Legal Services & Resources
Up to date legal information pertaining to Thai, American, & International Law.
Contact us: +66 2-266 3698
วีซ่า K-3 ที่ยื่นคำร้องในประเทศไทย: เรื่อง: กระบวนการเกี่ยวกับศูนย์วีซ่าแห่งชาติและการปฏิเสธโดย 221g
For the English transcript of this video please go to the following link:
วีดีโอเรื่องนี้จะกล่าวถึงศูนย์วีซ่าแห่งชาติและเอกสารการปฏิเสธประเภท 221g ซึ่งผมเคยทำวีดีโอหลายเรื่องเกี่ยวกับการปฏิเสธประเภท 221g เกี่ยวกับวีซ่า K-1 และ IR-1 กับ CR-1.
สำหรับวีดีโอเรื่องนี้ การปฏิเสธประเภท 221g คือการปฏิเสธเพื่อรอเอกสารเพิ่มเติม ซึ่งการปฏิเสธประเภทนี้ จะเกิดหลังจากที่ได้ผ่านการผ่านการสัมภาษณ์ที่สถานทูตหรือกงสุลในต่างประเทศแล้ว แต่สำหรับวีดีโอเรื่องนี้ ผมจะกล่าวเฉพาะในบริบทที่เกี่ยวกับสถานทูตสหรัฐฯในประเทศไทยแต่ทุกประเทศในภูมิภาคนี้จะคล้ายๆกัน
โดยสรุปคือ เอกสารประเภท 221g เฉพาะในวีซ่าจำพวก K อาจจะเจอการปฏิเสธประเภทนี้บ่อยกว่าวีซ่าประเภทอื่นเพราะทางศูนย์วีซ่าแห่งชาติจะเป็นผู้ดำเนินการเอง ซึ่งแตกต่างกับวีซ่าประเภทอื่น ซึ่งผมทราบดีว่าผู้ที่ทำงานด้านกฎหมายการเข้าเมืองที่สหรัฐฯจะกังวลถ้าได้รับเอกสารประเภทนี้ แต่สำหรับผม เนื่องจากสถานทูตและสำนักงานอยู่ห่างกันไม่มาก จึงจัดการได้ง่ายกว่าทนายที่มีสำนักงานที่ตั้งอยู่ในต่างประเทศแต่สถานทูตอยู่ในกรุงเทพฯ ผมเข้าใจปัญหาของทนายเหล่านั้น และสำหรับผม ผมเข้าใจว่า บุคลากรในสถานฑูดที่กรุงเทพฯ จะจัดการกับเอกสารประเภทนี้ได้อย่างคล่องแคล่วมาก
ถึงแม้เราจะเห็นเอกสารประเภท 221g เมื่อมีการยื่นคำร้องประเภท K แต่ถ้าหากเป็นวีซ่า K-3 บางครั้งอาจจะได้เจอว่า คำร้องได้ปิดขั้นตอน ซึ่งจะเกิดได้เมื่อวีซ่าคู่สมรสสามารถที่จะผ่านกระบวนการได้ก่อนอย่างเรียบร้อย อย่างไรก็ตาม หลังจากเกิด COVID เราจะเห็นว่ามีการขอวีซ่า K-3 มากกว่าเดิมแต่ไม่บ่อยเท่ากับ K-1 จึงเห็นว่ามีการปฏิเสธประเภท 221g น้อยกว่า
เหตุผลที่ทำวีดีโอเรื่องนี้คือ ผู้ยื่นคำร้องประเภท K-3 อาจจะได้รับ 221g เฉพาะในคำร้องที่ไม่ได้รับการปิดลง ซึ่งอาจจะเป็นเพราะศูนย์วีซ่าแห่งชาติทำหน้าที่เป็นเพียงคล้ายไปรษณีย์กลาง ซึ่งทำการส่งคำร้องต่อไปที่สถานทูต ซึ่งต่างกับกระบวนการที่ต้องผ่านศูนย์วีซ่าแห่งชาติซึ่งจะเกิดขึ้นเมื่อเป็นวีซ่าคู่สมรส เพราะศูนย์วีซ่าแห่งชาติ จะทำการพิจารณาวีซ่าคู่สมรสทั้งหมดและบางครั้งอาจจะมีการตรวจสอบล่วงหน้า ซึ่งผมมองว่าไม่สมควรแต่บางครั้งจะมีการตรวจก่อนที่จะส่งไปที่สถานทูตหรือสถานกงสุลในต่างประเทศ