยื่นคำร้องขอวีซ่า ไม่ต้องทำอะไรนอกจากรอเรียกสัมภาษณ์ตามตารางนัดหมาย” และที่สำคัญคือ “ผู้ที่ยื่นคำร้องขอวีซ่า ไม่ต้องยื่นแบบสอบถาม DS-5540 เกี่ยวกับกฎการขอรับสวัสดิการจากรัฐ”

ทั้งหมดนี่หมายความว่ายังไง? นี่เป็นการย้อนกลับไปในเดือนสิงหาคม คือมีคำสังห้าม และกระทรวงการต่างประเทศก็บอกว่า "เอาละ เราจะเพิกเฉยต่อระเบียบ เพราะศาลสั่งมาอย่างนั้น” เราเพิ่งได้รับคำสั่งฝ่ายบริหารเมื่อไม่นานมานี้ โดยกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ ได้ประกาศว่า จะไม่ออกมาดำเนินการปกป้องกฎ Public Charge ที่ทำขึ้นมาในสมัยของ Trump ดังนั้น ก็คงจะสันนิษฐานได้ว่า เรื่องนี้คงจะ “ตายคาที่” ไปเลย ยังไงเสียกระทรวงการต่างประเทศก็เฉยเมยต่อเรื่องนี้มาตั้งแต่ สิงหาคมอยู่แล้ว ดังนั้น อย่างน้อยที่สุดในทางปฏิบัติ ผมไม่คิดว่าเรื่องนี้จะมีผลกระทบใหญ่ๆต่อวีซ่า K-1 ที่จะทำกันต่อไปแต่อย่างใด