For the English transcript of this video please go to the following link:

https://www.legal.co.th/resources/visa-immigration-law/us-immigration-law/us-visas-trump-public-charge-rule-effectively-rescinded/

วีดีโอเรื่องนี้จะกล่าวถึงกระบวนการเข้าเมืองของสหรัฐฯ เฉพาะในบริบทที่เกี่ยวกับกฎการขอรับสวัสดิการจากรัฐของประธานาธิบดี Trump.

สำหรับผู้ที่ไม่ค่อยได้รับฟังช่องนี้ กฎการรับสวัสดิการจากรัฐคือกฎที่เกี่ยวกับความสามารถทางการเงินที่จะเลี้ยงดูคนต่างด้าว ซึ่งในบริบทของช่องนี้ จะกล่าวในบริบทของวีซ่า K-1 สำหรับผู้ที่เป็นคู่หมั้นของพลเมืองอเมริกันหรือวีซ่าคู่สมรสของพลเมืองอเมริกันหรือผู้อยู่อาศัยถาวรที่ถูกต้องตามกฎหมาย ความจริงแล้วกฎการรับสวัสดิการจากรัฐ ได้ระบุว่าผู้ที่จะเลี้ยงดูพลเมืองต่างด้าวจะต้องมีรายได้สูงกว่าฐานะยากจน (federal poverty guidelines) ของรัฐถึง 125% โดยคำนึงถึงขนาดของครอบครัวนั้นๆ แต่ Trump ได้เปลี่ยนตัวเลขให้สูงขึ้นโดยจัดว่ารายได้ต้องสูงกว่าเดิมเยอะ และยังมีการเพิ่มคำร้องอีกด้วย รวมถึงคำร้องที่เรียกว่า DS-5540 และจะต้องมีการวิเคราะห์คำร้องเหล่านี้ของผู้ที่กำลังจะเดินทางไปอาศัยอยู่ที่สหรัฐฯ

ส่วนในแง่ของการดำเนินงานของฝ่ายกงสุล ทางสำนักงานไม่ได้เจอปัญหาเกี่ยวกับประเด็นนี้เนื่องจากเกิดเหตุโรคระบาด COVID เสียก่อน ซึ่งทำให้ขั้นตอนทั้งหมดหยุดชะงักเป็นเวลา 1 ปีจึงไม่มีคำร้องผ่านกระบวนการเลย เมื่อฝ่ายบริหารของ Biden ยกเลิกกฎนี้ด้วยคำกล่าว โดยฝ่ายประชาสัมพันธ์ของกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ ชื่อว่า:คำกล่าวของรัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิเกี่ยวกับกฎการขอรับการเลี้ยงดูโดยรัฐ ค.ศ. 2019 ความว่า: "วันนี้รัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ นาย Alejandro N. Mayorkas ได้ประกาศว่า รัฐบาลจะไม่ปกป้องกฎขอรับสวัสดิการจากรัฐฉบับปี 2019 เพราะไม่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณชนและเป็นการใช้ทรัพยากรของรัฐบาลอย่างไม่มีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ กฎการขอรับสวัสดิการจากรัฐฉบับนี้ ไม่เข้าข่ายของค่านิยมของชาติด้วย ซึ่งผมเคยเล่าแล้วว่าศาลได้ออกคำสั่งห้ามและฝ่ายบริหารชุดเดิมมีการขึ้นศาลเพื่อร้องเรียน แต่ฝ่ายบริหารชุดปัจจุบันได้กล่าวไว้ว่าเรื่องนี้ไม่สำคัญและจะกลับไปใช้กฎการขอรับสวัสดิการจากรัฐฉบับเดิมที่ได้ใช้ก่อนสมัยประธานาธิบดี Trump

สิ่งที่จะต้องอธิบายคือ ขั้นตอนบางอย่าง โดยเฉพาะในแง่ของฝ่ายกงสุลที่ทำงานในต่างประเทศ อาจจะมีรายละเอียด มากกว่านี้ เช่น อาจจะมีคำร้องบางชุดที่มีการเพิ่มเติมเข้ามาแต่ ก็อาจจะถูกมองผ่านไป ตามคำสั่งของกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งผมกำลังจะทำวีดีโออีกม้วนหนึ่งเกี่ยวกับประเด็นนี้ ดังนั้น อาจมีผลกระทบบางอย่างที่เกิดจากฝ่ายบริหารชุดที่แล้ว ซึ่งมีผู้ที่ออกประกาศใน YouTube และทนายที่เกี่ยวกับการเข้าเมืองผู้อื่นได้ชี้ให้เห็นว่า มีบางคนที่เห็นด้วยกับฝ่ายบริหารชุดเดิม ที่อาจจะพยายามที่จะใช้กฎเดิมต่อไป ซึ่งอาจจะต้องใช้เวลาหลายเดือนก่อนที่จะมีการเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ชัด

แต่อย่างที่กล่าวในวีดีโอเรื่องอื่นในช่องรับฟังนี้ ตอนนี้ศูนย์วีซ่าแห่งชาติได้เริ่มส่งคำร้องมาตามสถานทูตที่ประเทศไทยแล้ว จึงมีการดำเนินการเกี่ยวกับวีซ่า K-1, K-3 และวีซ่าคู่สมรส จึงเห็นได้ว่าใน 2 เดือนที่ผ่านมามีการเปลี่ยนแปลงมากมายและผมคาดว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงต่อไปภายใต้ฝ่ายบริหารชุดนี้