For the English transcript of this video, please go to the following link:

https://www.legal.co.th/resources/visa-immigration-law/visa-news/asean-should-not-rush-common-visa-system/

วีดีโอเรื่องนี้จะกล่าวถึงความเป็นไปได้ที่จะมีระบบวีซ่าคล้ายกับกลุ่มเชงเก้น ผมคิดจะทำวีดีโอเรื่องนี้หลังจากที่ผมได้อ่านบทความใน Pattaya Mail, pattayamail.com, หัวข้อเรื่องว่า:Visa differences impede progress toward a Schengen-style south east Asia ความแตกต่างของวีซ่าเป็นอุปสรรคต่อการก้าวไปสู่วีซ่าแบบเชงเก้นในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ครับ แนวคิดเกี่ยวกับวีซ่าแบบเชงเก้น เรามาดูในรายละเอียดกันครับ ในทวีปยุโรปโดยเฉพาะในเขตที่เรียกกันว่าเขตพื้นที่เชงเก้น มีระบบอนุญาตให้ผู้ที่ถือวีซ่าเชงเก้นสามารถเดินทางเข้าประเทศของตนได้ ไม่ว่าผู้นั้นจะผ่านเข้ามาทางประเทศใดในกลุ่มประเทศสมาชิกก็ตาม เรากำลังพูดถึงอะไรอยู่? คือในทวีปยุโรป มันเป็นไปได้ที่จะยื่นขอวีซ่าเชงเก้นโดยไปที่สถานทูตของประเทศสมาชิกในกลุ่มเชงเก้น และเมื่อคุณเดินทางเข้าประเทศสมาชิกนั้นแล้ว หากคุณต้องการที่จะข้ามชายแดนไปยังประเทศอื่นๆในกลุ่มเชงเก้น คุณก็สามารถทำได้

ช่วงนี้มีการพูดกันถึงความเป็นไปได้ในการประกาศใช้กฎระเบียบและการสร้างแผนการปฏิบัติในประเทศไทยเพื่อที่จะดำเนินรอยตามสิ่งที่ว่านั้น ผมหมายถึงในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เลยนะครับไม่ใช่เฉพาะประเทศไทย - เพื่อที่จะดำเนินรอยตามสิ่งที่ว่านั้น ในบริบทของ ASEAN, ซึ่งคำนี้ย่อมาจาก Association of Southeast Asian Nations หรือสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ 

กลับมาที่ หนังสือพิมพ์ Pattaya Mail, pattayamail.com, ในหัวข้อเรื่องว่า: Visa differences impede progress toward a Schengen-style south east Asia ความแตกต่างของวีซ่าเป็นอุปสรรคต่อการก้าวไปสู่วีซ่าแบบเชงเก้นในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ขอยกข้อความโดยตรงจากบทข่าวความดังนี้ ซึ่งผมจะกล่าวแค่บทความที่เล็กๆนะครับ ผมขอแนะนำผู้ที่รับชมวีดีโอเรื่องนี้ให้ไปอ่านบทความทั้งหมด เพื่อจะได้มุมมองที่มากกว่านี้ ข้อความที่ขอยกมาโดยตรงคือ: "ประธานฝ่ายบริหารของบริษัท VietSense Travel คุณ Nguyen Van Tai ได้กล่าวว่ากลุ่ม ASEAN ไม่ควรที่จะรีบทำวีซ่าร่วม เพราะประเด็นเกี่ยวกับปัญหาความไม่มั่นคงทางการเมืองยังไม่ได้รับการแก้ไขกัน" ผมได้พูดถึงเรื่องนี้ในวีดีโอม้วนอื่นที่ทำพร้อมกับม้วนนี้ มาดูถึงรัฐชาติที่แตกต่างกันเหล่านี้ในเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ การที่ประเทศเหล่านั้นพยายามที่จะทำให้เกิดความคล้ายคลึงกันต่อ EU นั้นเป็นการไม่สมควรเลยจริงๆ; เหมือนกับการเปรียบเทียบระหว่างผลแอปเปิ้ลกับลูกโบว์ลิ่ง เรากำลังพูดถึงของ 2 อย่างที่ต่างกัน ระบบเศรษฐกิจของแต่ละประเทศในกลุ่ม ASEAN ก็ต่างกันอย่างสุดขั้ว โครงสร้างทางการเมืองในหลายประเทศของกลุ่มนี้ก็แตกต่างกันสุดขั้ว; การเข้ามาร่วมกันอยู่ในกลุ่ม ASEAN นั้นเป็นการร่วมมือกันแบบหลวมๆ ตราบเท่าที่ แต่ละประเทศยังมีผลประโยชน์ร่วมกันในเรื่องใดเรื่องหนึ่งอยู่ ด้วยการทำงานด้วยกันภายใต้บริบทของนโยบายการต่างประเทศและนโยบายการค้าของแต่ละประเทศ ยกเว้นการที่สามารถเดินทางไปมาระหว่างกันได้ที่สะดวกหน่อยระหว่างกลุ่มที่ถือพาสปอร์ตของแต่ละประเทศในภูมิภาคนี้ แต่ชาวต่างชาติจะไม่ได้รับผลประโยชน์ที่สำคัญนักในการเข้ามาอยู่ในประเทศของกลุ่ม ASEAN ผมจึงคิดว่าเราไม่น่าจะได้เห็นอะไรที่ใกล้เคียงกับรูปแบบของเชงเก้นที่จะเกิดขึ้นในภูมิภาคนี้ในอนาคตอันใกล้นี้ พูดกันตามตรง ก็เพราะเหตุที่ว่าแต่ละชาติมีความแตกต่างกันมากเกินไปนั่นเอง

ตอนนี้ เราจะได้เห็นถึงข้อตกลงบางอย่างระหว่างประเทศใดประเทศหนึ่งในกลุ่ม ASEAN ที่ต่อไปน่าจะเจริญเติบโตจนครอบคลุมทั้งกลุ่มหรือไม่? ผมว่าอาจจะเกิดขึ้น แต่คงจะต้องใช้เวลานาน อยู่สักหน่อย อีกสิ่งหนึ่งที่ต้องระลึกไว้คือ หน่วยตรวจคนเข้าเมืองของแต่ละประเทศจะมีอาณัติ ที่แตกต่างกัน; มีกฎหมายที่แตกต่างกัน ผมเคยได้ยินคนพูดว่า อุปกรณ์กลไกต่างๆในการตรวจคนเข้าเมืองของแต่ละประเทศ หรืออาจะเป็น ตม.ไทยนี่แหละ ที่มีความเป็นอิสระอย่างสุดลิ่มทิ่มประตู ผมก็คงจะต้องคาดเดาว่าระบบการตรวจคนเข้าเมืองของประเทศอื่นในภูมิภาคนี้ ก็คงจะเป็นเช่นเดียวกัน เพราะฉะนั้น ก็ต้องพูดอีกครั้งว่า มีความเป็นไปได้ที่จะมี “วีซ่าของ ASEAN” ในอนาคต แต่ผมคิดว่าคงอีกนาน เพราะฉะนั้น