Integrity Legal - Law Firm in Bangkok | Bangkok Lawyer | Legal Services Thailand Back to
Integrity Legal

Legal Services & Resources 

Up to date legal information pertaining to Thai, American, & International Law.

Contact us: +66 2-266 3698

info@integrity-legal.com

ResourcesVisa & Immigration LawUS Immigration Lawสำนักงานศุลกากรและป้องกันชายแดนสหรัฐฯ ควรที่จะทบทวนการบังคับใช้ระเบียบวิธีการปฏิบัติ ที่จุดตรวจตามสนามบินหรือไม่?

สำนักงานศุลกากรและป้องกันชายแดนสหรัฐฯ ควรที่จะทบทวนการบังคับใช้ระเบียบวิธีการปฏิบัติ ที่จุดตรวจตามสนามบินหรือไม่?

For the English transcript of this video, please go to the following link:

https://www.legal.co.th/resources/visa-immigration-law/us-immigration-law/should-uscbp-rethink-enforcement-protocols-airport-checkpoints/

ในช่วงหลังนี้มีคนสอบถามเข้ามาเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะลูกค้าและมีการรายงานจากลูกค้า ที่บอกผมว่ามีปฏิสัมพันธ์แบบแปลกๆกับหน่วย CBP ซึ่งหมายถึง สำนักงานศุลกากรและป้องกันชายแดนสหรัฐฯ  (USCBP) 

ที่ผมใช้คำว่า “แปลกๆ” เพราะยกตัวอย่างเช่น ผู้ที่เดินทางเข้าออกสหรัฐฯโดยใช้วีซ่าท่องเที่ยว และไม่เคยอยู่เกินอายุวีซ่า แต่ก็ต้องยอมรับว่าช่วง COVID ก็อาจจะอยู่เกินเวลาไประยะหนึ่ง แต่เมื่อเดินทางออกแล้วกลับเข้ามาใหม่ ก็จะเจอปัญหายุ่งยากทันที และนอกจากนี้ ผมก็ยังมีลูกค้าหลายคนที่ถูกตรวจสอบอย่างเข้มงวดมากยิ่งขึ้นเกี่ยวกับระยะเวลาที่ออกไปอาศัยอยู่นอกประเทศสหรัฐฯในขณะที่ยังถือกรีนคาร์ดอยู่ คือ ทำให้เจ้าหน้าที่ตั้งข้อสันนิษฐานว่าอาจจะละทิ้งถิ่นที่อยู่ในสหรัฐฯไป ผมเห็นสิ่งเหล่านี้อยู่ในลำดับต้นๆของการเข้าไปดูรายละเอียดการเดินทางของบุคคลเหล่านั้น ซึ่งพวกเขาก็ไม่ได้อยู่เกินกำหนดวีซ่า และใช้วีซ่านักท่องเที่ยวอย่างถูกต้องมาตลอด จริงอยู่ อาจจะมีการเดินทางเข้าสหรัฐฯและอยู่นานหน่อยในช่วงหลังนี้ แต่ในความคิดของผม ผมมองว่านี่เป็นการผลักดันให้เข้าสู่ระบบการทำงานภาครัฐที่จะถือสิทธิ์ในการเพิ่มการตรวจเข้มทั้งๆที่ทุกอย่างก็อยู่ภายในกรอบของกฎหมายอยู่แล้ว 

เพราะฉะนั้น ถ้าหากกฎหมายบอกว่าคุณเข้าประเทศด้วยวีซ่านักท่องเที่ยวซึ่งสามารถพำนักอยู่ได้เพียง 6 เดือน แต่คุณใช้ไปแล้ว 4 เดือนครึ่งในการเดินทาง 1 ครั้ง และคุณรอไปอีกหลายเดือนและคุณกลับเข้ามาใหม่และอยู่อีก 4 เดือน จำนวนเดือนก็จะเพิ่ม ซึ่งตรงนี้ผมเห็นเลยว่าสำนักงานศุลกากรและป้องกันชายแดนสหรัฐฯ อาจจะกังวลว่าบุคคลผู้นั้นพยายามที่จะใช้วีซ่านักท่องเที่ยวเพื่ออาศัยอยู่ในสหรัฐฯ แต่สิ่งที่ผมพูดมันลึกไปกว่านั้น ผมเพิ่งสังเกตุเห็นว่า ยิ่งเราพยายามหาทางแก้ปัญหาให้ลูกค้ามากเท่าใด เราก็จะพบหนทางแก้ปัญหาที่ถูกกฎหมาย และหลังจากนั้นมันก็เกือบจะเหมือนว่าตัวระบบเองต้องการที่จะค่อยๆพัฒนาไปสู่การไม่ให้ใช้วิธีแก้ปัญหานั้นต่อไปในอนาคต ทั้งนี้ไม่ว่าจะเป็น ตม.สหรัฐฯหรือ ตม.ไทยก็ตาม ซึ่งตรงนี้คือจุดที่ผมไม่เข้าใจ และเป็นจุดที่ผมจะต้องพูดว่า สำนักงานศุลกากรและป้องกันชายแดนสหรัฐฯ ควรที่จะกลับมาดูว่าจะทำอะไรกับระเบียบวิธีการเข้าประเทศได้บ้าง เพราะมีผู้คนมากมายที่ไม่ได้ต้องการจะละเมิดหรือหลบเลี่ยงกฎหมายการเดินทางเข้าสหรัฐฯ แต่กลับต้องเจอปัญหายุ่งยากมากมายที่สำนักงานศุลกากรและป้องกันชายแดนสหรัฐฯ นอกจากนั้น ผมต้องขอพูดตรงๆและผมไม่ได้เป็นคนพวกที่ชอบหาเรื่องกับหน่วยตรวจคนเข้าเมือง แต่เรามีชายแดนทางใต้ที่เปิดอ้าซ่ามากและใครต่อใครก็สามารถที่จะทำอะไรก็ได้ตามใจชอบในพื้นที่บริเวณนั้น แต่ในขณะเดียวกัน กลับมาจุกจิกจู้จี้กับคนที่พยายามอย่างเต็มที่ที่จะทำตามกฎหมายของสหรัฐฯ มันดูเหมือนกับว่าเป็นอะไรที่ไม่มีเหตุไม่มีผลเอาเสียเลยจริงๆ