Integrity Legal - Law Firm in Bangkok | Bangkok Lawyer | Legal Services Thailand Back to
Integrity Legal

Legal Services & Resources 

Up to date legal information pertaining to Thai, American, & International Law.

Contact us: +66 2-266 3698

info@integrity-legal.com

ResourcesVisa & Immigration LawUS Immigration Lawงานคั่งค้างที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองและสัญชาติของสหรัฐฯ (USCIS) ทำให้เกิดความล่าข้าในกระบวนการพิจารณาวีซ่า

งานคั่งค้างที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองและสัญชาติของสหรัฐฯ (USCIS) ทำให้เกิดความล่าข้าในกระบวนการพิจารณาวีซ่า

วีดีโอเรื่องนี้จะกล่าวถึงสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองและสัญชาติของสหรัฐฯ (USCIS) และการรายงานเมื่อเร็วๆนี้ว่าปริมาณงานคั่งค้างที่สำนักงานนี้ทำให้เกิดการล่าข้าในกระบวนการยื่นวีซ่า

ผมได้อ่านรายงานในเว็บ thinkimmigration.org เขียนโดย Jason Boyd เมื่อวันที่ 30 เม.ย. 2019 หัวข้อว่า USCIS Acknowledges That its Own Policies Compound Case Processing Delays (USCIS ยอมรับว่านโยบายของสำนักงานนี้มีผลต่อความล่าช้าของกระบวนการ)ซึ่งข้อความนี้ยาวพอสมควร ดังนั้นผมจะตัดตอนเพียงประเด็นเดียวมาเล่าให้ฟัง

ความว่า "เมื่อต้นเดือนนี้ USCIS ได้ตอบจดหมายที่ยื่นมาโดยสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 86 คนที่ต้องการให้สำนักงานนี้อธิบายเกี่ยวกับความล่าช้าขั้นวิกฤตของกระบวนการทำงาน  คำตอบครั้งนี้ทำให้เห็นว่านโยบายที่ผิดพลาดของ USCIS คือประเด็นสำคัญของการที่กระบวนการล่าช้าลงมาก ซึ่งมีผลต่อผู้คนนับล้านคน รวมทั้งครอบครัวและธุรกิจสหรัฐฯทั่วประเทศ USCIS ได้เปิดเผยว่าในปี 2018 คำร้องทั้งหมดที่คั่งค้างอยู่มีถึง 5,691,839 เรื่อง ซึ่งสูงขึ้น 29% เมื่อเทียบกับปี 2016 และสูงขึ้นถึง 69% นับจากปี 2014 สิ่งที่น่าแปลก ใจคือ ปัญหานี้เกิดขึ้นได้อย่างไร ในเมื่อในห้วงปี 2017 ถึง 2018 จำนวนคำร้องลดลงในขณะที่งบประมาณได้รับเพิ่มขึ้น  หรือสรุปได้ว่าหน่วยงานนี้ได้รับทรัพยากรมากขึ้นและคำร้องน้อยลง แต่งานคั่งค้างก็ยังเพิ่มขึ้น" แต่ผมขอแนะนำว่าผู้ใดที่สนใจหัวข้อนี้ให้ไปเช็คได้ที่ชื่อเรื่องว่า USCIS Acknowledges That its Own Policies Compound Case Processing Delays (USCIS ยอมรับว่านโยบายของสำนักงานนี้มีผลต่อความล่าช้าของกระบวนการ).

ผมอยากให้ข้อมูลเพิ่มเติมคือ ที่สำนักงานเราเองก็ได้สังเกตเห็นถึงความล่าช้าของการทำงานของ USCIS ต่อคำร้องต่างๆในการขอวีซ่าที่ทางสำนักงานต้องจัดการ รวมไปถึงข้อยกเว้น I-601 นอกจากนี้ยังเห็นด้วยว่าการพิจารณาคำร้อง I-130 และ I-129 ก็ช้าลงเช่นกันถ้าเทียบกับในอดีต กล่าวได้ว่า นานๆทีถึงจะมีคำร้องที่ผ่านกระบวนการอย่างรวดเร็ว ดังนั้น ผมขอย้ำอีกครั้งหนึ่งว่า ผู้ที่กำลังรับชมวีดีโอเรื่องนี้ น่าที่จะได้อ่านบทข้อความนี้ เพราะรายละเอียดจะมีอีกมากมายซึ่งเป็นสิ่งที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่สนใจเรื่องกระบวนการและผลกระทบต่อ USCIS

ผมแนะนำว่าไม่ต้องไปโทษใครเพียงแต่เข้าใจปัญหาและพยายามทำงานไปก่อนล่วงหน้าเพื่อที่จะได้ประสบความสำเร็จในแต่ละคำร้องและในเมื่อรู้ว่า ณ.เวลานี้ USCIS ทำงานล่าช้าจึงเป็นความคิดที่ดีที่สุดที่จะได้ทำการตรวจสอบและจัดเตรียมเอกสารต่างๆในรายละเอียดให้ครบถ้วนสมบูรณ์มากที่สุด เมื่อมายืนคำร้องเพื่อที่จะหลีกเลี่ยงการได้รับคำขอหลักฐานเพิ่มเติมซึ่งอาจเกิดขึ้นได้ถ้าหากเอกสารไม่ครบตั้งแต่ต้น

ดังนั้นในวีดีโอเรื่องนี้ผมอยากจะบอกผู้รับชมว่า เป็นความจริงที่ว่า ในภาพรวมแล้ว กระบวนการทำวานของ USCIS มีความล่าช้าลง และคิดว่าจะเป็นการปลอดภัยมากกว่าถ้าจะประเมินว่า เหตุการณ์คงจะไม่เปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น ดังนั้นถ้าหากจะยื่นคำร้อง ก็ขอให้ยื่นคำร้องที่มีเอกสารประกอบครบถ้วนให้มากที่สุด และก็ไม่น่าจะแปลกใจแต่อย่างใดหากสังเกตได้ว่ากระบวนการทั้งหมดช้าลงเมื่อเปรียบเทียบกับปีที่ผ่านมาก็ไม่ควรที่จะประหลาดใจ