Legal Services & Resources
Up to date legal information pertaining to Thai, American, & International Law.
Contact us: +66 2-266 3698
นโยบาย “ 6 ประเทศ 1 จุดหมายปลายทาง“ ของกระทรวงต่างประเทศ ทำให้เวียดนามได้ประโยชน์หรือ?
For the English transcript of this video, please go to the following link:
วีดีโอม้วนนี้จะพูดถึงนโยบาย “6 ประเทศ 1 วีซ่า” ผมคิดจะทำวีดีโอเรื่องนี้หลังจากที่ได้อ่านบทความในหนังสือพิมพ์ Pattaya Mail, pattayamail.com, บทความชื่อว่า:Visa-free travel across Southeast Asia has detail devils to resolve การเดินทางโดยปลอดวีซ่าในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ยังต้องแก้ปัญหาเรื่องรายละเอียดที่จุกจิก จริงครับ ได้มีการพูดคุยกันมาอย่างยาวนานเกี่ยวกับการทำวีซ่าของ กลุ่มอาเซี่ยน แต่ตอนนี้ได้ลดขอบเขตลงมาเหลือเพียงแค่ ประเทศบนแผ่นดินใหญ่ของภูมิภาคเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ อันได้แก่ ลาว กัมพูชา ไทย เมียนมาร์ และ เวียดนาม – เป็นวีซ่าประเภทที่อนุญาตให้เข้าประเทศได้ครั้งเดียวภายในระยะเวลาที่กำหนดและจะหมดอายุทันทีที่เดินทางออกนอกประเทศ
ตามที่ผมเคยพูดไว้แล้วในวีดีโอม้วนอื่น ถึงแม้ผมจะมองในแง่ดีเกี่ยวกับโครงการ "6 ประเทศ, 1 วีซ่า" ก็ตาม ผมไม่ได้อ่อนหัดมากจนคิดว่ามันจะสำเร็จได้เพียงชั่วข้ามคืน เพราะมันหมายถึงหน่วยตรวจคนเข้าเมืองของหลายประเทศ กระทรวงการต่างประเทศของหลายประเทศ ซึ่งแต่ละประเทศก็จะมีความสำคัญเร่งด่วนที่แตกต่างกันออกไป ถ้าถามผมว่ามันจะเกิดขึ้นได้ไหม? ผมก็ว่าคงเกิดได้ แต่ถ้าจะถามว่าจะเกิดเร็วไหม? ผมคิดว่าก็คงไม่เร็วนัก แม้จะพูดได้ว่า ผมก็เคยทึ่งมาก่อนแล้วก็ตาม ขอยกข้อความโดยตรงจากบทความนี้: "คุณ Hoang The Han, อธิบดีของ Dai Vet International Tourism, ได้กล่าวว่าประเทศเวียดนาม จะได้รับประโยชน์สูงสุดจากโครงการ "6 ประเทศ, 1 จุดหมายปลายทาง" เพราะจะมีประชาชนจาก 25 ประเทศเท่านั้นที่สามารถเข้าเวียตนามได้อย่างไม่มีปัญหา และในทางตรงกันข้าม ประเทศไทยเปิดให้ ประชาชนของ 93 ประเทศ เข้าประเทศได้โดยไม่ต้องมีวีซ่าและไม่ต้องเสียเงิน ซึ่งนั่นหมายถึงนักท่องเที่ยวจำนวนมากมายมหาศาลที่แสวงหาการพักผ่อน ปัจจุบันในแต่ละปีจะมีนักท่องเที่ยวถึง 70 ล้านคนที่มาเยือนภูมิภาคนี้ ซึ่งประเทศไทยและมาเลเซียจะกวาดรายได้เอาไปมากกว่าครึ่งหนึ่งของรายได้โดยประมาณจำนวน 9 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ
ก่อนอื่นเลย คือเงินประมาณ 45,000 ล้านเหรียญ ซึ่งผมเองไม่ได้ต่อต้านการมีความร่วมมือระหว่างกันไม่ว่าจะเป็นความร่วมมือระดับนานาชาติ หรือความร่วมมือนอกอำนาจหน้าที่ของรัฐบาลก็ตาม คำว่า”ความร่วมมือนอกอำนาจหน้าที่ของรัฐบาล” หรือ Supra-National จะเป็นคำที่คุณจะได้ยินบ่อยมากขึ้นเมื่อพูดถึง World Economic Forum และพวกกลุ่มโลกาภิวัตน์ ซึ่งมีความต้องการที่จะเข้ามาและทำลายความเป็นรัฐชาติ ตอนนี้ดูเหมือนไม่มีใครชอบการเป็นรัฐชาติอีกแล้ว ความเป็น”ชาตินิยม” จะเป็นอะไรที่คนขำกลิ้ง ผมก็เลยมานั่งคิดว่า ทำไมมันถึงเป็นแบบนี้? ในที่สุดแล้วประเทศไทยจะได้รับประโยชน์อะไรจากการร่วมโครงการนี้? เห็นได้ชัดว่าเวียดนามจะได้รับประโยชน์แน่นอนเพราะว่า จะได้ขี่หลังประเทศไทยและรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางออกจากประเทศไทยไปอีกต่อหนึ่ง ต้องถามอีกครั้งหนึ่งว่าประเทศไทยจะได้อะไร ประเทศไทยจะได้รับผลประโยชน์ตอบแทนอะไรจากการเป็นหัวหอกในการริเริ่มทำ “วีซ่าของอาเซียน” ผมมองไม่เห็นจริงๆ และขอพูดตรงๆว่าผมเริ่มสงสัยนักการเมืองทั้งหลายที่เดินทางไปทั่วโลกไปร่วมประชุมใน forum ต่างๆแล้วกลับมาเพื่อบอกพวกเราว่า ต้องทำในสิ่งที่ไม่เกิดผลประโยชน์อะไรกับเราเลย แล้วทุกอย่างก็จะโยงไปถึงการก่อตั้งกลุ่ม supra-nationalขึ้นมาเพื่อที่จะทำหน้าที่บริหารบางสิ่งบางอย่าง เช่นวีซ่าของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พูดตรงไปตรงมานะ ผลประโยชน์ทางอ้อมที่จะกลับคืนสู่ประเทศไทยคืออะไร? เพราะตอนนี้ประเทศไทยก็ได้ผลประโยชน์ตั้ง 50% จากขนมพายก้อนนี้อยู่แล้ว ถ้าหากทำวีซ่าชนิดนี้ขึ้นมา ก็จะเป็นการเปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวไปเที่ยวที่ประเทศอื่นมากขึ้น คนเหล่านั้นจะใช้ประเทศไทยเป็นแค่เพียงจุดพัก ก่อนที่จะกระโดดไปที่อื่นหรือเปล่า? ผมไม่เชื่อเด็ดขาดว่าเรื่องนี้จะเป็นเกมที่ผู้ชนะได้ไปทั้งหมด ขอพูดชัดๆ ผมเชื่อว่ามีหลายวิธีที่จะทำให้เกิดผลประโยชน์ร่วมกันได้ แต่จากจุดที่ผมยืนอยู่ตอนนี้ ในขณะนี้ และสิ่งที่ผมกำลังอ่านอยู่เกี่ยวกับโครงการนี้ ดูเหมือนว่าในที่สุดแล้วประเทศไทยจะต้องเสียไปมากกว่าที่จะได้รับ เมื่อเราพูดถึงเรื่องแผน "6 ประเทศ, 1 จุดหมายปลายทาง"